Pier 59

Pier 59

Pier 59 ตั้งอยู่บนชั้น 59 ตกแต่งในสไตล์ร่วมสมัย ให้ความรู้สึกสบาย เป็นส่วนตัว ของตกแต่งหลายๆ ชิ้นของที่นี่เป็นเนื้ออะคริลิกเกือบทั้งหมด เช่น โต๊ะ เก้าอี้ หรือแม้กระทั่งแก้วน้ำก็ยังใช้อะคริลิกใสสีน้ำเงินอมเขียวมรกตประดุจท้องทะเลมาประดับ แสงสะท้อนจากเสาน้ำสุดหรูหราก็เปลี่ยนสีไปมาได้หลากหลาย ทั้ง ฟ้า เหลือง แดง สร้างบรรยากาศให้โรแมนติก นอกจากนี้คุณยังจะได้ชมวิวทิวทัศน์มุมกว้างของกรุงเทพฯ บนถนนสาทร และบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มองเห็นบางกระเจ้า โอเอซิสใกล้เมืองกรุงอย่างใกล้ชิด

 

ขนมปังและดิปปิ้งถูกเสิร์ฟมาก่อนหน้านี้ พร้อมๆ กับสลัดหอยปีกนกซิกเนเจอร์ซึ่งจะเปลี่ยนเวียนหมุนไปตามโอกาส ขนมปังก้อนกลมๆ ที่ทั้งเหนียว นุ่ม รสชาติมีเอกลักษณ์ส่งกลิ่นหอมยวนใจ ดิปปิ้งที่ยกมาคู่กันก็มีให้เลือกถึงสามชนิด ทั้งซอสมะเขือเทศสูตรพิเศษ ทูน่าซอส และเนยแข็งก้อน เพียงแค่รสชาติของสลัดหอยปีกนกก็เป็นการเริ่มต้นมื้ออาหารที่น่าประทับใจแล้ว

 

กลับมาที่ Appetizer ที่พนักงานให้คำอธิบายเมื่อสักครู่ Grill Scallop with Steamed New Potato, Tomato Confit, Kalamata Olive and Caper Berry เนื้อหอยเชลล์สดๆ ตัวใหญ่ ที่ผ่านการหมักด้วยโอลีฟออล์ยและนำไปทอดบนกระทะ มีมะเขือเทศ และลูกแคปเปอร์เบอร์รี่วางเคียงข้างกัน รสชาติของหอยเชลล์ทั้งนุ่ม หอม และมีความหวานเมื่อกินกับมันฝรั่งสดใหม่ที่หั่นมาเป็นแว่นๆ หรือลูกแคปเปอร์เบอร์รี่ ก็ให้รสชาติเข้ากันได้เป็นอย่างดี

 

ถัดมาก็เป็นซุปรสชาติเข้มข้นที่เรียกว่า Spinach cream soup, Sweet Shrimp with Smoked Herring Roe ซุปผักขมที่ได้ผักขมผสมกับครีมสดแล้วนำไปปั่นรวมกัน จากนั้นนำไปผ่านการต้มประมาณ 10-15 นาที แต่งหน้าด้วยกุ้งหวานสไตล์ญี่ปุ่นและไข่ปลาเฮอร์ริ่งรมควัน สำหรับจานนี้ ใครที่ไม่ชื่นชอบผักก็กินได้อย่างสบาย เพราะไม่มีรสชาติหรือกลิ่นของผักเข้ามากวนแม้แต่น้อย มีแต่ความเข้มข้นที่หอม มัน หวาน ของน้ำซุปเท่านั้น

 

หลังจากที่สองจานแรกถูกเสิร์ฟผ่านไป ก่อนที่จะเข้าสู่ Main Course ก็มีไอศกรีมรสเชอร์เบทไว้เพื่อล้างรสชาติของจานอื่นๆและยังเพื่อปรับสภาพของลิ้นให้เข้าสู่โหมดที่จะรับรสชาติของจานหลักได้อย่างเต็มที่

 

Broiled Salmon, Japanese Cucumber, Ginger Stalk with Wasabi Cream อร่อยสมกับที่รอคอยสำหรับแซลมอนนำเข้าจากนอร์เวย์ชิ้นใหญ่ หนัก 200 กรัม ผ่านการหมักด้วยมิโซะ 1 คืน จากนั้นก็นำไปย่างด้วยเตาถ่าน และนำมาราดด้วยซอสแตงกวา มิโซะ วาซาบิ ซึ่งเป็นการผสมผสานรสชาติระหว่างมิโซะและวาซาบิได้อย่างเอร็ดอร่อย ให้โลกแห่งตะวันตกอย่างเนื้อปลาแซลมอนจับคู่กับรสชาติแห่งตะวันออกของญี่ปุ่นอย่างวาซาบิได้อย่างยอดเยี่ยม 

 

ส่วนใครที่ชื่นชอบเนื้อ จานนี้เป็นเมนูแนะนำ Grilled Wagyu Flank, Seared Foie Gras, Red Paste, Poached White Asparagus เนื้อวายูส่วนต้นขาถูกหมักด้วยมิโซะแดง ทำให้เนื้อทั้งนุ่มทั้งน่ากิน เมื่อรวมกับตับห่านและหน่อไม้ฝรั่งขาวที่คู่กันมา ก็เพิ่มรสชาติให้ดูน่ากินมากยิ่งขึ้น

 

ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง Marinated Citrus Fruits, Yuzu Ice Cream ไอศกรีมรสส้มยูสุของญี่ปุ่นคลุกเคล้าด้วยผลไม้ตระกูลส้มนานาชนิด ทั้งส้มเช้ง ส้มโอ ส้มซันควิก ส้มยูสุ ให้รสชาติชื่นใจจริงๆ

 

ใครที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัว ที่ห้องอาหาร Pier 59 ยังมีห้องส่วนตัวที่จุคนได้มากถึง 8-10 ท่าน ให้คุณได้สัมผัสกับความเป็นกันเอง คลอเคล้าด้วยเสียงเพลงและอาหารอร่อยอย่างที่คุณหาที่ไหนไม่ได้ครับ

 

How to Go?

จากสวนลุมไนท์บาร์ซาร์ตรงเข้ามาที่เส้นถนนสาทรใต้ ประมาณ 200-300 เมตร สังเกตซ้ายมือจะมีป้ายโรงแรมบันยันทรีกรุงเทพฯ อยู่ เลี้ยวซ้ายเข้าไปด้านในจะมีพนักงานคอยต้อนรับอยู่ครับ ที่นี่เปิดตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 5 ทุ่ม โทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 0-2679-1200

อาหารถูกวางลงบนโต๊ะพร้อมกับเสียงของพนักงานเสิร์ฟ