“ฝนเดือนห้า” หน้าร้อน

“ฝนเดือนห้า” หน้าร้อน

แล้งปีนี้ ... ร้อนกว่าแล้งปีกลาย
และร้อนปีกลาย ก็แล้งกว่าร้อนปีก่อน
เดือนห้า หน้าร้อน แล้งร้อนขึ้นทุกปี

น้ำในลำประโดง ดินในท้องร่อง
เหือดแห้งแตกระแหงตั้งแต่เดือนสี่
ไม้น้อยใหญ่ แย่งน้ำจนหยดสุดท้ายที่พอจะมี
ที่อ่อนแอก็ค่อย ... ค่อยอับเฉา
ที่แข็งแรงกว่า “ฝนเดือนห้า”
เทวดาส่งน้ำฟ้าลงมาเล่นสงกรานต์

“ฝนเดือนห้า” หน้าแล้ง ลมแรงพายุร้าย
ความวิบัติทั้งหลาย จะเกิดตามมาหลังห่าฝน
“กรุงเก่า” ... เสียให้กับไอ้พม่าข้าศึกในเดือนนี้
“กรุงใหม่” ... ก็ไม่ต่างกันในเดือนห้า
“เมษาเลือด” เคยเกิดขึ้นในยามคนไทยแตกสามัคคี

มี “ฝนเดือนห้า” ตกลงมาเมื่อคืน
เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ความร้อนเบาบาง
อากาศเย็นสบาย ใบไม้ดูสดชื่น
มองจากหน้าต่าง กอกล้วยที่ใกล้จะตาย ริมคูน้ำ
กลับมีหน่อใหม่แทงดินโผล่ขึ้นมากลางดง
เห็นแล้วนึกถึงคำกล่าวของชาวสวนที่เคยชี้ชวนลูกหลาน
เห็นความจริงของชีวิตจากต้นกล้วยนี้
ต้นกล้วยมีหลายเครือ
เครือหนึ่งมีหลายหวี
หวีหนึ่งมีหลายลูก
ลูกหนึ่งมีหลายเมล็ด
และทุกเมล็ดเกิดเป็นต้นกล้วยได้ทุกเมล็ดไป

ชีวิตก็คล้ายกับ “ต้นกล้วย”
เมื่อชีวิตเก่าจะจากไป ชีวิตใหม่จะเกิดขึ้นแทนตามมา
... เคยคิดบ้างไหมว่า ...?
ทั้งชีวิตผู้จากไป และชีวิตผู้ยังอยู่ ก็คือชีวิตเดียวกัน 

                                                                                                                                      สวนสันติ ตลาดขวัญ นนทบุรี.

ความชื่นฉ่ำ ในยามแห้งแล้ง