ผู้ใหญ่ในวัย 30 ++ แทบจะทุกคนรู้จักกับชายที่ชื่อว่า อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ (Arnold Schwarzenegger) เขาเป็นดาราแอคชั่นฮอลลีวู้ดตัวบิ๊กเบิ้ม สำหรับคนที่อายุต่ำกว่า 30 ลงมา อาจจะรู้จักเขาในฐานะอดีตผู้ว่าการรัฐแคลิฟอเนียร์คนที่ 38 และนักแสดงสมทบในภาพยนต์เรื่อง The Expendables ในแต่ละภาค แต่ใน Legend ฉบับนี้เราจะทำให้คุณรู้จักเขาในมุมมองที่ต่างออกไป เราจะพาคุณไปยังจุดเริ่มต้นของเขา ได้เห็นในสิ่งที่เขาทำ ได้เรียนรู้ในสิ่งที่เขาเป็น เพราะจุดเริ่มต้นนั้นคือสิ่งที่สร้างให้เขาได้มีทุกอย่างในปัจจุบันนี้

อาร์โนลด์ถือได้ว่าเป็นดาราที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากถึงมากที่สุด ด้วยชื่อของเขาทำให้แฟรนไชน์ภาพยนตร์ Terminator ยังคงขึ้นชื่อและขายได้อย่างเสมอมา แต่การจะได้มาซึ่งความสำเร็จนั้นไม่ง่ายเลย เขาต้องดิ้นรนพยายามในหลาย ๆ ด้าน ทำในสิ่งที่เขาถนัดให้บังเกิดผลสูงสุดจนเป็นที่ยอมรับของสังคมและวงการอื่น ๆ

อาร์โนลนั้นไม่ใช่อเมริกันชนตั้งแต่เกิด เขาเป็น ชาวออสเตรียที่ย้ายมาอยู่อาศัยในอเมริกาในภายหลัง และสิ่งที่ติดตัวมากับเขาด้วยนั่นก็คือการพูดภาษาอังกฤษสำเนียงเยอรมันที่ไม่ชัดถ้อยชัดคำเท่าไรนัก ทำให้เป็นอุปสรรคในการสื่อสารรวมไปถึงเป็นอุปสรรคในการเบิกทางสู่วงการบันเทิงอีกด้วย ด้วยสำเนียงดังกล่าวทำให้เขาถูกปฎิเสธบ่อยครั้งจากผู้กำกับและค่ายหนังอย่างมากมาย แต่ทุกครั้งที่ถูกปฎิเสธเขาจะพูดกลับไปยังผู้กำกับหรือเจ้าของค่ายหนังเสมอว่า “สักวันหนึ่งคุณจะต้องมาขอร้องให้ผมเล่นภาพยนตร์ให้กับคุณ” อยู่เสมอ และด้วยเรื่องราวดังกล่าวมันทำให้อาร์โนลนั้นต้องกลับไป ตั้งต้นใหม่ หาหนทางแห่งความสำเร็จใหม่จากสิ่งที่เขาถนัดนั่นก็คือการเป็นนักกีฬาเพาะกายนั่นเอง

อาร์โนลนั้นมีชื่อเสียงอย่างมากครับในวงการกีฬาเพาะกาย เขามีชื่อเล่นในวงการว่า “อาร์นี่” ซึ่งจากตรงนี้ผมจะเรียกเขาว่า “อาร์นี่” ตลอดนะครับ โดยอาร์นี่ นั้นได้มีใจรักในกีฬานี้มาแต่เดิมอยู่แล้ว โดยเขาเริ่มจากกีฬายกน้ำหนักมาก่อนมาตั้งแต่อายุ 15 และในช่วงหนึ่งของชีวิตวัยหนุ่มเขาได้เข้าไปเป็นทหารเกณฑ์ของกองทัพออสเตรีย เขาชอบ ในความเป็นทหาร แต่ไม่ชอบระบบของกองทัพ และมีอยู่เหตุการณ์หนึ่งเขาได้หนีค่ายทหาร ออกมาแข่งขันรายการยกน้ำหนักจนได้ ตำแหน่ง มิสเตอร์ ยุโรป จูเนียร์

