Precious of Time ล้ำค่าเหนือกาลเวลา : Scoop
นิตยสาร MiX Magzine กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 19 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราได้มอบความสุข สาระ และแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านมาโดยตลอด ซึ่งการครบรอบปีที่ 19 นี้ เปรียบเสมือน “Precious of Time ล้ำค่าเหนือกาลเวลา” สำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมา และถ้าพูดถึงคำนี้คงจะต้องนึกถึงอัญมณีและเครื่องประดับที่มีความเป็นอมตะ ซึ่งฉบับนี้เราได้นำเอาเรื่องราวของ MiX Magazine และอัญมณีซึ่งมีความงดงามที่หลายคนอาจยังไม่รู้มาให้ชมกัน
ล้ำค่าเป็น ‘นิต(ย์)’ กับ ‘สาร(ะ)’ ความรู้ที่อยู่เหนือกาลเวลา
ถ้าหากว่า ‘อัญมณี’ คือสมบัติล้ำค่าที่ธรรมชาติสรรสร้างให้แก่มนุษย์ แล้วสิ่งใดเล่าคือสมบัติที่มนุษย์สรรสร้างให้แก่กันเอง หลายคนอาจตอบว่าวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยีซึ่งพาความเจริญมาให้ แน่นอนว่านั่นไม่ใช่คำตอบที่ผิดเสียทีเดียว เพียงแต่เราอาจจะลืมศาสตร์ใกล้ตัวบางอย่างซึ่งเปลี่ยนแปลงโลกนี้ไปตลอดกาลไม่ต่างกัน สิ่งที่กำลังจะพูดถึงอยู่นี้คือ ‘ภาษา’
มนุษย์เราเริ่มนับประวัติศาสตร์ตั้งแต่มีการกำเนิดขึ้นของ ‘อักษร’ และ ‘ภาษา’ ดังนั้นจึงไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่ามันคือหนึ่งในสมบัติล้ำค่าที่มนุษย์เราสร้างสรรค์ขึ้นมาเอง เพราะภาษานำมาซึ่งวัฒนธรรม วัฒนธรรมนำมาซึ่งอารยะ อารยะนำมาซึ่งองค์ความรู้ ทุกสิ่งทุกอย่างต่างเรียงร้อยกันมาจากจุดเริ่มต้น และเมื่อโลกเรากว้างใหญ่ขึ้น มนุษย์ที่ผ่านการเรียนรู้มาอย่างโชกโชนจึงเลือกทำการถ่ายทอดวิทยาการต่าง ๆ ผ่านตัวอักษรที่แทบจะไม่มีวันลบเลือนหายไป ก่อนวิวัฒนาการมาเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็กลายเป็นสิ่งที่เรารู้จักกันในชื่อ ‘หนังสือ’
หนังสือนั้นมีหลากหลายประเภท แต่ทุกประเภททำหน้าที่เดียวกันนั่นคือการบันทึกเนื้อหาสาระรวมถึงความบันเทิงต่าง ๆ ผ่านตัวอักษร ซึ่งนิตยสาร MiX ที่คุณกำลังอ่านอยู่นี้ก็ถือเป็นประเภทหนึ่งของหนังสือเช่นเดียวกัน ทั้งยังมีบทบาทในการถ่ายทอดเรื่องราวไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ และรวบรวมคอนเทนต์อันเข้มข้นเพื่อประโยชน์สูงสุดของนักอ่านอีกด้วย เมื่อเราถอดความหมายของ ‘นิตยสาร’ ออกดูจะพบว่า ‘นิตย (นิตย์)’ แปลว่า สม่ำเสมอ และ ‘สาร (สาระ)’ แปลว่า เนื้อหา ดังนั้นสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทนี้จึงแทบจะแปลตรงตัวว่าคือแหล่งรวบรวมเนื้อหาสาระซึ่งทำการเผยแพร่อย่างสม่ำเสมอ เป็นที่มาของกระบวนการสร้างสรรค์นิตยสารที่ออกวางขายตามช่วงเวลาที่กำหนดอย่างรายเดือนหรือรายสัปดาห์นั่นเอง
ไม่ต่างจากหีบสมบัติอันเต็มไปด้วยอัญมณีมีค่า เพราะในแผ่นกระดาษสี่เหลี่ยมของนิตยสารคือพื้นที่รวบรวมความล้ำค่าภายใต้ตัวอักษรซึ่งสอดแทรกเนื้อหาในแต่ละคอลัมน์สำหรับการถ่ายทอดข่าวสาร และความรู้อันเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน แม้ว่าในยุคโลกาภิวัตน์สื่อสิ่งพิมพ์กำลังจะค่อย ๆ เลือนหายไป ขณะเดียวกันนิตยสารเองก็ต้องปรับตัวตามยุคสมัยจากหน้ากระดาษไปสู่หน้าจอ แต่สิ่งที่ยังคงเดิมคือเนื้อหาซึ่งอัดแน่นอยู่ภายในนั้นเปรียบดั่งขุมทรัพย์มีค่าที่ควรรักษาเอาไว้ไม่มีทางสูญสิ้นไปตามกาลเวลา หรือหากอนาคตข้างหน้าสื่อสิ่งพิมพ์อย่างนิตยสารจะต้องปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมอีกสักกี่ครั้ง ทว่าสิ่งที่จะไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยนั่นคือตัวอักษรที่ร้อยเรียงและทำหน้าที่สื่อสารเพื่อถ่ายทอดประโยชน์แก่นักอ่านทั้งหลาย
