Valentine’s Sickness
ใครที่มีความรักแล้วก็จะรู้สึกว่ามีชีวิตชีวา ชุ่มชื่นหัวใจ มีอะไรให้ทำตั้งมากมายหลายอย่าง ชีวิตมีคุณค่า และพร้อมที่จะทำอะไรเพื่อวันข้างหน้าเสมอๆ เหมือนกับว่าความรักเป็นน้ำเลี้ยงเพื่อหล่อหลอมให้ชีวิตได้เดินต่อไป แต่แล้วหากวันหนึ่งผลัดตกกระไดความรักไม่เป็นดังที่หวัง ชีวิตพลิกกลับตาลปัตร หน้ามือเป็นหลังมือ คนที่เราเคยคิดว่ารักเรามากที่สุด หันหลังเดินจากไปอย่างไม่แคร์เราแม้แต่น้อย เราจะทำอย่างไร
ตัวอย่างมีให้เห็นอย่างมากมาย หลายคนที่เลือกที่จะจบทางเดินของชีวิตตนเองลงด้วยอายุเพียงเท่านั้นหลังจากที่ถูกคนรักบอกเลิก แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่พร้อมจะยืนหยัดและต่อสู้กับชีวิต แม้ต้องเดินด้วยเท้าคู่เดิมที่ไม่มีใครมาคอยเคียงข้างก็ตาม
เรื่องแบบนี้ใครไม่เจอเข้ากับตัวเองคงไม่ทราบว่าผลกระทบที่ตามมาจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากเรารู้จักและพร้อมที่จะรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ก็มีโอกาสที่จะทำให้เราพ้นวิกฤตรักอกหักนี้ไปได้อย่างไม่ยากเย็น
ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่าร่างกายของเรานั้นสุขภาพใจเป็นส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเมื่อเรารู้สึกว่าเราผิดหวัง อกหักกระบวนการทางร่างกายจะเกิดความเครียดขึ้นโดยอัตโนมัติ และเมื่อความเครียดเพิ่มขึ้น วิตามินซีและบีก็จะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานเพื่อไปเลี้ยงสมอง และเมื่อเราเกิดความเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้วิตามินเหล่านี้หมดลงอย่างรวดเร็วด้วย ผลที่ออกมาก็คือ สมองของเราจะขาดพลังงานในการทำงาน ทำให้เกิดอาการความเครียดที่รุนแรงเพิ่มขึ้นไปอีก
วิธีการง่ายๆ อย่างแรกเพื่อรักษาอาการอกหักนั่นก็คือ ควรให้ร่างกายได้รับวิตามินบีและซี ในระดับที่พอเพียงต่อภาวะความเครียดที่เกิดขึ้น โดยอาจจะเป็นในรูปแบบของวิตามินชนิดเม็ด เลือกแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ กินสักวันละ 3 ครั้ง เช้า กลางวัน เย็นจนกว่าจะทำใจได้ ไม่ต้องห่วงว่าวิตามินเหล่านี้จะถูกสะสมในร่างกายจนเกินไปและทำให้เกิดอันตราย เพราะเมื่อไรที่มันมากเกินไป ร่างกายก็จะขับออกมาทางเหงื่อหรือปัสสาวะของเรา
การออกกำลังกายก็เป็นวิธีทางอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลายและลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อเกิดความอัดอั้นตันใจขึ้นมา ความคิดที่พลุ่งพล่านมักจะทำลายสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเสมอ นอกจากนี้การออกกำลังกายเกิน 20 นาทีขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ร่างกายหลั่งสารเอนโดรฟินออกมา ซึ่งสารตัวนี้จะไปสั่งสมองให้ทำงานอย่างมีความสุข ทำให้ร่างกายเรารู้สึกปลอดโปร่ง จนบรรเทาเรื่องราวที่ผ่านมาได้
การเลือกกินอาหารก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้อาการอกหักลดน้อยถดถอยลง เวลาที่เราผิดหวังหรือเสียใจ อาจทำให้เราเกิดความรู้สึกเบื่ออาหาร เอาแต่คิดว่าโลกนี้โหดร้ายและอยากจบชีวิตลงเสียตรงนั้น แต่หากเรายอมฝืนใจสักนิดคิดถึงคนข้างหลังสักหน่อยกินอะไรลงท้องบ้างก็มีส่วนช่วยต่อเติมและเป็นน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตให้มีแรงสู้ต่อไป ซึ่งผักสดและผลไม้สดถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในยามนั้น เพราะนอกจากในผักสดผลไม้สดจะมีวิตามินต่างๆ ที่ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้แล้ว ยังมี ไฟโตนิวเตรียน ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ร่างกายเสริมภูมิต้านทานป้องกันโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
สิ่งสำคัญอย่างที่สุดสำหรับคนอกหักที่อยากรักษาให้หายขาดก็คือ อย่าพยายามปิดตัวเอง เปิดใจให้พร้อมออกไปรับลมหนาวในยามค่ำคืนหรือแสงแดดอุ่นในยามเช้าบ้าง เพื่อให้ความคิดได้เปลี่ยนมุมมอง หันมามองโลกใบเดิมด้วยความคิดใหม่ เพื่อให้ได้รักใหม่ แต่หัวใจดวงเดิม