Siam☆Dream : เด็กสาวผู้ใช้ดนตรีเชื่อมความสัมพันธ์ | Issue 160
ย้อนกลับไปราว 3-4 ปีก่อนหน้านี้ ใครจะไปคิดละครับว่า "ไอดอล" จะกลายเป็นสิ่งที่สร้างปรากฏการณ์อันหลากหลายให้เกิดขึ้นในบ้านเรา แม้ว่าปัจจุบันนี้กระแสของไอดอลอาจจะนิ่งและเงียบไปเสียหน่อย แต่เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาก็พอมีเรื่องให้เหล่าโอตาคุได้ฮือฮากันพอสมควร และหนึ่งในนั้นคือการที่ Siam☆Dream (สยามดรีม) ปล่อยซิงเกิ้ลล่าสุดที่มีชื่อว่า "CALLING" เพลงอิเล็กทรอนิกส์ร็อก ที่ถึงแม้เพลงนี้จะไม่ร็อกอย่างเต็มขั้นอย่างที่ชาวร็อกคุ้นเคย แต่นี่ถือเป็นความกล้าหาญที่น่ายกยอก กับการท้าทายขนบไอดอลที่ทุกคนคุ้นชิน ฉีกภาพลักษณ์แบบเดิม ๆ ของวงด้วยการเติม Filter ความดาร์กเผยให้เห็นเสน่ห์ในอีกแง่มุมหนึ่งของเมมเบอร์ผ่านผลงานเพลงนั่นเอง
ก่อนที่จะเข้าสู่บทสัมภาษณ์หลักเราคงต้องเกริ่นถึงข้อมูลคร่าว ๆ ของวงสักนิดนึง Siam☆Dream คือวงไอดอลไทยสไตล์ญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นจากคอนเซ็ปต์ผสมผสานความเป็นไทยและญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสานความสัมพันธ์ระหว่างสองวัฒนธรรมที่ต่างกัน โดยมี “ดนตรี” เป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์นั่นเอง
โดยช่วงก่อตั้งของวงนั้นมีสมาชิกเพียง 4 คน เป็นสมาชิกไทย 2 คน สมาชิกญี่ปุ่น 2 คนก่อนที่จะมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมสมาชิกในภายหลัง และปัจจุบัน Siam☆Dream มีสมาชิกทั้งสิ้นจำนวน 5 คน ได้แก่ แมรี่, ฮิคาริน, ไอซ์, มาทิลด้า และ แฟนนี่ ซึ่ง ยามาชิตะ ฮารุกะ หรือ ฮารุปี้ ได้จบการศึกษาจากวงไปในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา (ทาง MiX Magazine ได้สัมภาษณ์วง Siam☆Dream เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2563)
เหตุผลในการตัดสินใจเข้าร่วมออดิชั่นเป็นเมมเบอร์ Siam☆Dream ?
แฟนนี่ : อยากเป็นไอดอลค่ะ เพราะว่าชอบร้องชอบเต้น ก่อนหน้านี้ที่หนูไปอยู่เกาหลีมา ก็เคยตามไอดอลเองเหมือนกัน ทั้งไอดอลเกาหลี ญี่ปุ่น หนูรู้สึกว่ามันเป็น Passion เป็นพลังให้กับตัวเองในการทำสิ่งอื่นได้ ก็เลยอยากจะเป็นกำลังให้คนอื่นได้บ้างค่ะ
ฮารุปี้ : ส่วนตัวแล้วฮารุปี้ชอบประเทศไทยค่ะ ก็เลยอยากจะเป็นไอดอลที่เชื่อมต่อระหว่างไทยกับญี่ปุ่น
แมรี่ : หนูเป็นคนที่ชอบไอดอลอยู่แล้ว ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี จีน ชอบทุกประเทศเลย ก็เลยรู้สึกว่าอยากจะทำอะไรแบบนี้บ้าง เพราะหนูก็เคยเต้น Cover มาก่อน แล้วก็ชอบบรรยากาศตอนอยู่บนเวทีที่มีคนคอยเชียร์ รู้สึกว่าเป็นงานที่ทำแล้วมีความสุขค่ะ
ฮิคาริน : ชอบไอดอลญี่ปุ่น แล้วก็ชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่น พอมีวง Siam☆Dream ที่มีคอนเซ็ปต์เป็นไอดอลไทย - ญี่ปุ่น ก็เลยสนใจและอยากลองเปิดประสบการณ์ตัวเองดูค่ะ
ไอซ์ : หนูชอบเต้นชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ ที่นี้เราก็ออดิชั่นมาเรื่อย ๆ จนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Siam☆Dream ซึ่งเป็นวงที่มีคอนเซ็ปตน่าสนใจ เพราะว่าเป็นคนชอบญี่ปุ่นอยู่แล้ว แถมยังเป็นคอนเซ็ปต์ลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นก็เลยรู้สึกว่าอยากจะลองส่งพลังบวกจากตัวเองที่อยู่ตรงนี้ให้กับแฟนคลับค่ะ
มาทิลด้า : ตอนแรกรู้สึกว่าอยากลองทำอะไรใหม่ ๆ บ้าง เหมือนแบบทะลุกำแพงตัวเองได้ เพราะว่าจริง ๆ แล้วไม่ใช่คนที่เหมือนจะแอ๊บแบ๊วน่ารักอะไรประมาณนั้น แต่พอมาทำได้เห็นผลตอบรับ ได้เห็นแฟน ๆ ยิ้ม ก็เลยทำให้เราอยากอยู่ที่นี่ต่อไปนาน ๆ มากกว่า เหมือนพวกเขาคอยให้กำลังใจเรา เราก็ให้กำลังใจตอบกลับ หนูว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่ได้เข้ามาอยู่ในวงนี้ค่ะ
ความหมายของคำว่า "ไอดอล" ในความคิดของแต่ละคน ?