ตำแหน่งแชมป์หรือการชนะเลิศไม่ได้มีส่วนช่วยในตัวอาร์โนลสักเท่าใดนัก เมื่อกลับไปที่ค่าย เขาก็ต้องชดใช้กรรมในสิ่งที่เขาก่อ นั่นคือการ ติดคุกทหารเป็นเวลา 1 สัปดาห์จากการหนีค่ายออกมานั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามด้วยความเป็นนักกีฬาและความมีชื่อเสียงจากการแข่งขันครั้งนั้น ทำให้เขาได้รับอนุญาติให้ทำการฝึกซ้อมยกน้ำหนัก ภายในค่ายทหารเป็นกรณีพิเศษ และจากจุดเริ่มต้นนี้จากการยกน้ำหนักธรรมดา อาร์โนลจึงได้เริ่มการเพาะกายในอีกลำดับหนึ่งนั่นเอง จนเมื่อเขาออกจากค่ายทหารเขาได้ลงแข่งขันรายการหลัก ๆ มากขึ้น จนได้รางวัลใหญ่รางวัลแรกนั่นก็คือ มิสเตอร์ยุโรป รางวัลชายรูปร่างดีที่สุดในยุโรป ตอนอายุ 19 และต่อด้วยรางวัล Mr. Universe ในปี 1967 ในขณะที่เขามีอายุ 20 ปีเต็ม ซึ่งเป็นการคว้ารางวัลใหญ่ระดับโลกครั้งแรกของเขาถึงแม้ว่า จะเป็นการแข่งขันในระดับมือสมัครเล่นก็ตาม

ช่วงนี้เป็นช่วงที่อาร์นี่นั้นได้ย้ายมาลงหลักปักฐานในอเมริกาอย่างเต็มตัว อาร์นี่ทำงานหลายอย่าง ทั้งลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขายอุปกรณ์กีฬา โดยมีตัวเขานี่แหละเป็นโมเดลหลักในการดึงดูดลูกค้า ซึ่งก็สร้างรายได้ให้กับอาร์นี่ได้อย่างดี แต่อาร์โนลมีความฝันที่จะแสดงภาพยนต์ เขาได้เริ่มแสดงภาพยนตร์ไปด้วยในบทสมทบต่าง ๆ แต่ไม่เคยได้บทบาทหลักหรือสำคัญเลย เขาได้พยายามเข้าไปแคสติ้งงานต่าง ๆ จากทั้งทางผู้กำกับและทางค่ายหนัง แต่ก็เป็นอย่างที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้น ทุกที่ปฏิเสธเขาหมดเพราะด้วยสำเนียงภาษาการพูดของเขามันเป็นไปได้ยาก

ความผิดหวังดังกล่าวทำให้อาร์โนลมุ่งมั่นไปในทางการเพาะกายมากขึ้น คล้ายทำนองว่าดังจาก การแสดงไม่ได้ก็ดังจากตรงนี้ได้ละวะ แถมไปคุยทับ กับคนเหล่านั้นว่า “สักวันหนึ่งคนเหล่านี้จะต้องมาขอร้องให้ตัวเขาเล่นภาพยนตร์ให้” อีก มันก็เหมือน เป็นการพิสูจน์ตนเอง ให้ทั้งตัวเองและคนเหล่านี้ เห็นด้วยว่า ตัวเขานั้นสามารถทำได้จริงอย่างที่พูด และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ครับ อาร์นี่ลงแข่งประกวดในระดับโปร ของรายการ Mr. Universe ในรุ่นใหญ่ ได้รางวัลชนะเลิศถึง 3 ปี ติดต่อกัน ในปี 1968-1969-1970 และข้ามไปแข่งขันความแชมป์รายการ Mr. Olympia รายการแข่งขันเพาะกายที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเขาได้รางวัลชนะเลิศ 6 ปี ติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 1970-1975 กับ 8 รางวัลชนะเลิศที่เขาได้รับ โดยแบ่งเป็นรางวัลชนะเลิศประเภท Overall จำนวน 6 รางวัล และ ประเภท Heavyweight อีก 2 รางวัล

