ศรัณย์ ชัยปาณี

ศรัณย์ ชัยปาณี

“อายุมันไม่ได้เป็นตัวจำกัดว่าจะบริหารดีหรือไม่ดีครับ งานที่ออกมามันต้องมีทีมงานที่ดี ผมเชื่อว่าทีมงานของเราทุกคนมีคุณภาพหมด ตั้งแต่สเตชั่นโคโปรแกรมไปจนถึงมิวสิคไดเร็คเตอร์ ครีเอทีฟ โปรดิวเซอร์ ทุกคนเป็นทีมเวิร์คหมดครับ ถึงทุกคนอายุจะยังน้อยกันอยู่ แต่ถ้าเราเปรียบเป็นทีมฟุตบอล เราก็คงเหมือนทีมอาร์เซนอล เราไม่จำเป็นต้องดึงตัวเก๋าๆ มา เราไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินซื้อมากมาย อันนี้มันเป็นความท้าทายด้วย เรียกว่าทำอย่างไรที่จะดึงศักยภาพของคนออกมา แล้วใช้ให้ดีที่สุด”

 

กว่าจะมาเป็น 98.5 Good FM อย่างเช่นทุกวันนี้ คงต้องย้อนกลับไปถึงสมัยคุณยายของคุณแบงค์ เพราะท่านเป็นผู้ที่ได้รับสัมปทานคลื่นวิทยุมาจากรัฐบาลในขณะนั้น ซึ่งในเวลาต่อมาทางรัฐบาลได้กำหนดให้ผู้ที่ได้รับสัมปทานคลื่นวิทยุต้องมาบริหารคลื่นของตัวเอง ทำให้คุณพ่อของคุณแบงค์ต้องเข้ามาบริหารคลื่นวิทยุในชื่อคลื่นสมัยนั้นว่า 98.5 Breeze FM ซึ่งเป็นคลื่นที่เปิดเพลงแจ๊ชขับกล่อมผู้ฟังเป็นที่โดดเด่นอยู่บนหน้าปัดวิทยุ

 

ระหว่างนั้น เมื่อคุณแบงค์เรียนจบปริญญาตรีสาขาการตลาดจากประเทศอังกฤษ เขาก็เริ่มเข้ามาเรียนรู้งานที่คลื่นวิทยุ ก่อนที่จะกลับไปเรียนต่อในระดับปริญญาโทสาขาเดียวกันที่ประเทศเดิมอีกครั้ง

 

“ความจริงแล้วครอบครัวผมอยู่ในสายเอเจนซี่มาก่อน นอกจากทางด้านดนตรีที่ผมชอบ อีกวิชาหนึ่งก็คือมาร์เก็ตติ้ง คือนอกจากMBA ซึ่งเรียนบริหารธุรกิจแล้ว มาร์เก็ตติ้งก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เข้ากับทุกอาชีพได้หมด แล้วมันมีด้านครีเอทีฟเข้ามาด้วย ไม่ใช่หนักเหมือนไฟแนนซ์หรือเศรษฐศาสตร์วิชาการ อันนั้นมันก็หนักไปหน่อย ก็เลยเอานี่แหละ กลางๆ เรียนมาร์เก็ตติ้ง เรียนการตลาด คือสิ่งที่เรียนมามันไม่ได้เอามาใช้โดยตรง แต่มันทำให้เรารู้จักระบบความคิด ว่าสเต็ปหนึ่ง สอง สาม เป็นยังไงครับ”

 

หลังจากเรียนจบเขาก็ได้เข้ามาทำคลื่นวิทยุอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนผ่านจาก 98.5 Breeze FM มาเป็น98.5 Good FM นอกจากเป็นผู้บริหารแล้ว เขายังเป็นมาร์เก็ตติ้งไดเร็คเตอร์ ดูแลโครงสร้างโดยรวม และประสานงานกับทางAE รวมทั้งทางฝ่ายโปรดักชั่นด้วย โดยได้ทางบริษัทลักษ์ 666 มาช่วยในส่วนนี้ด้วย

 

“เรามาคิดคอนเส็ปต์ใหม่ คิดสไตล์ คิดแคมเปญใหม่หมด เราต้องการให้คลื่นเราแตกต่างยังไง เพราะฉะนั้นเราเริ่มจากศูนย์ทั้งหมด แต่ว่าก็ยังมีไกด์จากบอร์ดบริหารว่าควรจะเป็นอย่างนี้ แต่โดยหลักแล้วทางบอร์ดก็จะปล่อยให้เราคิดใหม่หมด

 

