ทวนทอง นิยมชาติ : Tuan Thailand ชายผู้ปักหมุดศิลปินไทย บนแผนที่ดนตรีโลก | Issue 164
เมื่อพูดถึงชื่อของ ทวน ทวนทอง นิยมชาติ หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับเขาในฐานะมือกีตาร์วง Day Tripper และ Futon สองวงดนตรีที่มาพร้อมกับเพลงฮิตและมีฐานแฟนเพลงคอยติดตามอยู่ไม่ใช่น้อย อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในฐานะโปรดิวเซอร์ให้กับศิลปินหลายคน แต่ผมเชื่อว่าน้อยคนนักที่จะรู้จักเขาในฐานะ Tuan Thailand ศิลปินเดี่ยวผู้สร้างสรรค์ซาวด์ดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยการบาลานซ์ความป๊อปและฮาร์ดคอร์ได้อย่างกลมกล่อม สร้างผลงานอัลบั้มระดับอินเตอร์วางขายที่ประเทศญี่ปุ่นมาแล้วถึงสองอัลบั้ม อีกทั้งยังประกาศศักดา Put Thai on The Map ปักหมุดไทยแลนด์ลงบนแผนที่ดนตรีโลกด้วยการออกทัวร์คอนเสิร์ตมาแล้วมากมายหลายประเทศ
ย้อนกลับไปในช่วงที่คุณทวนยังคงเป็นนักศึกษาแห่งรั้วมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เขา และเพื่อน ๆ พี่ ๆ ได้ก่อตั้งวงดนตรีที่มีชื่อว่า Emely ปล่อยผลงานอัลบั้มชื่อ So Beautiful ก่อนที่สมาชิกวงจะแยกย้าย ในเวลาต่อมา ซึ่งการเป็นมือกีตาร์วง Emely ทำให้เขาได้พบกับ คุณจี จีระศักดิ์ ภักดีโต และ คุณอู วาสิต มุกดาวิจิตร และนำไปสู่การต่อตั้งวง Day Tripper ขึ้นมาในที่สุด
ทวนทอง นิยมชาติ : ตอนนั้นผมฝึกงานอยู่ที่แกรมมี่ เป็นโปรดิวเซอร์ฝึกหัดฝึกกับทีมของพี่โอม ชาตรี วงษ์สุวรรณ ในขณะเดียวกันก็รับงานโฆษณา เป็นงานทำเสียงอย่างเดียว พอเพื่อน ๆ เริ่มรู้ว่าทวนอัดเสียงได้ก็เริ่ม มีคนเข้ามาหา เพื่อนมากันเต็มบ้านเลย รวมถึงพี่จี พี่อู สองคนนี้เขาชวนกันมา พี่จีบอกว่าพี่อูมีเพลงอยู่ 7-8 เพลง แล้วก็มาอัดเดโม่กัน
ตอนทำ Day Tripper ชุดแรก ช่วงนั้นเขาขายผลงานเป็น CD ก็ต้องมีเพลงเร็ว เพลงนำ เพลงช้า ผมเพิ่งจับทางวิชาโปรดิวเซอร์ได้นิดหน่อย เราเริ่มมีทักษะ เริ่มมีการจับโฟกัสว่าเพลงไหนควรเป็น ซิงเกิ้ล แต่ว่าหาไม่เจอเลยครับตอนที่อัดเดโม่กัน ผมคิดว่ามันยังขาดอยู่เพลงนึงที่จะต้องเป็นเพลงเร็ว ๆ แบบมันส์ ๆ แบบที่กระโดดได้ ก็เลยแอบนำเสนอพวกเขาว่าเรามีอยู่เพลงนึงนะ เป็นเพลงที่หัดทำตั้งแต่ฝึกงาน มีเนื้อร้องทำนองทำเสร็จหมดแล้ว เพียงแต่ไม่ได้ให้ใครร้องเท่านั้นเอง เราก็ทำกันจนเสร็จ ออกมาเป็นเดโม่ประมาณ 10 เพลง