เพราะฉะนั้นหากลองมองดูให้ดีเราจะเห็นว่าความล้ำค่า บางครั้งก็มาในรูปแบบนามธรรมเสียมากกว่า อย่างเช่นอัญมณีที่แม้จะอยู่ในรูปลักษณ์ใด ผ่านกาลเวลาไปนานเท่าไหร่มันก็ยังคงมีค่า ขณะเดียวกันสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ แม้จะเปลี่ยนรูปแบบไปตามกาลเวลา แต่ยังคงมีคุณค่าเสมอเพราะข้อมูลความรู้ที่อยู่ภายในนั้นถือเป็นความอมตะที่ไม่มีวันจางหาย ทั้งยังจะติดตราตรึงอยู่กับผู้อ่านอีกนานแสนนาน นับว่าล้ำค่าไม่แพ้สิ่งใด ๆ
แสงแวววาวแห่ง ‘อัญมณี’ สะท้อนความล้ำค่าหลากหลายบริบท
อัญมณี หนึ่งในสมบัติทางธรรมชาติสุดแสนล้ำค่า ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นดั่งขุมทรัพย์แห่งพลังและอำนาจอันไม่ได้เกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์ อัญมณีนั้นปรากฏอยู่ตามหน้าประวัติศาสตร์อารยธรรมมนุษยชาติมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่อดีตกาล อีกทั้งด้วยคุณสมบัติ 3 ประการสำคัญนั่นคือ ‘สวยงาม คงทน หายาก’ จึงไม่แปลกที่มันจะถูกกำหนดมูลค่าเอาไว้เสียสูงลิบลิ่ว
มีแร่อัญมณีมากมายถูกค้นพบตามแหล่งอารยธรรมต่าง ๆ ซึ่งบทบาทของมันไม่เพียงแค่เป็นเครื่องประดับเพื่อความสวยงามเท่านั้น หากแต่มนุษย์ยังเชื่อมโยงเข้ากับความเชื่อ โชคลาง ใช้เป็นสื่อกลางทางศาสนา รวมถึงมีไว้ส่งเสริมสถานะทางสังคมอีกด้วย โดยส่วนมากเครื่องประดับอัญมณีจะได้รับการออกแบบให้ประณีต วิจิตร และซับซ้อน รูปทรงทางธรรมชาติ เช่น ดอกไม้ พระจันทร์ ดวงดาว กลายเป็นแรงบันดาลใจเพื่อสร้างสรรค์ลวดลายเหล่านี้
แต่แท้จริงแล้วการปฏิวัติวงการเครื่องประดับครั้งใหญ่ของโลกเริ่มในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งนำโลหะมีค่าอย่างทองหรือแพลทินัมมาใช้ดีไซน์ให้มีความทันสมัย เน้นไปที่รูปทรงเรขาคณิตอย่างทรงกลมและทรงเหลี่ยมต่าง ๆ เพื่อความเรียบง่าย ราคาก็ย่อมเยาลง ดังนั้นเวลาต่อมาการเข้าถึงอัญมณีและเครื่องประดับหรูหราเลยไม่ได้จำกัดไว้เฉพาะกลุ่มชนชั้นสูงอีกต่อไป แต่กลายเป็นแฟชั่นความงามที่คนทั่วไป (อาจมีกำลังทรัพย์สักหน่อย) พอจะเข้าถึงได้มากขึ้น
เครื่องประดับกับความหมายเบื้องหลังอัญมณี
ยุคโบราณ (The Ancient Time)
- ประเทศจีนใช้ หยก (Jade) เป็นสัญลักษณ์แทนตัวของจักรพรรดิ เพื่อบ่งบอกถึงความมั่งคั่งและบารมีอำนาจ ซึ่งหากใครที่มีความรู้ทางด้านภาษาจีนคงจะสังเกตได้ว่าตัวอักษร 玉 (อวี้) ที่แปลว่าหยกนั้น มีรูปแบบคล้ายคลึงกับตัวอักษร 王 (หวัง) ที่แปลว่าจักรพรรดิด้วย
- หินอัญมณีทึบแสง อ่อนตัว และเจียระไนง่ายอย่าง ควอตซ์ (Quartz) เทอร์ควอยซ์ (Turquoise) แจสเปอร์ (Jasper) มักถูกนำมาใช้แกะสลักเป็นรูปแมลงปีกแข็ง (ด้วง) อันเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาของอียิปต์ อีกทั้งสีน้ำเงินซึ่งพบได้จากหินอัญมณีเหล่านี้ ยังเป็นสีประจำราชวงศ์อียิปต์โบราณด้วย
- อัญมณีจากอินเดียและศรีลังกาทั้ง พลอย (Sapphire) มรกต (Emerald) โกเมน (Garnet) ถูกนำเข้ามายังกรีกผ่านเส้นทางสายไหม โดยชาวกรีกโบราณเชื่อว่าอัญมณีมีพลังเหนือธรรมชาติ อาทิ พวกเขาเชื่อว่าการสวม พลอยสีม่วง (Amethyst) ขณะดื่มไวน์จะช่วยแก้อาการเมามายได้ ซึ่งคำว่า Amethyst ก็มีที่มาจาก Amethystos ที่แปลว่าสติสัมปชัญญะในภาษากรีกนั่นเอง
ยุคกลาง (The Middle Ages)