“ที่เกิดมาเป็น Good FM ก็เพราะเราอยากทำคลื่นที่ดี โดยไม่ได้คิดว่าจะต้องดังสุดๆ หรือติดท็อปไฟว์ภายใน 6 เดือน แต่ความตั้งใจของเราคือทำสิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเพลง ด้านคอนเทนท์ ดีเจ กิจกรรมในคลื่น ทุกอย่างต้องดี ดีในที่นี้ คือ ดีทางด้านเพลง ดีทางด้านสาระ สนับสนุนให้คนทำสิ่งดีๆ กับสังคมและให้ความสนใจกับตัวเองด้วย

 

“ปี 2552 เราจะมีแคมเปญ DO ดี คือทำดีทุกเดือน เราจะชวนผู้ฟังของเราไปทำกิจกรรม ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ลดภาวะโลกร้อนโดยการปลูกป่า ช่วยเหลือมูลนิธิเด็กกำพร้า

 

“อย่างกิจกรรมตอนนี้ที่ทำอยู่ก็คือกิจกรรม Good Auction ที่จัดตอน 6โมงเย็น เราร่วมกับ KTC เขาสนับสนุนของรางวัลให้เรานำมาประมูลกันหน้าไมค์ด้วยราคาที่ต่ำมาก อย่างราคาของอยู่ที่ 5,000 ถึง 20,000 บาท เราเริ่มต้นที่ 500 บาท เพราะเราไม่ได้หวังกำไรตรงนี้ คนฟังก็ประมูลไปเรื่อยๆ มันอาจจะไปจบที่ 1,000 บาท หรือ 2,000 บาทก็แล้วแต่เขา แต่เงินที่เราได้มา เราจะเอาไปมอบให้มูลนิธิทั้งหมดเลยครับ”

 

การทำกิจกรรมเป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้รู้ว่าคลื่นวิทยุมีเร็ตติ้งมากน้อยแค่ไหน แต่การวัดเร็ตติ้งด้วยการสำรวจจากเอเจนซี่ที่มีการสำรวจกันอย่างเป็นระบบว่าคลื่นนั้นๆ อยู่ในลำดับที่เท่าไหร่ ก็มีผลในเรื่องของการวางแผนว่าจะใช้งบโฆษณากับคลื่นไหนเท่าไร

 

“คลื่นเพลงมีหลายสิบคลื่น ทุกคลื่นแข่งกัน ถ้าเราบอกว่าเราเปิดเพลงดีที่สุด มันพูดยาก เพราะแต่ละคนก็มีความคิดไม่เหมือนกันวัดไม่ได้ว่าเพลงนี้เพราะไม่เพราะ เพราะฉะนั้นวัดกันที่คุณภาพของการจัดรายการ การเรียงเพลงที่ดี ดีเจมีคุณภาพ อย่างตอนนี้เราก็ได้คุณหมึก วิโรจน์ ควันธรรม มาจัดในช่วงเช้าก็ถือว่าทำให้คลื่นเราแข็งขึ้น รวมทั้งคุณบ๊อบบี้ นิมิตร ลักษมีพงศ์ ซึ่งก็อยู่ในแวดวงคนวิทยุมา 10 กว่าปี แต่เราไม่ได้เอาแค่ประสบการณ์อย่างเดียว เราต้องการความเฟรช ความใหม่เข้ามาผสมด้วย ดีเจรุ่นใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกหว้า ลูกปัด หนึ่ง ETC”

 

นอกเหนือจากการทำงานที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่เมื่อเทียบกับอายุ เวลาว่างของเขาก็เหมือนคนหนุ่มทั่วไปคือ ดนตรีและกีฬาแต่สิ่งที่เขาชอบมากเป็นพิเศษก็เห็นจะเป็นฟุตบอล โดยมีทีมรักอย่างลิเวอร์พูล ซึ่งเขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ ถึงขนาดสมัยที่เรียนอยู่อังกฤษ ลงทุนขับรถเป็นชั่วโมงๆ จากลอนดอนไปดูฟุตบอลที่เมืองลิเวอร์พูล เราจึงถามทีเล่นทีจริงว่าแล้วไม่สนใจทำคลื่นกีฬาบ้างหรือ เขายิ้มก่อนตอบว่า

 

“เคยคิดครับ ผมชอบนะ แต่ผมไม่รู้ลึกขนาดนั้น แต่ถ้าเกิดให้ทำลิเวอร์พูลเรดิโอ อันนี้ผมมั่นใจว่ารู้แน่ๆ (หัวเราะ)”

ตอนอายุ 26 ปีคุณกำลังทำอะไรอยู่ครับ?