ธันย์ ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์
ย้อนไปเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน หากยังจำกันได้กับเหตุการณ์สะเทือนขวัญของน้องธันย์ ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ เด็กสาวที่ประสบอุบัติเหตุตกจากชานชาลารถไฟที่สิงคโปร์ จากเหตุการณ์นั้นทำให้เธอต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างไป แต่ด้วยหัวใจ
ที่เข้มแข็งทำให้เธอสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง กับวันที่เธอสามารถเป็นแรงบันดาลใจผลักดันส่งต่อกำลังใจให้กับผู้อื่นได้ด้วยพลังคิดบวก ครั้งแรกที่เจอกันผมยังประทับใจในรอยยิ้ม และใจที่แข็งแกร่งของเธอ เพราะเธอเดินมาต้อนรับราวกับเป็นปกติ
“ตอนนั้นธันย์เรียนอยู่ประมาณ ม.2 ค่ะ เห็นเพื่อนหลายคนไปศึกษาต่อช่วงซัมเมอร์ระยะสั้นกัน ก็เลยไปสอบชิงทุนบ้างจากหลายสำนัก ตอนแรกคุณพ่อไม่อยากให้ไปค่ะ เพราะตัวธันย์สอบได้ไปที่ประเทศแคนาดา ซึ่งมันค่อนข้างห่างไกล แล้วก็ใช้ทุนค่อนข้างสูง เลยมานั่งคุยและปรึกษากันจนได้ข้อสรุปว่าไปสิงคโปร์มั้ยด้วยความที่เคยมีโอกาสไปเที่ยวมาก่อนและการเดินทางไม่ไกลจากประเทศไทยมาก วัฒนธรรมความเป็นอยู่ต่าง ๆ น่าจะปรับตัวอยู่ได้ไม่ยากนัก ธันย์ไปใช้ชีวิตเรียนระยะสั้น ๆ อยู่ที่สิงคโปร์ได้ประมาณหนึ่งเดือนค่ะ ก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นช่วงสัปดาห์สุดท้ายที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ที่สิงคโปร์ ธันย์เลยถือโอกาสเก็บเกี่ยวช่วงเวลานั้นด้วยการเดินทางท่องเที่ยวไปกับเพื่อน ๆ เหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป วันที่เกิดเหตุมันไม่ได้มีความผิดปกติอะไรเลยค่ะ เหมือนวันธรรมดาทั่วไป ธันย์ก็ไปยืนรอรถไฟที่ชานชาลา หลังเส้นเหลืองตามกฎเลยค่ะ เพียงแต่ว่าตอนนั้นมีคนเข้ามาใช้บริการรถไฟหนาแน่น มีการเบียดเสียดเกิดขึ้น ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากค่ะ รู้สึกตัวอีกทีคือเราไปอยู่บนรางรถไฟแล้ว ตอนนั้นก็ตกใจนะ แต่พยายามมีสติให้มากที่สุด ก็กัดฟันมาเรื่อยจนกระทั่งถึงโรงพยาบาล จนผ่าตัดเรียบร้อยในที่สุดค่ะ”
“ธันย์จำวินาทีแรกที่ลืมตาได้เลย หลังจากฟื้นมาบนเตียงของโรงพยาบาล โฮสต์ที่เราไปพักอยู่ด้วยที่สิงคโปร์ เขาบอกว่าธันย์รู้มั้ยมีคนมากมายเป็นกำลังใจให้อยู่นะ คนไทยที่ไปเรียนที่นั่นก็แวะมาเยี่ยมเยียน ขนของนั่นนี่มาให้เยอะแยะเลย ก็เลยได้มานั่งคิดว่า เราเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง แต่พอได้ประสบกับเหตุการณ์นี้ มันเลยทำให้เรากลายเป็นคนที่ทุกคนคอยให้กำลังใจ ทำให้คิดได้เลยว่าเราต้องเข้มแข็งนะกำลังใจเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับการดำเนินชีวิต นับจากวันนั้นมาเราเลยคิดว่าถ้าเราสามารถเป็นกำลังใจ เป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคนได้ มันก็คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว ก็เลยตั้งใจว่าอยากทำประโยชน์ให้สังคมให้คนรอบข้างด้วยกำลังเท่าที่เราทำได้ค่ะ”