- ผู้หญิงแถบเอเชียใต้ไม่มีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของทรัพย์สินยกเว้นเครื่องประดับอัญมณี (เพราะผู้ชายมักไม่นิยมสวมใส่สิ่งของสวย ๆ งาม ๆ) ดังนั้นหากหย่าร้างกับสามี เครื่องประดับเหล่านี้จะทำหน้าที่เสมือนเป็นหลักประกันในชีวิตของพวกเธอได้
- นอกจากแหวน กำไล สร้อยคอสำหรับผู้หญิงแล้ว ยังมีเครื่องประดับในรูปแบบอาวุธของผู้ชาย เรียกว่า ‘Small Sword’ ดาบขนาดเล็กสำหรับพกไว้ป้องกันตัว ได้รับความนิยมมากแถบยุโรป โดยด้ามดาบมักทำจาก ทอง (Gold) และฝังด้วย เพชร (Diamond) เพื่อบ่งบอกความเป็นชนชั้นสูง ขณะเดียวกันก็สามารถแสดงความเป็นชายได้
ยุคโมเดิร์น (The Modern Time)
- การเข้ามาของเทคโนโลยีส่งผลต่อพฤติกรรมเลียนแบบอาทิ อิทธิพลของคนดังบนหน้าจอที่สวมใส่เครื่องประดับสวยงามทำให้มันได้รับความนิยมไปทั่วจนกลายเป็นแฟชั่นในหมู่คนทั่วไป เพราะในยุคนี้ตราบใดที่มีกำลังทรัพย์ก็สามารถครอบครองอัญมณีได้ ไม่ได้สงวนไว้เฉพาะกลุ่มชนชั้นปกครองอีกแล้ว
- มากกว่าความสวยงาม มุมมองเกี่ยวกับเครื่องประดับยังวนกลับมาที่การเป็นตัวแทนแห่งพลังธรรมชาติหรือสิ่งช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจอีกด้วย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือฮิปปี้ (Hippie) และโบฮีเมียน (Bohemian) ซึ่งสไตล์จะเน้นไปที่ความธรรมชาติ ความมีอิสระ แสดงออกถึงวิถีชีวิตอันชัดเจนผ่านเครื่องประดับ
ยุคปัจจุบัน (The Present)
- แนวโน้มความนิยมของอัญมณีได้เปลี่ยนแปลงไปสู่ความเรียบง่าย เน้นรูปแบบเฉพาะตามสไตล์ของแต่ละคนหรือที่เรียกกันว่า ‘น้อยแต่มาก’ เพื่อการสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวันไม่ใช่เพียงตามงานสำคัญหรือโอกาสพิเศษอย่างเช่นในอดีต
- มีการกำเนิดขึ้นของ เพชรสังเคราะห์ (Lab Grown Diamond) ทำให้ราคาอัญมณีถูกลงและเข้าถึงง่ายในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ข้อดีคือคุณสมบัติและรูปร่างจะไม่ต่างกับเพชรแท้ที่เกิดจากธรรมชาติ ส่วนข้อเสียคือไม่สามารถนำไปเก็งกำไรได้เหมือนอย่างเพชรแท้
- มนุษย์ยังคงผูกโยงความเชื่อเข้ากับอัญมณีอยู่เช่นเดิม มีเทรนด์ ‘เครื่องประดับสายมู’ ที่ตีความหมายด้านโชคลางต่าง ๆ เข้ากับตัวอัญมณี เช่น กำไลหินมงคล อัญมณีประจำเดือนเกิด แหวนเพชรแก้ชง เป็นต้น
นิตยสารอัญมณีแห่งโลกสิ่งพิมพ์
นิตยสารในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับยุคดิจิตอลไปเป็นที่เรียบร้อย มีเพียงส่วนน้อยนั้นที่ยังคงพิมพ์เป็นเล่มวางแผงขายกันอยู่ อย่างไรก็ตามนิตยสารเปรียบเสมือนอัญมณีล้ำค่าอยู่เสมอ เนื่องจากแต่ละเล่มนั้นผ่านกระบวนคัดสรรเนื้อหาตั้งแต่ธีมเล่ม บทสัมภาษณ์ รวมถึงบทความต่าง ๆ ที่ใช้ทีมงานมากกว่าการเขียนหนังสือปกติทั่วไป
เริ่มตั้งแต่หน้าปกนิตยสารกว่าจะได้นางแบบสักคนต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน เหมือนกับเพชรที่เปร่งประกายสวยงามต้องใช้เวลานานกว่าจะถูกค้นพบ ภาพแฟชั่นของนางแบบที่ถูกถ่ายทอดผ่านเลนส์ เปรียบได้กับการเจียระไนอัญมณีให้เปล่งประกายในทุกมุมมอง ส่งต่อมาถึงการจัดวางองค์ประกอบทุกหน้ากระดาษ ไม่ต่างจากการประดับอัญมณี
ในเรื่องของคุณค่า นิตยสารเป็นศูนย์รวมความรู้ความบันเทิง นิตยสารบางเล่มกลายเป็นของหายากเป็นแหล่งข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ที่นักสะสมต้องการครอบครอง เปรียบได้กับความลึกซึ้งของอัญมณีแต่ละเม็ดที่ถูกเจียระไนด้วยความพิถีพิถัน โดยมีมูลค่าได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้นิตยสารยังสอดแทรกความบันเทิง จากบทสัมภาษณ์และคอลัมน์ที่ชวนอ่าน เหมือนกับแสงระยิบระยับของของอัญมณี ที่สร้างความเพลิดเพลินใจให้กับผู้พบเห็น
