หลายคนอาจจะยังจำได้ดีเมื่อทีมจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ได้สร้าง “เทพนิยายเลสเตอร์” กับประวัติศาสตร์บทใหม่ หลัง “จิ้งจอกสยาม” คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเมื่อฤดูกาล 2015-2016 มาครองได้อย่างเหนือความคาดหมายชนิดหักปากกาเซียนกันเลยทีเดียว

ทั้งที่ฤดูกาลก่อนหน้านั้นยังลุ้นตกชั้นอยู่แท้ ๆและตอนนี้ดูเหมือนว่ากำลังจะมีทีมที่ดำเนินรอยตาม สร้างเทพนิยายบทใหม่ขึ้นอีกครั้งในฝั่งของเยอรมัน เชื่อว่าถ้าพูดชื่อทีม “แอร์เบ ไลป์ซิก” แห่งเวทีบุนเดสลีกา เยอรมนี ทุกคนอาจจะงงงวยและเกิดคำถามขึ้นในใจว่าทีมอะไรนะ เพราะหากพูดถึง บุนเดสลีกา เยอรมนี ลีกที่โด่งดังไปทั่วโลก แฟนบอลก็มักจะนึกถึงเพียงแค่สองทีมยักษ์ใหญ่อย่าง บาเยิร์น มิวนิค และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แต่ในฤดูกาล 2016-17 นี้ ทีมที่น้อยคนจะรู้จักอย่าง “แอร์เบ ไลป์ซิก” ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น และครองตำแหน่งจ่าฝูงลีกสูงสุด “เมืองเบียร์” เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร อยู่ในขณะนี้ด้วยผลงาน แข่ง 13 นัด ชนะ 10 เสมอ 3 และยังไม่แพ้ใคร ณ ช่วงต้นเดือน ธันวาคม 2559 โดยสามารถล้มทีมใหญ่อย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, ฮัมบวร์ก, ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นและ ชาลเก้ 04 ได้อีกต่างหาก

หลังจากก่อตั้งสโมสรในปี 2009 ใช้เวลาเพียงแค่ 7 ปี ราเซนสปอร์ต ไลป์ซิก ก็สามารถไต่เต้าจนขึ้นไปเตะบุนเดสลีกาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ แอร์เบ ไลป์ซิก เริ่มไต่เต้าตั้งแต่ลีกระดับดิวิชัน 5 ในชื่อเดิมว่า “เอสวีวี มาร์ครานสตัดต์” พวกเขาได้รับเม็ดเงินสนุบสนุนก้อนโตจาก “เร้ด บูล” กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มบำรุงกำลังจากออสเตรียที่เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร ก่อนยกระดับตัวเองขึ้นมาอย่างรวดเร็วใช้เวลาเลื่อนชั้นสู่บุนเดสลีก้าเพียง 7 ปี และเป็นตัวแทนจากฝั่งตะวันออกของเยอรมันเพียงทีมเดียวที่ได้โลดแล่นบนลีกสูงสุดของประเทศนับตั้งแต่ เอเนอร์กี้ ค็อตบุส ที่ตกชั้นเมื่อปี 2009 แอร์เบ ไลป์ซิก เริ่มต้นจากการได้แชมป์ลีกา 5 ในฤดูกาลแรก อยู่เรกิโอนาลลีกา 3 ฤดูกาล ก็ได้แชมป์จนมาอยู่ลีกา 3 ซึ่งได้เลื่อนชั้นฐานะรองแชมป์ในปี 2014 หลังอยู่ลีกา 2 เพียงแค่ 2 ฤดูกาล ก็คว้าตำแหน่งรองแชมป์ ด้วยนักเตะอย่าง ฟาบิโอ โคลทอร์ติ อดีตนายทวารทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ปีกซ้ายทีมชาติสวีเดน, สเตฟาน อิลซานเกอร์ และ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ 2 แข้งทีมชาติออสเตรีย, อาตินซ์ นูคาน เซนเตอร์แบ๊กทีมชาติตุรกี รวมถึง ยูสซูฟ โพลเซ่น หัวหอกทีมชาติเดนมาร์ก โดย แอร์เบ ไลซิมีนักเตะอายุเฉลี่ย 23.9 ปี ซึ่งมีอายุน้อยที่สุดในลีกอีกด้วย 

โดยความสำเร็จของ แอร์เบ ไลป์ซิก ต้องยกความดีความชอบให้กับวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร พวกเขาเน้นการลงทุนกับผู้เล่นอายุน้อยเป็นหลักเพื่อประโยชน์ระยะยาวของสโมสร เริ่มตั้งแต่ดึงบุคลากรมือดีเข้ามาช่วยกันดูแลงานตรงส่วนนี้ โดยเฉพาะในรายของ ราล์ฟ รังนิค เทรนเนอร์สมองเพชรที่เข้ามานั่งตำแหน่งผอ.กีฬาของสโมสรมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากรังนิคประกาศนโยบายทำทีมอย่างชัดเจนเมื่อปี 2014 ซึ่งมีส่วนผลักดันทีมมาไกลถึงจุดที่ยืนอยู่ เมื่อผู้เล่นอย่าง เดวี เซลเก้, มาร์เซล ซาบิตเซอร์, นาบี เคต้า, โอลิเวอร์ เบิร์ก, ทิโม เวอร์เนอร์ และ แบร์นาโด้ ที่ แอร์เบ ไลป์ซิก ดึงเข้ามาเสริมทัพในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และกลายเป็นกำลังสำคัญนำทีมโชว์ฟอร์มสุดร้อนแรงในลีก ณ ขณะนี้ ล้วนมีอายุไม่เกิน 23 ปีทั้งสิ้น

ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงแบบนี้กับสถิติที่ยังไม่แพ้ใคร น่าสนใจว่าม้ามืดเมืองเบียร์ แอร์เบ ไลป์ซิก จะยังคงรักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ไปได้นานเท่าไหร่อีกทั้งยังต้องเจอกับ ทีมสุดแกร่งอย่าง บาเยิร์น มิวนิคอีกด้วยแล้วน่าจะเป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวหลังจากนี้เราก็คงต้องมาดูกันยาว ๆ ว่าน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์นามว่า “แอร์เบ ไลป์ซิก” จะสามารถสร้างเทพนิยายเมืองเบียร์ ได้เหมือนกับเลสเตอร์ ซิตี้ ที่สร้างเทพนิยายเมืองผู้ดีไว้ได้หรือเปล่า หรือจะเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาเท่านั้น