หลังจากนั้นไม่นาน Seven Days (2544) อัลบั้มเต็มชุดแรกของ Day Tripper ก็สำเร็จเป็นรูปร่าง ขณะเดียวกัน จี จีระศักดิ์ มือกีตาร์ของวง ก็ได้สร้างความงุนงงให้กับสมาชิกด้วยการไปเรียนต่อที่ ต่างประเทศ และเนื่องด้วยกระแสตอบรับจากอัลบั้มที่ปล่อยออกมานั้นดีเกิดคาด ติดอันดับที่ 2 ประจำสถานีวิทยุ Fat Radio สองสมาชิกที่เหลือจึงเริ่มวางแพลนสร้างผลงานใหม่จนสำเร็จเป็นอัลบั้ม Pop Music (2545) ซึ่งส่งผลให้วงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นไปอีก
ผลงานคุณภาพที่ปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง บวกกับกระแสตอบรับที่ดี Day Tripper จึงได้รับโอกาสให้เข้าเป็นศิลปินภายใต้สังกัดแกรมมี่ ทำให้คุณทวนได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การเป็นศิลปินและโปรดิวเซอร์ อย่างต่อเนื่อง จนเมื่อโอกาสครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมถูกหยิบยื่นมาให้อีกครั้ง เขาก็พยายามอย่าง สุดแรงกล้าและคว้ามันด้วยมือตัวเอง กลายเป็นมือกีตาร์วง Futon วงดนตรีหลายเชื้อชาติที่โด่งดังระดับอินเตอร์ ซึ่งทำให้เขาได้ออกท่องโลกกว้างและสัมผัสกับชีวิตของการเป็นร็อกสตาร์
ทวนทอง นิยมชาติ : ในวันที่ออดิชั่นวง Futon ผมจำได้ว่าผมซ้อมไปดีมาก หาซื้ออัลบั้ม Futon มาแกะคอร์ดมาซ้อม ผมว่าผมซ้อมเป็นพันรอบ แบบให้มันเข้าไปอยู่ในเส้นเลือดเลย ตอนออดิชั่น พอผมเริ่มเล่นเพลงที่ 2 พวกเขา บอกว่าโอเค คุณอยู่กับเรา ซึ่งประสบการณ์หลังจากนั้นทำให้ผมได้เรียนรู้โลกใหม่ ใหม่ในที่นี้เหมือน เกิดใหม่เลย ไม่ใช่เพราะว่าเปลี่ยนวงนะ เพราะว่ามีไอเดียบางอย่างที่เป็นอินเตอร์มาก ๆ
ผมว่าเมื่อมีโอกาสหรือมีคำชวนให้ทดลองอะไร มันคือการให้โอกาส ผมจำได้ว่าผมซ้อมกับ CD ของ Futon เป็นพันรอบเป็นอย่างน้อยนะเล่นจนแบบไล่ตั่งแต่ต้นจนจบ เจาะบางเพลงบางท่อนทำได้หมด ตอนไปออดิชั่น ไปเล่นจริง สมาชิก Futon เขาก็คงรู้แหละ เหมือนคนชิมน้ำซุบก๋วยเตี๋ยวแล้วรู้เลยว่าเคี่ยวมานานขนาดไหน คือจะบอกว่าผมไม่อยากให้คนเราเห็นโอกาสแล้วปล่อยมันไป เพราะว่า โอกาสบางครั้งมันมาแค่ครั้งเดียว แต่บางครั้งมันมาเพื่อเปลี่ยนชีวิตเลยนะ เปลี่ยนชีวิตจากนั้น ไปตลอดกาล ถ้าเจอโอกาสก็จับมันให้อยู่ ใส่มันให้เต็มที่
ผมทัวร์คอนเสิร์ตอยู่เป็นปีอยู่แบบนั้น ซึ่งเราก็ได้สัมผัสกับคำว่า ร็อกแอนด์โรล แบบรู้สึกถึงพลังมันเป็นอย่างนี้นี่เอง พูดง่าย ๆ คือมีครบทุกอย่างอะไรที่เคยฝันไว้ แบบที่เคยนึกถึงหรือเคยเห็นไหนหนัง ช่วงแรกครึ่งปีแรกที่ทัวร์ เราไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยนอกจากสนุกอย่างเดียว แต่พอผ่านไปสักครึ่งปี เริ่มมองทุกสิ่งทุกอย่างชัดเจนมากขึ้น ศึกษาดูให้รู้ว่าเขาจัดงานจัดการ กันยังไง ทำไมเขาถึงจัดกันแบบนี้ ระหว่างนั้นผมก็เริ่มมีไอเดียอยู่สองอย่างที่จะทำในชีวิต อย่างที่หนึ่งเราควรจะทำบริษัทจัดการด้านดนตรีที่มีแกนไอเดียแบบฝรั่งที่เราเห็นมา ฝรั่งเขาสามารถจัดการที่ทำทุกอย่างให้มันใหญ่ได้ เป็นงานของวัฒนธรรมร่วมสมัย เป็นแบบระดับชาติ