นิตยสารจึงไม่ใช่เพียงสิ่งพิมพ์ที่รอให้หายไปตามกาลเวลา แต่มีการปรับตัวให้อยู่ในรูปแบบคอนเท้นต์ที่สามารถนำไปอยู่แพรตฟอร์มต่าง ๆ ได้เหนือกาลเวลาไม่แพ้อัญมณีที่มีงดงามมาอย่างยาวนาน
ตั้งแต่ MiX Magazine ดำเนินงานมา มีนางแบบปกที่สวยงาม รวมทั้งสาระและความบันเทิงจำนวนมาก ในโอกาสที่ MiX Magazine กำลังเดินเข้าสู่ 19 ปี เราจึงขอคัดเลือกปกนิตยสารที่โดนใจ เพื่อย้อนอดีตให้ได้ชมกันว่ามีปกใดที่น่าสนใจบ้าง
แก้ว อภิรดี ภวภูตานนท์ / ISSUE 1, December 2006
นี่คือนิตยสารฉบับแรกของ MiX Magazine ถือกำเนิดถึงเดือนธันวาคม พ.ศ.2549 เราได้คุณ ‘แก้ว อภิรดี ภวภูตานนท์’ มาเป็นนางแบบปกซึ่งถือว่ามีชื่อเสียงมาในขณะนั้น โดยวันแรกที่วางแผงกระแสแรงจนเป็นที่พูดถึงกันพอสมควร
Car lover Girl / ISSUE 19, June 2008
ฉบับนี้เกิดจากคุณ ‘นานา ไรบีนา’ ซึ่งเป็นดาราและผู้คร่ำหวอดในวงการรถยนต์ นำนางแบบในสังกัดมาร่วม ร่วมงานกับ MiX Magazine ถ่ายแบบแฟชั่นปกถึง 15 ชีวิต (รวมคุณนานาด้วย) ถือว่ามีจำนวนคนมากที่สุดตั้งแต่ MiX Magazine ดำเนินงานมา
คุณหญิงแม้น / ISSUE 35, October 2009
เราได้รับเกียรติจาก ‘ม.ร.ว. หญิงแม้น’ (แม้นนฤมาส สวัสดิ์ - ชูโต (ราชสกุลเดิม ; ยุคล) มาเป็นนางปกในคอนเซ็ปต์สบาย ๆ กับชายทะเล ที่แม้ว่าภาพที่ออกมาจะเห็นทะเลนิดเดียว แต่ความจริงเราลงทุนเดินทางไปถ่ายทำถึงเกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ได้ภาพออกมาดีที่สุด
แพง ขวัญข้าว เศวตวิมล / ISSUE 39, February 2010
ปกนี้ไปถ่ายแบบกันที่ย่านเสาชิงช้า ความพิเศษคือวันนั้นเธอเอาสุนัขแสนรักติดมาด้วย ทำให้เมื่อเข้าถ่ายแบบจริงภาพการอุ้มสุนัขกลับดูสวยงามเป็นธรรมชาติกว่าภาพอื่น จึงเป็นที่มาของการถ่ายแบบแฟชั่นที่มีสุนัขเข้าร่วมเฟรมครั้งแรกและครั้งเดียวของ MiX Magazine
แก้ม กวินตรา โพธิจักร / ISSUE 54, May 2011
‘แก้ม กวินตรา’ เธอมีตำแหน่ง Miss Thailand Universe ปี 2008 ซึ่งหลังจากมีการถ่ายแบบแฟชั่นปกนี้ออกไป กระแสความเซ็กซี่ของเธอมีมากอย่างคาดไม่ถึง ทำให้นิตยสารปกนี้ Sold Out อย่างรวดเร็ว
ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน / ISSUE 64, March 2012
ในยุคนั้นนักร้องลูกทุ่งที่มาแรงที่สุดคนหนึ่งคือ ‘ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน’ (ใบเตย อาร์สยาม) ด้วยความเป็นลูกทุ่งสมัยใหม่ในแบบฉบับโฉบเฉี่ยวเซ็กซี่วาบหวิว นั่นเป็นเหตุผลที่เราได้ชวนเธอมาถ่ายแบบแฟชั่นกับเรา
ทับทิม มัลลิกา จงวัฒนา และ ปลื้ม สุรบถ หลีกภัย / ISSUE 75, February 2013
สมัยนั้นทั้งสองคนเป็นคู่รักที่โด่งดังมาจากการทำรายการออนไลน์ VRZO ซึ่งการถ่ายแบบครั้งนั้นกระแสดีมากโดยเฉพาะโลกออนไลน์ นอกจากนี้ ‘ปลื้ม สุรบถ’ ยังนับว่าเป็นผู้ชายคนแรกที่มาขึ้นปกให้กับ MiX Magazine แม้ว่าปัจจุบันความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะกลายเป็นอดีตแล้วก็ตาม
ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ / ISSUE 88, March 2014
ในยุคนั้น ‘ใหม่ ดาวิกา’ มีชื่อเสียงในฉายานางเอกพันล้านกับภาพยนตร์เรื่อง ‘พี่มาก..พระโขนง’ ที่แม้การถ่ายแบบแฟชั่นในครั้งนั้นไม่ได้เน้นวาบหวิวมากนัก เน้นสื่อสารอารมณ์ทางสายตาแต่เธอมีค่าดาเมจ (Damage) แรงมากจนแฟนคลับแทบใจละลาย