จากนั้นเขาได้พักไปทำการแสดงในภาพยนต์เรื่อง Pumping Iron ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเพาะกาย สู่การแข่งขันระดับโลก ซึ่งเขาได้แสดงเป็นตัวเขาเอง และอาร์โนลได้รับคำชมจากการแสดงในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เขาได้แสดงให้เห็นถึงการกินอยู่ของนักกีฬา ว่าต้องอดทนมากแค่ไหน มีวินัยมากแค่ไหน การจะได้แชมป์ไม่ใช่ เรื่องง่ายและในภาพยนต์เรื่องนี้เองที่ท่า Arnold Press ท่ายกน้ำหนักเล่นหัวไหล่ของอาร์นี่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเป็นท่าที่อาร์นี่เป็นผู้คิดขึ้นเองและเป็นที่นิยม มายังหมู่นักเพาะกายในปัจจุบันนี้

ผลจากการแสดงภาพยนต์เรื่อง Pumping Iron อาร์โนลได้รับคำชมและพูดถึงเป็นอย่างมาก ว่าเขาคือวัตถุดิบของภาพยนตร์ที่หาได้ยาก และเหมือนเป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้นักลงทุนหนังนั้นได้มั่นใจ อาร์โนลได้พักงาน การแสดงและกลับมาฟิตร่างกายลงแข่งในรายการ Mr. Olympia อีกครั้งในปี 1980 ซึ่งทุกคนเรียกการแข่งขัน ในครั้งนี้ว่า The Comeback เขากลับมาคว้าแชมป์ในรุ่น Overall ได้อย่างงดงาม

และนับตั้งแต่นั้นเส้นทางในวงการบันเทิงฮอลลีวู้ดของอาร์นี่ก็เปิดอย่างเต็มตัวบทนำเด่นระดับ Box office ได้เริ่มต้นขึ้น ประเดิมจาก Conan The Barbarian ในปี 1982 และมาดังเป็นพลุแตกกับบทคนเหล็กจักรกลสังหาร ใน Terminator ในปี 1984 ซึ่งเป็นบทที่สร้างชื่อให้กับเขา มากที่สุด บทดังกล่าวนั้นเหมาะกับเขาอย่างยิ่ง จักรกลร่างใหญ่บึกบึนแข็งแรง พูดจาแข็ง ๆ ซึ่งตรงกับอาร์โนล อย่างมากที่สุดเขาไม่ต้องดัดเสียงหรือโปรเจ็กต์เสียง แต่อย่างใดแสดงได้อย่างเป็นตัวเขาเอง สิ่งที่ต้องทำคือการแอคชั่นให้ดูสมจริงซึ่งเขาก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี

หลังจากนั้นหลาย ๆ สิ่งก็เป็นไปอย่างที่อาร์โนล พูดครับ ผู้กำกับและค่ายหนังตามจีบเขาไม่เว้นวรรคและ ไม่ลดละ คนที่เคยปฎิเสธเขา กลับมาขอร้องให้อาร์โนล ไปเล่นภาพยนตร์ตามที่อาร์นี่ได้เคยพูดไปจริง ๆ แอคชั่นสตาร์ดวงใหม่ได้เกิดขึ้นมานับต่นั้น และยิ่งตอกย้ำ ในปี 1991 กับภาพยนต์เรื่อง Terminator 2 : Judgement Day กับบทบาทคนเหล็ก T-800 บทบาทเดิมที่พลิกมาอยู่ขั้วดี ก็ส่งเขาให้เป็นเดือนดาวค้างฟ้า Action Star ของ Hollywood ไปตลอดกาล...

และสำหรับแฟน ๆ ของเขาในปัจจุบัน ผลงาน การแสดงของอาร์โนลนั้นเริ่มไม่ค่อยได้เห็นอีกแล้ว อาร์โนลในวัย 72 ได้พักผ่อนและใช้ชีวิตอยู่กับการ ออกกำลังกาย เรายังสามารถเห็นชายวัย 72 คนนี้ยกน้ำหนักผ่านโลกออนไลน์ได้อยู่เป็นประจำ เป็นสิ่งเตือน ย้ำถึงความเป็นอาร์นี่ได้อยู่เสมอ ๆ และช่วงนี้เขาเองก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นไปอีกกับการเทรนด์เพาะกายให้กับ Joseph Baena ลูกชายคนสุดท้องของเขาที่คิด อยากจะเป็นนักกีฬาเฉกเช่นเดียวกับเขาในอดีตที่ผ่านมา