ทวนทอง นิยมชาติ : อีกอย่างหนึ่งคือ เคยเป็นไหมเวลาไปกินบุฟเฟ่ต์อร่อย ๆ แต่พอกินมาก ๆ แล้วมัน ไม่อร่อย มันเริ่มมีความรู้สึกนั้น เริ่มกลัวตัวเองจะถลำลึกไปด้านมืดยิ่งกว่า มืดขึ้นไปอีก ตัวอย่างมีให้เห็นคือศิลปินที่ผมชอบที่ฆ่าตัวตาย ผมไม่รู้ขั้นตอนกระบวนการมันเป็นยังไงเดินบนถนนเส้นไหน แต่ผมเริ่มมองออกว่าอะไรที่มันเป็นความสุขของกายหยาบ เราต้องทำถึงขั้นไหน มันถึงจะมีความสุข แต่ตอนนั้นยังคิดไรไม่ออกนะ มองดูเพื่อน ๆ ที่อยู่ในแวดวงแบบนี้มานานกว่าผม บางคนเล่นคอนเสิร์ตเสร็จก็กลับมาอ่านหนังสือที่ห้อง แต่ผมคือปาร์ตี้ยันเช้าตลอด
ผมจำได้ว่าคืนหนึ่งหลังทัวร์ที่โตเกียว วงนั่งรถกลับมาด้วยกัน พอถึงห้องเพื่อน ๆ ผมก็อ่านหนังสือแบบสงบ ผมเริ่มคิดคืนนี้ทำอะไรดี นึกยังไงก็นึกไม่ออกเลยออกไปข้างนอก เดินดูถนนชิบุย่า ไม่รู้อะไรดลใจเดินไปจนถึงสถานีรถไฟ อยู่ ๆ ก็มีรถตู้อยู่คันหนึ่งขับมาเร็วมาก พอขับมาจอดผมก็ตกใจนึกว่าจะมาลักพาตัวผม ปรากฏเขาเปิดประตูยกกลอง ยกกีตาร์ลงมา แล้วก็เล่นดนตรี เล่นเพลงอัลเทอเนทีฟมันส์มาก เล่นได้ประมาณเพลงครึ่งกำลังจะจบเพลง ที่สองตำรวจมาบอกให้เก็บของออกไป
สิ่งที่ผมเห็นตอนนั้น ผมตกใจกับตัวเอง ตกใจกับเขา ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิต คือมันมี คนที่อยากเล่นดนตรีขนาดนี้เลยหรอ หน้าตาเขาตอนเล่นมีความสุขมากเลย เราเลยตระหนักว่า เราจะต้องเล่นดนตรี เราจะต้องทำดนตรีต่อไป แล้วเราคิดในใจว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป เรามองว่าคนที่ไม่มีโอกาสเขายังดิ้นรนขนาดนี้ เราเองมาถึงขั้นนี้ทำเป็นอาชีพได้แล้วเราก็ต้องลุยต่อ เลยคิดไว้ในใจวันนั้นว่าจะต้องทำอัลบั้มสักชุดหนึ่งแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน เคยได้ยินคำว่า "Music saved my life" ไหม นั่นคือสิ่งที่เกิดกับผม มองย้อนกลับไปผมตกใจตัวเองเลยนะ
นับตั้งแต่นั้นมา คุณทวนก็เริ่มต้นทำผลงานเดี่ยวของตัวเอง เลือกประเทศญี่ปุ่นเป็น หมุดหมายในการประกาศศักดาด้วยเสียงดนตรี ซึ่งระหว่างนั้นก็เป็นช่วงที่ Futon เริ่มพักวงพอดิบพอดี คุณทวนวางเดิมพันทุกอย่างไว้ที่อัลบั้มนี้ด้วยการขายเอฟเฟคและกีตาร์ที่ซี้อเก็บไว้ มากมาย รวบรวมเงินก้อนหนึ่งเพื่อไปใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่นในบ้านเช่าพื้นที่ขนาด 1 เสื่อ ทำเดโม่เพลงให้สมบูรณ์ที่สุด มองหาสถานที่สำหรับจัดโชว์เคสเพื่อเชิญชวนเหล่าผู้บริหารค่ายเพลง มารับชม ประสบการณ์ในครั้งนั้นค่อย ๆ สอนบทเรียนชีวิตให้กับเขาท่ามกลางอุปสรรคมากมาย และในที่สุดอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกที่มีชื่อว่า Black Painting ของเขาก็วางขายที่ญี่ปุ่นได้ในที่สุด