ใบเฟิร์น - พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ / ISSUE 99, February 2015
นางเอกขวัญใจมหาชนที่เราชักชวนเธอมาถ่ายแบบปกได้สำเร็จ ในเวลานั้นเธอโด่งดังมาจากภาพยนตร์เรื่อง ‘สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก’ การถ่ายแบบแฟชั่นปกครั้งนั้นสร้างกระแสเฮือฮาอยู่พักใหญ่ เนื่องจากเป็นงานถ่ายแบบที่แฝงความเซ็กซี่ครั้งแรกของเธอ
น้ำชา ชีรณัฐ ยูสานนท์ / ISSUE 110, January 2016
ช่วงเวลานั้น ‘น้ำชา’ มีชื่อเสียงในฐานะดาราและนักร้องดังในเพลง ‘รักแท้ ยังไง’ จนกระทั่งได้มาร่วมงานกับเรา การถ่ายแบบครั้งนั้นสร้างกระแสความเซ็กซี่เล็ก ๆ โดนใจแฟนคลับของเธอไม่น้อย
แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด / ISSUE 121, December 2016 / ISSUE 132,
เป็นนางแบบอีกหนึ่งท่านที่ได้ร่วมงานกับ MiX Magazine 2 ครั้ง เนื่องจากทนกระแสเรียกร้องจากแฟนคลับไม่ไหว โดยในครั้งแรกเธอมาในรูปแบบผู้หญิงสมัยใหม่ที่แฝงความเซ็กซี่ ส่วนในครั้งที่ 2 เธอมาถ่ายแบบแฟชั่นปก เป็นตัวแทนผู้หญิงในการเป็นกระบอกเสียงในเรื่องการยุติความรุนแรงกับแคมเปญ Zonta Say No
แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ / ISSUES 86, January 2014 / ISSUE 144, November 2018
ในครั้งแรกแพนเค้กมาแบบนางแบบปกใน ISSUES 86 และครั้งที่ 2 ISSUE 144 ซึ่งเป็นเล่มครบรอบ 12 ปี ของนิตยสารพอดี เล่มนี้เองเราได้ร่วมทำกิจกรรมหลายอย่าง ซึ่งตัวแพนเค้กเองได้มาเยี่ยมออฟฟิศ MiX Magazine สร้างความตื่นเต้นให้ทีมงานเป็นอย่างมาก
เบลล่า ราณี แคมเปน / ISSUE 113, April 2016 / ISSUE 150, May 2019
เราร่วมงานกับเบลล่าครั้งแรกใน ISSUE 113 จากนั้นเธอไปโด่งดังกับละครเรื่อง ‘พรหมลิขิต’ ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในแฟชั่นเซ็ตแนวสตีทฟู๊ด ISSUE 150 โดยยกกองไปถ่ายกันที่เยาวราช และนี่คือเล่มสุดท้ายที่ MiX Magazine ที่พิมพ์ด้วยกระดาษ ก่อนเปลี่ยนเป็นเล่มดิจิตอลวางในแพรตฟอร์มต่าง ๆ จนถึงปัจจุบัน
หลิงหลิง ศิริลักษณ์ คอง / ISSUE 167, November 2020
ISSUE 167 เป็นเล่มที่ครบรอบ 14 ปี ของ MiX Magazine พอดี ในครั้งนั้นเราถ่ายแฟชั่นปกในธีม Asian Movie and Culture ซึ่งหลิงหลิงเป็นนางแบบที่เหมาะกับธีมนี้มากที่สุด ปัจจุบันเธอมีชื่อเสียงโด่งดังจากซีรี่ส์แนวแซฟฟิกโรแมนติก ‘ใจซ่อนรัก’
4EVE / ISSUE 173, May 2021
4EVE คือกลุ่มศิลปินสาว Girl Group ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดวงหนึ่งของไทย ที่มีโอกาสมาถ่ายแบบแฟชั่นกับเรา นอกจากนี้ยังมีการทำภาพโปสการ์ดของศิลปินทุกคนมาจำหน่ายให้กับแฟนคลับ โดยนำเงินที่ได้มามอบให้กับมูลนิธิบ้านนกขมิ้นอีกด้วย
มารีย์ รูเม็ท / ISSUE 190, April 2023
นับเป็นครั้งแรกเราได้นำนักมวยไทยอาชีพจริง ๆ จากประเทศเอสโตเนียมาขึ้นปกนิตยสาร แม้จะถ่ายแบบแฟชั่นเป็นครั้งแรกแต่ ‘มารีย์ รูเม็ท’ ทำได้ดีไม่แพ้นางแบบมืออาชีพ สร้างความฮือฮาให้วงการมวยเป็นอย่างมาก
อุ้ม อิษยา ฮอสุวรรณ / ISSUE 196, July 2024
เธอคือนักแสดงหลายบทบาทสลัดภาพสาวหวาน สู่ลุคเซ็กซี่สุดเท่ห์ผ่านแฟชั่นของ MiX Magazine สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนคลับของเธอไปไม่น้อย โดยเฉพาะแฟชั่นเซ็ตหน้าปกของเราที่โดนใจใครหลายคนไปเต็ม ๆ
“ข้าแผ่นดินรัชกาลที่ ๙” / เล่มพิเศษ 2016
