วุฒิปลอม
ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ ของจริงอย่างไรก็ย่อมมีค่ามากกว่าของปลอมเสมอ ๆ ทว่า ยังมีอีกหลายคนที่หยิบและนำเอาสิ่งปลอม ๆ มาหลอกลวงเพื่อให้ตนเองได้มีฐานะทางสังคมและการงานที่ดีโดยไม่ได้คำนึงถึงผลเสียต่อตนเองและผู้อื่น
โยหนุ่มนักเรียนนอกที่ได้รับทุนพม. (พ่อกับแม่) ให้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แต่เขากลับไม่ได้ตั้งใจเรียน วัน ๆ เอาแต่เที่ยวเตร่ สำมะเลเทเมาไปวัน ๆ เมื่อเพื่อนรุ่นเดียวกันต่างสำเร็จการศึกษากันหมดแล้ว แต่เขาเรียนไม่จบ ไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ เขาจึงตัดสินใจซื้อวุฒิปริญญาโทปลอมกลับมา
โย: พ่อแม่ครับ ผมนำปริญญามาฝากครับ
พ่อ: แล้วลูกตั้งใจจะไปสมัครงานที่ไหนล่ะ
โย: ผมว่าจะเข้าไปสมัครเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยครับ ผมมีวุฒิการศึกษาที่ดีขนาดนี้ จากต่างประเทศเขาต้องรับผมแน่
แต่ตอนนี้ผมขอพักสักหนึ่งเดือนนะครับ เพื่อเยี่ยมเยียนเพื่อนฝูงที่เมืองไทยก่อน
หลังจากนั้นเขาก็เข้าไปสมัครในตำแหน่งอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบวุฒิการศึกษาเบื้องต้น ก็รับเขาเข้าไปเป็นอาจารย์ แต่ไม่นานมีเพื่อนรุ่นเดียวกันในต่างประเทศซึ่งเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เกิดความสงสัยว่าเขาไม่ได้จบการศึกษา จึงนำเรื่องไปแจ้งทางมหาวิทยาลัยเพื่อทำการตรวจสอบวุฒิการศึกษาอย่างละเอียด แล้วจึงทราบว่า โยใช้วุฒิการศึกษาปลอมในการสมัครเข้าเป็นอาจารย์
Q: เอาล่ะสิครับการกระทำของโยจะมีความผิดหรือไม่อย่างไร
A: ตามอุทาหรณ์จะเห็นว่า โยปลอมวุฒิการศึกษาจากต่างประเทศ อันเป็นเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ซึ่งก่อให้ตัวเองได้มีสิทธิตามปริญญาบัตรแห่งวุฒิการศึกษานั้น และได้นำวุฒิการศึกษาปลอมไปใช้เพื่อสมัครงานเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัย การกระทำดังกล่าวของโยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน โยจึงมีความผิดฐานใช้เอกสารสิทธิปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ซึ่งมีระวังโทษจ”คุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปีและปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท
การกระทำของโยนอกจากจะเกิดผลเสียต่อตนเองที่ต้องรับโทษจำคุกและปรับแล้วแต่ที่สำคัญกว่านั้น การเข้าไปเป็นอาจารย์สอนเยาวชนของชาติ อาจารย์ผู้สอนไม่มีคุณธรรม จะเกิดปัญหา และมีผลกระทบต่อสังคมได้มากมายเพียงใด