ทวนทอง นิยมชาติ : กระแสตอบรับญี่ปุ่นดูเหมือนจะราบรื่นดีครับ อัลบั้มที่วางขายหมดไปจากตลาด เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ผมก็ได้ไปทัวร์ยุโรป ทัวร์อังกฤษ ถือว่ามีฟีดแบคดีนะ คือเกินคุ้มไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ส่วนในเมืองไทยเรื่องของเพลงผมเคยชั่งใจว่าจะทำยังไงดี ถ้าเอาเพลงที่เป็นภาษาอังกฤษปนภาษาไทยมาเปิด จะปั้นยังไงให้มันฮิตขึ้นมาได้
จนมีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมไปทัวร์ที่จีน ผมและวงที่เล่นด้วยกันติดน้ำแข็งมาก ขนาดกาแฟเย็น อยู่แล้วผมยังใส่น้ำแข็งเข้าไปอีก ไม่มีน้ำแข็งรู้สึกกินข้าวแล้วมันไม่ฟิน แต่ประเทศจีนเป็น เมืองหนาว เขาจะดื่มน้ำอุ่นกัน ผมพยายามไปเดินหาซื้อน้ำแข็ง สุดท้ายก็ไปซื้อน้ำแข็งที่ แมคโดนัลเพื่อที่จะเอาโค้กใส่น้ำแข็ง ปรากฏว่าเขาใส่น้ำแข็งโรยหน้ามา 3 ก้อน น้ำแข็งบาง ๆ ผมนี่แทบจะ เขวี้ยงแก้วทิ้งเลย
ทวนทอง นิยมชาติ : ทีนี้กลับโรงแรม ไปถามพนักงานว่ามีน้ำแข็งที่ไว้แช่เนื้อแช่ปลาไหมขอแบ่งมาหน่อย เขาก็เอามาให้ ผมเลยถามกลับไปว่าทำไมที่นี่น้ำแข็งมันหายากจัง ถึงแม้จะมีคนกินไม่เยอะ ก็ต้องมีคนขายสิ เขาพูดกลับมาประโยคหนึ่งที่ทำให้ผมจำแม่นจนถึงทุกวันนี้ แล้วก็เป็นปรัชญาในการตัดสินใจอะไรหลาย ๆ อย่าง เขาบอกว่าอย่าพยายามขายน้ำแข็งในที่ที่คนกินน้ำอุ่น
การที่ผมคิดที่จะดันทุรังปั้นอัลบั้มยังไงดีในเมืองไทย เรื่องของน้ำแข็งทำให้ผมกลับมาคิดว่าแบบนี้แหละดีแล้ว ถ้าเราปั้นมากมันจะไปเป็นอย่างอื่น ของมันต้องอยู่ถูกทิศทุกทางและก็ต้องอยู่ถูกคน เพราะอัลบั้มนี้ อัลบั้มที่ผมไม่เคยคิดว่าจะมีมันก็พาผมไปพบกับอะไรหลายอย่างครบรสเลย
ตอนนี้ผลงานที่กำลังมีให้ติดตามได้ใน Facebook, Instagram, Twitch และ Twitter ชื่อ Tuanthailand ครับ คือผมเพิ่งจะกลับมาจากอเมริกาด้วยกำลังทำเพลงสากลที่อเมริกา ได้ทำงานร่วมกับเอเจนซี่ที่หนึ่งที่ทำงานเกี่ยวกับด้านเพลง ทำเพลงไปแล้วหลายสิบเพลง ซึ่งโชคดีที่ได้กลับมาก่อนโควิด-19 ระบาดนอกจากนี้ผลงานเพลงที่เกี่ยวกับเพลงประกอบภาพยนตร์ของอเมริกาเรื่องหนึ่ง เพลงถูกอัดไปแล้วเรียบร้อย สุดท้ายนี้ขอฝากผลงาน ด้วยครับ ถ้าไม่ติดโควิด-19 ปีหน้าคงได้รับชมรับฟังกัน ขอบคุณครับ
Photo : Satchaphon Rungwichitsin