MiX Magazine จัดทำเล่มพิเศษ บอกเล่าทุกเรื่องราวเกี่ยวกับ ‘พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร’ ภายในเล่มประกอบด้วยเนื้อหาทั้งพระราชประวัติ, พระราชกรณียกิจ, พระอัจฉริยภาพด้านดนตรี พระอัจฉริยภาพด้านกีฬา และโครงการในพระราชดำริที่พระองค์ทรงเป็นต้นคิด
ความภักดีแห่งศรัทธา / เล่มพิเศษ 2013
หนังสือ “ความภักดีแห่งศรัทธา” สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติต่อ ‘พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร’ ผ่านผลงานศิลปะของศิลปิน คุณชูศักดิ์ วิษณุคำรณ ถ่ายทอดภาพวาด 99 ภาพ 99 ความในใจจากพสกนิกร
อัญมณีอมตะแห่งความล้ำค่า
ถ้าพูดถึงตัวอัญมณีและแร่มีค่านั้นถือกำเนิดมาพร้อม ๆ กับการเกิดของโลก ผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยามานับล้านปี กว่าจะกลายมาเป็นหินอัญมณีหรือแร่มีค่า อย่างเช่นเพชรเกิดจากการตกผลึกของคาร์บอนด้วยความดันสูงและอุณภูมิที่สูง 900-1,300 องศาเซลเซียส ลึกประมาณ 150 กิโลเมตรใต้พื้นโลก ความลำบากและการหายากของอัญมณีและแร่มีค่าเหล่านี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีมูลค่าสูงและเป็นที่ต้องการของคนจำนวนหนึ่ง
นอกจากกระบวนการขุดหาเต็มไปด้วยความยากลำบากแล้ว กระบวนการเจียระไนด้วยช่างฝีมือด็สำคัญมาก กว่าจะทำออกมาเป็นอัญมณีที่สมบูรณ์และสวยงามได้ สิ่งเหล่านี้จึงเป็นที่ต้องการของผู้ที่มีงบประมาณมาพอจึงได้เป็นผู้ครอบครอง
ปัจจุบันไม่ว่าจะเกิดเหตุการ์ณวิกฤตอะไรบนโลก แต่ความต้องการสะสมอัญมณียังคงอยู่ตลอด เพราะนอกจากจะเป็นเรื่องของมูลค่าแล้วมันยังมีคุณค่าทางจิตใจ และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน อัญมณีได้แสดงถึงความล้ำค่าเหนือกาลเวลาอย่างแท้จริง
สิ่งที่มีค่าเหนือกาลเวลาบนโลกนี้มีอยู่จำนวนมาก MiX Magazine จึงขอเลือกอัญมณีและแร่มีค่าที่ผู้คนนิยมกันมากที่สุด 19 ชนิดมาให้ได้ชมกัน
เพชร (Diamond) นับเป็นอัญมีที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักด้วยความงามและราคาแพง อีกทั้งเป็นอัญมณีชนิดหนึ่งที่แข็งที่สุดในโลกอีกด้วย
ทองคำ (Gold) โลหะมีค่าสีเหลืองทองที่คนทุกชนชั้นนิยมเก็บสะสม นอกจากเป็นเครื่องประดับแล้วยังเป็นสินทรัพย์ที่มั่นคงได้อีกด้วย
ทับทิม (Ruby) อัญมณีสีแดงสดมีความแข็งรองจากเพชร โดยทัมทิมที่มีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศไทยมีชื่อว่าทับทิมสยาม เป็นที่ต้องการของตลาดมาดดยตลอด
มรกต (Emerald) มรกตมีจุดเด่นคือสีเขียวสดใสมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้มีความเชื่อว่านำโชคและความมั่งคั่งให้กับผู้ครอบครองอีกด้วย
ไพลิน (Sapphire) เป็นอัญมณีส่วนใหญ่มีสีน้ำเงินเข้มหนึ่งในอัญมณีที่มีราคาแพงที่สุดในโลก อยู่ในตระกูลเดียวกับทับทิมและบุษราคัม มีความแข็ง 9 โมห์ รองจากเพชร
ไข่มุก (Pearl) เป็นอัญมณีที่มาจากสัตว์คือหอย โดยเกิดจากการที่มีสิ่งเเปลกปลอมเข้ามาในเปลือกของหอยมุก ถือเป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่เร็วกว่าอัญมณีชนิดอื่น
โอปอล (Opal) เป็นอัญมณีในตระกูลควอตซ์ (Quartz) มีความวาวแบบแก้วและยางสน มีลวดลายที่เปล่งประกายหลากสี
เงิน (Silver) เงินมีลักษณะโลหะสีขาวมันวาว เป็นแร่นำไฟฟ้าได้ดีที่สุดชนิดหนึ่งแต่ด้วยการที่มีราคาแพงจึงนิยมใช้ทำเครื่องประดับมากกว่า
ทองขาว (White Gold) ทองขาวคือทองคำแท้ มีโลหะผสมของทองคำและโลหะสีขาว เช่น เงิน และ แพลเลเดียม ซึ่งคนมักสับสนกับทองคำขาวที่ความจริงคือแพลทินัม (Platinum)
แพลทินัม (Platinum) คนนิยมเรียกว่าทองคำขาว แต่ในความเป็นจริงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทองคำ แต่มาจากแร่แพลตตินั่มเป็นโลหะที่มีโทนสีขาวหรือเทาอ่อน
