บิ๋ม พิชชา อาภากาศ

บิ๋ม พิชชา อาภากาศ

หนึ่งในสีสันของละครในสไตล์แบบไทยๆ ที่จะขาดเสียไม่ได้ นั่นก็คือเสียงกรี๊ดของนางร้ายในบทบาทที่ต้องคอยแย่งพระเอกจากนางเอก เมื่อก่อนใครที่รับบทนางร้าย อาจจะมีแต่ชาวบ้านเกลียด แต่วันนี้ไม่ว่า

“นางร้ายในปัจจุบันไม่จำเป็นที่จะต้องทำให้คนดูเกลียดอีกแล้วล่ะค่ะ เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไป คนดูเขาก็ยอมรับในความเป็นละครมากขึ้น มีบ้างบางคนที่เขารู้สึกหมั่นไส้ว่าตัวละครตัวนี้ อะไรจะขนาดนั้น แต่บางคนเขาก็ชอบเพราะมันดูน่ารัก แต่จะให้มาเหมือนสมัยก่อนที่เขาอินจัดๆ ถึงขั้นเข้ามาทำร้ายคงไม่มี เพราะถึงร้ายเขาก็ยังรักเรา(หัวเราะ)”

 

ถึงแม้ว่าเธอจะรับบทนางร้ายมาหลายเรื่อง แต่แรกเริ่มเดิมทีนั้น นางร้ายคนนี้ก็เคยได้เป็นนางเอกกับเขาอยู่เหมือนกัน แต่มีจุดพลิกผันเสียก่อนทำให้กลายเป็นมาเป็นร้ายแล้วร้ายเลย

 

“บิ๋มเข้าวงการตั้งแต่เข้ามาเทสละครของค่าย เป่า จิน จง เรื่องแรกที่เราเล่น พี่หนุ่ม อรรถพร เป็นผู้กำกับ ชื่อเรื่องว่า สัญญาเมื่อสายัญ เป็นละครชีวิตที่ค่อนข้างเครียด เรื่องนั้นเป็นนางเอกเลย แล้วพอมาเรื่องที่ 2 ก็คือ กุหลาบเล่นไฟ ก็ยังเป็นนางเอกอยู่ แต่ว่าในเรื่องนี้ตัวละครที่เราเล่นจะค่อนข้างเก็บกด เพราะจะถูกคนอื่นกระทำตลอด ทำให้ตอนหลังเริ่มร้ายมากขึ้น แล้วหลังจากที่เล่นเรื่องนี้จบ ก็รับบทเป็นนางร้ายมาตลอด แต่ก็สนุกดีค่ะ” 

 

ในละครเธอจะร้ายแค่ไหนแต่ ในชีวิตจริงของผู้หญิงคนนี้หากคุณได้สัมผัสแล้วจะรู้สึกว่าเธอช่างเป็นคนที่น่าหลงใหลจริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นคำพูดคำจาหรือความคิดอ่านที่มีอยู่ในตัวเธอ

 

“ถ้าถามนิสัยบิ๋มจริงๆ ค่อนข้างจะตรงกันข้ามกับที่เห็นในละครเลยนะ ไม่ได้มานั่งชมตัวเองนะ เพราะว่าคนรอบข้างจะรู้ว่าเราเป็นคนอย่างไร อย่างเที่ยวกลางคืน บิ๋มก็จะไม่ค่อยไป เข้าวัดด้วยซ้ำ จริงๆ เป็นเพราะคุณแม่ชอบทำบุญมากๆ และก็จะพาเราไปด้วย ก็เลยทำให้ติดเป็นนิสัย พอโตมาเราเริ่มขับรถเองได้ก็จะขับรถพาคุณแม่ไปทำบุญด้วยกันแทน เพราะว่าเราคิดว่าสิ่งที่เราทำมันเป็นสิ่งที่ดี แล้วก็มีพวกพี่ๆ นักแสดงที่เขาจะคอยแนะนำเรา อย่างพี่ท็อป ดารณีนุช เขาก็แนะนำให้เราไปฝึกสมาธิ บิ๋มก็เลยไปปฏิบัติธรรมที่เสถียรธรรมสถานของแม่ชีศันสนีย์อยู่ 3 วัน ได้อะไรจากตรงนั้นเยอะมาก มันทำให้เราเห็นถึงความอดทน รู้จักรักตัวเอง เพราะเมื่อเราที่เรารักตัวเอง เราก็จะรู้จักรักคนอื่นเป็น”

 

