ความที่เราเป็นคนคิดบวก ทำให้ความคิดด้านลบทำอะไรเราไม่ได้ แก๊ปจะคิดเสมอว่า อะไรที่ไม่ดีมักจะมาแค่ครู่เดียวแล้วก็จะผ่านไป มันไม่มีอะไรที่ไม่ดีแล้วอยู่กับเราตลอดไป ดังนั้นเราต้องตัดให้ไวและไปอยู่กับสิ่งที่เป็นบวกกับเราดีกว่า แก๊ป ชนกสุดา รักษนาเวศ เป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีความโดดเด่นทางด้านฝีมือ ไม่ว่าบทบาทไหน จะนางเอกผู้น่าสงสาร นางเอกสายลุยหรือจะดราม่ายืนหนึ่งเธอก็เอาอยู่ แต่ก่อนจะมาเป็นนักแสดง ตอนเด็ก ๆ เธอเป็นเด็กขี้อายมาก มากจนครอบครัวต้องพาไปทานข้าวและให้ทดลองสั่งอาหารกับพนักงานเอง ซึ่งเธอยอมอดข้าวไม่สั่งเพราะไม่กล้าพูดกับคนแปลกหน้า

เห็นคุณบอกว่าตอนเด็ก ๆ คุณเป็นคนขี้อายมาก

   ใช่ค่ะ แก๊ปถึงขั้นไม่พูดอะไรกับใครเลยจนคุณแม่ต้องใช้วิธีไปทานข้าวนอกบ้านและให้สั่งเมนูที่อยากกินกับพี่พนักงาน ซึ่งแก๊ปก็ไม่สั่งนะคะยอมไม่กิน อายด้วย กลัวด้วยไม่รู้เป็นอะไร อาจเพราะเป็นคนขี้กังวลว่าจะพูดกับคนอื่นยังไง แต่โตมาก็ค่อย ๆ ปรับตัวค่ะ ค่อย ๆ ดีขึ้น

แต่พอเข้าวงการก็มีคอมเมนท์ในทางที่ดีมาก ว่าการแสดงคุณไม่เป็นรองใคร

   ค่ะ ก็ดีใจนะคะดีใจมาก จริง ๆ คอมเมนท์ไม่ว่าจะติหรือชมก็รู้สึกดีใจเหมือนกันเพราะแสดงว่าเขาดูผลงานที่เราเล่น คำติก็จะทำให้เราได้พัฒนา คำชมก็จะเป็นกำลังใจไม่ว่าจะชมอะไรก็ตามเราก็ดีใจหมด

อย่างเรื่องล่าสุด ซ่านเสน่หาก็มีคนอินกับบทบาทที่คุณได้รับเป็นอย่างมาก

   ด้วยตัวบทโดยรวมด้วยค่ะเป็นละครดราม่าที่เข้มข้น ส่วนพาร์ทของแก๊ปก็จะเป็นคู่รองที่น่ารัก เป็นสีสันให้กับเรื่อง ในเรื่องแก๊ปรับบทเป็นแก้ว เป็นนักศึกษาที่มี Energy เยอะมากค่อนข้างลุย ๆ ติดดินคิดบวกพร้อมช่วยพี่ชายตัวเองแก้ปัญหาเสมอ

ตอนเด็ก ๆ เคยวาดฝันมั๊ยว่าจะเข้ามาในวงการบันเทิง

   ไม่เคยค่ะเพราะอย่างที่บอกว่า ขี้อายมากแต่ตอนเด็ก ๆ แก๊ปจะชอบเล่นบทบาทสมมติ เล่นคนเดียว พูดคนเดียว สมมติว่าเราเป็นตัวละคร จำได้เลยว่าตื่นเช้ามาหยิบบาร์บี้มาเล่นมาจินตนาการว่าเราเป็นนางเอก น้องบาร์บี้เป็นนางร้าย จนช่วงมัธยมปลายก็มีโอกาสได้เล่นโฆษณาและมาเล่นละครค่ะ

คุณเริ่มดูแลตัวเองตอนมัธยมปลาย

   แก๊ปเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา ซึ่งเป็นโรงเรียนรัฐบาล ตอนมัธยมต้นต้องตัดผมสั้นแล้วเราก็ไม่ค่อยดูแลตัวเอง แต่พอช่วงมัธยมปลายเป็นรุ่นพี่แล้ว ก็เริ่มรักสวยรักงาม เริ่มผมยาว เริ่มดูแลผิวคุณแม่พาไปดัดฟันด้วย จนมีรุ่นน้องนำภาพแก๊ปไปโพสต์ในเว็บเด็กดี ( Dek-D) ทำให้เราเป็นที่รู้จักมากขึ้นในโรงเรียนก็ยิ่งอยากดูแลตัวเองให้ดีขึ้นจนมีคนชวนไปแคสโฆษณาก็เริ่มเข้าวงการตั้งแต่ช่วงนั้นค่ะ

ในสายตาเพื่อนสนิทคุณเป็นคนยังไง

   เป็นคนใจดีนะคะ (ยิ้ม) แก๊ปจะค่อนข้างใส่ใจรายละเอียด อย่างเวลาเราไปไหนถ้าจำได้ว่าเพื่อนคนนั้นชอบอะไรเราก็จะซื้อให้ ไม่จำเป็นต้องเทศกาลด้วยค่ะ หรืออย่างเพื่อนมาทานข้าวที่บ้าน แก๊ปก็จะจำได้ว่าเพื่อนชอบทานอะไรเราก็จะซื้อมาให้เพื่อนแต่จะเป็นแนวขี้บ่น ชอบบ่นเพื่อน ใครมาสาย ลืมของเราก็จะบ่น ๆ (ยิ้ม)

เวลาคุณเจอสถานการณ์หรือเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่ดี คุณบอกตัวเองว่ายังไง

   แก๊ปมีคำเตือนตัวเองที่เบสิกมากค่ะ แต่มันใช้ได้จริง คือ “อะไรที่มันไม่ดี มันมาแป๊ปเดียว เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป มันไม่มีอะไรที่ไม่ดีและอยู่กับเราตลอดไป” และอยู่ที่มุมมองความคิดของเราด้วยว่า ถ้าอะไรที่ไม่ดี แล้วเรามัวไปจมคิดกับสิ่งที่ไม่ดี เราก็จะมีแต่ทุกข์และสุดท้ายคนที่ทุกข์ก็คือตัวเรา พอเราโตขึ้น ทำได้มากขึ้น อะไรที่ไม่ดี คนที่ไม่ดี เราตัดได้ไวขึ้นและไปอยู่กับสิ่งที่เป็นบวกกับเราดีกว่ามันเหมือนว่าเราเราเรียนรู้มากขึ้น สิ่งนี้ต้องทำแบบนี้นะเข้าใจเหตุการณ์เข้าใจบุคคลมากขึ้น

เป้าหมายในชีวิต

    อยากใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว อยากพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยว แก๊ปเพิ่งมารู้สึกแบบนี้ประมาณ 3-4 ปีเหมือนคิดได้ว่าตัวเรายังมีเวลาได้ใช้ชีวิตกับตัวเองกับเพื่อน แต่กับพ่อแม่ เราไม่รู้ว่าจะใช้โอกาสกับท่านนานขนาดไหน อย่างปีนี้แก๊ปพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวเยอะมาก ซึ่งเราก็รู้สึกดีมากอยากเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ค่ะ ส่วนในวงการบันเทิงก็อยากเป็นนักแสดง อยากได้รับบทบาทหลากหลายขึ้นที่ทำให้เราโตขึ้นและมีพัฒนาการไปเรื่อย ๆ ค่ะ