แฟนนี่ : ไอดอลเป็นเหมือนคนที่เป็นทั้งคนที่สร้างความสุขให้กับคนอื่นและอาจเป็นคนที่สร้าง Passion ในการทำอะไรบางอย่าง เป็นพลังบวกในการทำอะไรบางอย่างให้กับคนอื่น
ฮารุปี้ : ก็คืออยากเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตใครสักคน หรือว่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขา (แฟนคลับ) ชอบประเทศญี่ปุ่น หรือว่าเป็นเหตุผลให้ชอบประเทศไทย หรือว่าเป็นเหตุผลอะไรก็ได้ที่ทำให้เขาชอบอะไรสักอย่าง
แมรี่ : ไอดอลเป็นเหมือนผู้ที่มอบความสุขให้กับผู้ชม เพราะว่าเราเคยได้รับความสุขจากไอดอลมาก่อน เราก็อยากจะเป็นแบบนั้น ทำให้คนที่มาหาเรา มาดูเรามีความสุข มีกำลังใจได้บ้าง
ฮิคาริน : ไอดอลเป็นเหมือนกำลังใจค่ะ ในทุก ๆ วันเวลาเราได้เจอไอดอลหรือว่าคนที่ชอบ เราจะรู้สึกเหมือนมีกำลังใจในการทำอะไรสักอย่างขึ้นมา
ไอซ์ : สำหรับไอดอลของหนูไม่ถึงกับเป็นแบบอย่างค่ะ แต่จะเป็น Inspiration ให้เราทำอะไรในสิ่งที่เราไม่กล้าทำมากกว่าคนเรามีความสามารถต่างกัน แล้วเราก็จะมีไอดอลเนี่ยเป็นแรงยึดเหนี่ยวว่า เขาชอบตรงนี้เขาก็ทำตรงนี้ให้สำเร็จ เราชอบตรงนี้เราก็ทำตรงนี้ให้สำเร็จ เป็นแรงใจให้ซึ่งกันและกันค่ะ
มาทิลด้า : หนูรู้สึกว่าไอดอลเปรียบง่าย ๆ คือ ผู้ฟังที่ดีและกำลังใจที่ดี ไม่ว่าจะเหนื่อยหรือว่าทำอะไรมาก็สามารถมาหาเราได้เสมอ เรายืนอยู่ตรงนี้แหละไม่ไปไหนหรอก หนูว่าการเป็นไอดอลมันไม่ใช่แค่ให้คนทำตามหรือเลียนแบบ เพราะจริง ๆ แล้วคนทุกคนมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน แต่หนูรู้สึกว่ามันจะเป็นจุดที่จะทำให้เขา (แฟนคลับ) พร้อมทิ้งตัวลงมาได้
โมเมนต์ระหว่างแฟนคลับที่เราประทับใจ?