ในละครเธออาจจะหลงรักผู้ชายของคนอื่น แต่ในชีวิตจริงนั้นหัวใจของเธอยังไม่ถูกใครที่ไหนจับจอง แต่ก็ยังฝันว่าสักวันจะเจอคนที่ใช่

 

“ตอนนี้บิ๋มยังไม่มีแฟน ถึงจะเรียนจบแล้วแต่คุณพ่อกับคุณแม่ก็ยังไม่ปล่อยเรา เขายังคอยดูแลเราอยู่ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าบิ๋มเป็นน้องสาวคนเล็ก แต่ก็มีดูๆ กันไว้บ้าง แต่ไม่ขอบอกละกันนะคะว่าเป็นใคร แต่ถ้าถามว่าผู้ชายที่เราชอบเป็นแบบไหน ก็อยากได้แบบที่มีความคิดที่โตกว่าเรา เป็นผู้นำ แล้วก็ฉลาด เคยมีคนถามบิ๋มว่า ระหว่างคนรวย หล่อ ฉลาด บิ๋มจะเลือกแบบไหน คือคำตอบมันอยู่ในตัวอยู่แล้ว เราก็อยากได้คนฉลาด เพราะว่าถ้าหากเขาฉลาด มีสมอง สองสิ่งที่เหลือก็จะตามมาเอง คือความฉลาดจะทำให้เขารวยได้ และเมื่อเขามีความคิดมันก็ทำให้เขาดูหล่อขึ้นได้นั่นเอง เรียกว่าหล่อที่ความคิดมากกว่า”

 

ฉบับนี้เธอเปลี่ยนบทบาทจากนางร้ายมาถ่ายแฟชั่นเซ็ตน่ารักๆ ให้กับ MiX โดยมีสัตว์เลี้ยงแสนรักของเธอคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ด้วย

 

“สำหรับแฟชั่นเซ็ตนี้ ครั้งแรกที่ถ่ายก็ตื่นเต้นอยู่เหมือนกันนะ เพราะว่ามันเป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่สำหรับบิ๋ม แต่พอถ่ายไปสักพักก็เริ่มโอเค คอนเส็ปต์ของเซ็ตก็เป็นประมาณว่าเราอยู่บนเตียง เพิ่งตื่นนอน แล้วก็อยู่กับสัตว์เลี้ยงที่เรารัก ปกติบิ๋มเองก็จะเป็นคนที่รักสัตว์อยู่แล้วด้วย สำหรับเจ้าตัวเล็กนี้ก็ชื่อ Happy ก็จะคอยอยู่ด้วยกันเป็นปกติอยู่แล้ว พอเรามาถ่ายภาพนิ่ง ก็อยากให้มันมีส่วนร่วมด้วย เพราะมันเป็นสัตว์เลี้ยงที่บิ๋มรักมากๆ อย่างเวลาที่เขาเห็นเรา เขาจะดีใจมากๆ แล้วก็จะคอยตามเราตลอด ถึงเขาจะแสดงออกให้เห็นว่าทุกคนในบ้านเขาก็รักเหมือนกัน แต่เขาก็จะแสดงออกว่ารักบิ๋มมาก เวลามีใครมาใกล้ๆ Happy ก็จะขู่ตลอด คือเขารักด้วยความบริสุทธิ์ใจมากๆ ค่ะ” 

 

วาเลนไทน์ปีนี้ของเธอ ถึงแม้จะไม่มีหนุ่มๆ ข้างกาย แต่เธอก็ฝันไว้ว่าสักวันหนึ่งจะมีคนมาเติมเต็มให้วาเลนไทน์ของเธอกลายเป็นสีชมพู

 

“บิ๋มอยากไปดินเนอร์ที่ Sirocco เพราะว่ามันสูงดี แล้วข้างบนมันก็ดูสวยมากๆ ถ้าคนที่เรารักพาเราไปบรรยากาศมันจะดูโรแมนติกมากๆ บิ๋มจะอยู่ในชุดราตรีเดรสสั้น แล้วก็มีแค่เราสองคน คิดว่าเพียงเท่านี้ วาเลนไทน์ปีนั้นของบิ๋มก็คงมีความสุขแล้วล่ะค่ะ”

 

ตอนนี้ปล่อยให้นางร้ายสุดสวยเซ็กซี่ของเรา เฝ้าคอยใครสักคนของเธอต่อไปก่อนแล้วกันนะครับ แต่ เอ...หรือว่าจะเป็นคุณที่ทำให้ความฝันของเธอเป็นจริงครับ 

Pretty in Pink!