บุษราคัม (Yellow Sapphire) เป็นแร่ตระกูลเดียวกับทับทิมและไพลิน มีหลายเฉดสีเช่น เหลืองอมน้ำตาล เหลืองอมส้ม เหลืองอมเขียว
อาเกต (Agate) คนไทยเรียกว่าโมรา มีหลายสีแต่ที่นิยมคือฟ้าอมเทาลายขาวหรือฟ้า มีสีและความทึบใสแตกต่างกัน ทางด้านความเชื่อช่วยสร้างความสมดุลในชีวิตให้กับผู้สวมใส่
ทัวร์มาลีน (Tourmaline) เป็นแร่ที่มีองค์ประกอบทางเคมีที่ซับซ้อน จัดอยู่ในอัญมณีตระกูลพลอยเนื้ออ่อนที่มีหลากสี ตั้งแต่โปร่งแสงจนทึบแสง
อเล็กซานไดรต์ (Alexandrite) อเล็กซานไดรต์มาจากชื่อพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 แห่งรัสเซียเนื่องจากค้นพบในสมัยนั้น แต่คนไทยเรียกว่าเจ้าสามสี เนื่องจากมันเปลี่ยนสีได้ตามแหล่งกำเนิดของแสง
อะความารีน (Aquamarine) เป็นพลอยที่อยู่ในตระกูลเบริลเช่นเดียวกับมรกต มีสีฟ้าน้ำทะเลน้ำเงินแกรมเขียวถึงน้ำเงินเข้ม
โรสควอตซ์ (Rose Quartz) จุดเด่นหินโรสควอตซ์คือมีสีชมพู พบได้หลายพื้นที่ทั่วโลกราคาไม่สูงมาก นอกจากนี้ยังเป็นตัวแทนอัญมณีแห่งรักอีกด้วย
เพริดอต (Peridot) เพริดอตจัดเป็นพลอยอัญมณีเนื้ออ่อนเป็นแร่ในกลุ่มแร่โอลิวีน (Olivine) คือมีสีเขียวมะกอกสดใสเงางาม
ซิทริน (Citrine) เป็นหินควอตซ์สีเหลืองอ่อนจนถึงสีส้มน้ำตาลทอง มีตำนานว่าอัญมณีชนิดนี้เป็นหินแห่งดวงอาทิตย์ที่สามารถกักเก็บแสงได้
สปิเนล (Spinel) เป็นพลอยเนื้ออ่อนหลากสี ตั้งแต่สีชมพู แดง น้ำเงิน ด้วยความที่สีคล้ายทับทิมพลอยสปิเนลจึงถูกเข้าใจผิดว่าเป็นทับทิมอยู่บ่อยครั้ง
การปรับตัวของอัญมณีและเครื่องประดับ
วงการอัญมณีและเครื่องประดับถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ส่วนในประเทศไทยอุตสาหกรรมนี้มีมูลค่าการส่งออกเป็นอันดับ 3 ของประเทศ อย่างที่ทราบกันดีว่าในเรื่องธุรกิจจำเป็นต้องมีอุปสงค์และอุปทาน ถ้ามีผู้ขายแต่ไม่มีผู้ซื้อทุกอย่างก็ล่มสลายทันที
หลายครั้งที่เศรษฐกิจโลกชละตัวผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย โดยเฉพาะในช่วงโควิด- 19 กิจกรรมทั้งโลกแทบจะหยุดลงวงการอัญมณีและเครื่องประดับก็ได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน เนื่องจากเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย ทำให้คนที่อยู่ในวงจรธุรกิจนี้ได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ
ในส่วนของประเทศไทยซึ่งถือว่าติดอันดับในการผลิต และส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับโลก ก็ประสบปัญหาไม่แพ้กัน แต่รัฐบาลไทยและภาคเอกชนช่วยเหลือกันในทุกภาคส่วน ตั้งแต่การสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศ การหาตลาดใหม่ โดยเฉพาะสนับสนุนให้จังหวัดจันทบุรีเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีแห่งหนึ่งของโลก
แต่สิ่งที่จะทำให้ประเทศไทยต้องเร่งทำคือการสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาไปสู่ระดับโลก แทนที่จะเป็นผู้ผลิตเพียงอย่างเดียว โดยสิ่งที่จะเข้ามาช่วยคือนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เริ่มตั้งแต่สร้างความน่าเชื่อถือในสถาบันที่ออกใบรับรองอัญมณี รวมไปถึงการขายของออนไลน์ที่มีระบบรัดกุม ตั้งแต่เรื่องการชำระเงินจนถึงกระบวนการส่งของให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย นอกจากนี้อาจใช้เทคโนโลยีให้มีการทดลองสวมใส่อัญมณีแบบออนไลน์ เป็นต้น