มาทิลด้า : ความประทับใจของหนูกับแฟนคลับหรอคะ คือหนูไม่คิดว่าแฟนคลับจะใส่ใจ แค่สมมุติว่าหนูพิมพ์แค่จุดจุดเดียวในทวิตเตอร์ แล้ววันที่เขา (แฟนคลับ) มาเจอหนู เขาก็มาถามว่าแกเป็นอะไร แกโอเคไหม แกเหนื่อยหรือเปล่า แกบอกเราได้นะ ทั้งที่จริง ๆ แล้วหน้าที่นี้อาจจะเป็นหน้าที่ของเราด้วยซ้ำที่เราจะต้องแบบดูแลเทคแคร์เขา แต่เขากลับมาเป็นห่วงเรา ฉะนั้นหนูรู้สึกว่าเขาก็คงคิดว่าเราเป็นหนึ่งในครอบครัว แล้วทำไมเราจะคิดว่าเขาเป็นหนึ่งในครอบครัวเราไม่ได้ นี่แหละค่ะคือสิ่งที่หนูประทับใจมาก
ไอซ์ : สำหรับไอซ์แฟนคลับเป็นคนที่เข้าใจหนูได้ดีมากเลยค่ะ เขารู้ว่าหนูนิสัยแบบไหน เวลาเราดาวน์เขาก็จะมาปลอบเรา หรือว่าเวลาที่เราทำอะไรผิดพลาดเขาก็จะเข้าใจเรา ว่าที่เราทำไปมันมีเหตุผลนะ แล้วเขาก็เป็นกำลังใจสำคัญของหนูในการใช้ชีวิตเหมือนกันค่ะ
ฮิคาริน : สำหรับฮิคารินก็รู้สึกว่า ไม่รู้ว่าจะให้อะไรแฟนคลับได้มากแค่ไหน แต่ว่าในทุก ๆ วัน แฟนคลับก็ชอบมาบอกเสมอว่า แค่เห็นฮิคารินยิ้ม วันนี้เขาก็สดใสแล้ว ทำให้เรารู้สึกอุ่นใจมาก ๆ ที่แบบมีแฟนคลับอยู่ด้วยในทุกวันค่ะ
แมรี่ : สำหรับแฟนคลับนะคะ ทุกคนก็จะเป็นคนที่แบบมีความทุ่มเทแล้วก็ใจดี แบบว่าเวลาเราลงในทวิตเตอร์ ว่าอยากได้อะไร อยากกินอะไร ไม่ได้ขอเขาก็จะซื้อมาให้ แบบทุกงานเลยค่ะ เขาก็จะมาหากันเต็มที่มาก ๆ มาเชียร์กันเต็มที่มาก ๆ รู้สึกประทับใจที่เขาทุ่มเทให้กับเรา
แฟนนี่ : ส่วนหนูก็รู้สึกว่า เวลาเราเล่นโซเชียลกันทุกวัน ทำให้เราได้แบบพูดคุยกับพี่ ๆ แฟนคลับ ได้อ่านคอมเมนต์รู้สึกว่าสิ่งนั้นมันเป็นกำลังใจ เป็นความสุขให้หนูทุก ๆ วันเลยค่ะ อย่างมีพี่ที่แบบพิมพ์มาว่าขอบคุณที่พยายามจนมาอยู่ถึงตรงนี้นะ ขอบคุณที่มาเป็นไอดอล เพราะมันทำให้เขามีความสุขมาก ซึ่งอันนั้นหนูประทับใจมากเลยค่ะ เพราะว่ามันเป็นเป้าหมายของหนูที่อยากจะสร้างความสุขให้กับทุก ๆ คนให้ได้ค่ะ
ฮารุปี้ : ฮารุปี้ก็ยังพูดภาษาไทยได้ไม่เยอะขนาดนั้นแต่ว่าเวลาแฟน ๆ เข้ามาหา เข้ามาพูดคุย บางทีฮารุปี้อาจจะนึกคำไม่ออก แต่ว่าแฟน ๆ ก็จะพยายามเข้าใจในสิ่งที่สื่อสารออกไ ปแล้วก็อย่างเวลาฮารุปี้รู้สึกอะไร แฟน ๆ ก็พยายามรู้สึกแบบเดียวกัน พยายามเข้าใจตัวฮารุปี้ รู้สึกประทับใจในส่วนนี้มากค่ะ
ฝากตัวแทนพูดทิ้งทายกับผู้อ่าน MiX Magazine ?
มาทิลด้า : ไม่ว่า Siam☆Dream จะทำผิดพลาดอะไร หรือทำอะไรให้ใครไม่พอใจ อยากจะให้ทุกคนรัก Siam☆Dream เหมือนเดิมนะคะ แล้วก็ติดตามงานของพวกเราด้วยไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนไป หรือว่าอะไรจะแปลกใหม่ขึ้น พวกเราก็ยังรักทุกคนเหมือนเดิมจุ๊บ ๆ
Photo : Pornsarun Soithong