ในอนาคตวงการอัญมณีและเครื่องประดับยังต่อพบกับอุปสรรคที่ท้าทาย ตั้งแต่เรื่องความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ของคู่แข่งที่เพิ่มจำนวนขึ้นในขณะที่ตลาดอยู่ในจุดเดิม รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ที่นิยมสินค้าแฟชั่นกระแสที่มาและไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่เทรนด์ของโลกที่อาจเปลี่ยนไปลดการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือย เน้นความเป็นแฟชั่นที่คุ้มค่ามากขึ้น
นอกจากนี้สังคมยังให้ความสนใจเรื่องสิ่งแวลดล้อม กระแสรักษ์โลกที่มาแรง ซึ่งกระบวนการเริ่มต้นการทำอัญมณีส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าทำลายสิ่งแวดล้อมจริง จึงต้องแสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหา วงการอัญมณีในอนาคตจึงต้องรับมือและปรับตัว เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์และหาจุดตรงกลางที่ยั่งยืนในสังคมต่อไป
อนาคตของนิตยสารในยุคดิจิทัล
ย้อนกลับไปยังสื่อสิ่งพิมพ์ที่เรียกว่านิตยสาร ที่มีการยอมรับว่าเก่าแก่ฉบับหนึ่งก็คือติดอันดับต้น ๆ ของโลกคือ Erbauliche Monaths-Unterredungen นิตยสารรายเดือนภาษาเยอรมัน เริ่มตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1663 ที่เน้นถ่ายทอดแนวความคิดในเรื่องศาสนาคริสต์นิกายปรอเตสแตนท์
หลังจากนั้นช่วงศตวรรษที่ 20 นิตยสารก็ถูกตีพิมพ์เป็นจำนวนมากในแต่ละประเทศทั่วโลก หลากหลายเรื่องราว ตั้งแต่แฟชั่น บันเทิง เทคโนโลยี การศึกษา ฯลฯ เนื่องจากในสมัยนั้นยังไม่มีเทคโนโลยีสร้างสรรค์คอนเทนออนไลน์แบบในปัจจุบัน นิตยสารจึงกลายเป็นหนึ่งในสื่อที่มีบทบาทสำคัญของมนุษย์ในอีกหลายยุคต่อมา
แต่แล้วในช่วงทศวรรษที่ 21 ทำให้อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์เริ่มสั่นคอน ถูกเข้ามาแทนอย่างรวดเร็ว เมื่อเทคโนโลยีและคอนเทนต์ถูกส่งตรงถึงทุกคนได้อย่างไม่จำกัดอย่าง สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ เป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมถอยของอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์อย่างรุนแรง
สำนักพิมพ์จำนวนมากที่ปรับตัวไม่ทัน เนื่องจากแทบจะไม่มีคนหยิบนิตยสารหรือหนังสือที่เป็นกระดาษมาอ่านอีกต่อไป เม็ดเงินจากโฆษณาก็หายไปแทบหมด เพราะถูกเทไปยังสื่อออนไลน์แทน ส่งผลให้นิตยสารและหนังสือพิมพ์หลายฉบับต้องปิดตัวลง
เมื่อเข้าสู่ยุคดิจิตอลเต็มตัวทางเลือกของคนทำนิตยสารจึงต้องปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล โดยทำการผสมผสานการนำเนื้อหาหรือคอนเทนต์ต่าง ๆ เข้าสู่แพรตฟอร์มอาทิ โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมการผลิตวิดีโอเข้ามาอีกด้วย นิตยสารในยุคใหม่จึงเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเพื่อดึงดูดความสนใจให้กับผู้อ่านได้มากที่สุด
จะเห็นได้ว่านิตยสารนั้นแม้จะเปลี่ยนผ่านความท้าทายมาหลายยุค แต่สิ่งที่นิตยสารมีบทบาทสำคัญในสังคม คือการผลิตคอนเทนต์ในเรื่องสาระ ความบันเทิง เนื้อหาเชิงลึกจากบทสัมภาษณ์คนดังในสังคม ล้วนแต่เป็นเนื้อหาเชิงลึกที่ยังคงมีประโยชน์ต่อสังคม
แม้นิตยสารในรูปแบบของเล่มอาจเปลี่ยนไป แต่คอนเทนต์ยังคงอยู่เสมอ เพียงอาจเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของแพรตฟอร์มต่าง ๆ ไม่ว่าอนาคตสังคมจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน แต่บทบาทของคนทำนิตยสารยังสามารถเผยแพร่ข้อมูลสาระบันเทิงได้อยู่ตลอดเวลา