หลายคนอาจจะมองว่าการที่น้องธันย์ประสบอุบัติเหตุจะกลายเป็นเด็กที่มีปมหรือเปล่าขอบอกตรงนี้เลยว่า น้องธันย์เธอเป็นคนที่มองโลกในแง่บวกมาก ๆ เพราะการที่ต้องสูญเสียขาไปมันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดทั้งนั้นแต่สิ่งดี ๆ หลายต่อหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการที่น้องธันย์ได้มีโอกาสเป็นกระบอกเสียงเล็ก ๆ ในการให้กำลังใจผู้อื่น ไม่ว่าจะจากงานวิทยากร หรือแม้แต่งานพิธีกรที่มีคนเห็นความสามารถและหยิบยื่นโอกาสให้ ทั้งหมดนี้ทำให้เธอมองว่าสิ่งที่สูญเสียไปนั้นได้มอบอะไรบางอย่างที่ดีตอบแทน และอยากจะนำสิ่งดี ๆ เหล่านี้ส่งต่อเป็นกำลังใจรวมถึงแรงบันดาลใจให้กับคนรอบข้างเช่นเดียวกัน
“ธันย์คิดว่าหลักการใช้ชีวิตนั้นมันไม่มีอะไรที่เพอร์เฟกต์สมบูรณ์แบบ คือชีวิตเราต้องมองหลาย ๆ ด้าน บางสิ่งที่อาจจะมองว่ามันเป็นอะไรที่ผิดพลาดมันก็มีข้อดีของมันเหมือนกัน เช่นเดียวกัน การที่ธันย์สูญเสียขาไป ใช่ มันเป็นเรื่องที่แย่ แต่ในทางกลับกันมันก็ทำให้เราได้รับโอกาสในชีวิต ทำให้เราได้มาเป็นวิทยากร ได้มีโอกาสใช้ประสบการณ์ที่ได้พบได้ประสบมา ซึ่งในอนาคตเราก็อยากจะต่อยอดเป็นมูลนิธิหรือองค์กรที่ทำประโยชน์เพื่อสังคม เพียงแต่วันนี้เราเริ่มจากก้าวเล็ก ๆ ก่อน โดยเริ่มจากเป็นอาสาสมัครเพื่อสังคมกับทาง TED ธรรมศาสตร์ เป็นอาสาสมัครเกี่ยวกับการช่วยเหลือสังคมด้านต่าง ๆ ด้วยตัวเราเองอาจจะไม่สะดวกเดินทางไปออกค่าย แต่เราก็ใช้ทักษะการพูดของเราช่วยระดมทุน ทำงานเป็นเบื้องหลัง ช่วยในส่วนที่เราสามารถทำได้ ส่งต่อไปยังคนที่ด้อยโอกาสในสถานที่ต่าง ๆ คือการที่ผู้อื่นได้กำลังใจจากเราหรือได้เราเป็นแรงบันดาลใจในการเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ มันเป็นอะไรที่สร้างความสุขให้เรามาก
“ถ้าพูดถึงแรงบันดาลใจของธันย์ก็คงเป็น คุณแทมมี ดักเวิร์ธ สมาชิกสภา รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอสามารถไปถึงจุดที่เป็นตัวแทนของประชาชนได้โดยที่เธอเป็นผู้พิการ มันทำให้เรารู้สึกว่าถ้าเราตั้งใจทำอะไรอย่างจริงจัง ไม่มีสิ่งใดเป็นอุปสรรคกั้นขวางเราได้จริง ๆ ครั้งนึงธันย์เคยได้มีโอกาสไปพูดคุยให้กำลังใจกับทหารที่ประสบเหตุจากภาคใต้พอเราได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยทำให้ได้เรียนรู้ว่ากำลังใจที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาคือ กำลังใจจากคนที่เข้าใจพวกเขาจริง ๆ เหมือนว่าการที่เราเข้าไปอยู่ตรงนั้นมันทำให้เขารู้สึกถึงคนที่มีประสบการณ์ร่วมกันกับเขา ทำให้เขามีแรงใจในการสู้ชีวิตมากขึ้นเราก็มีความสุขไปด้วยค่ะ”
Know Her
ปัจจุบันน้องธันย์ กำลังศึกษาอยู่ที่คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 ซึ่งตัวเธอเองยังเป็นพิธีกรดำเนินรายการทางช่อง NBT รวมถึงเป็นวิทยากรอิสระที่หมั่นออกงานสร้างกำลังใจให้กับผู้คนมากมาย นอกจากนี้เธอยังได้เขียนพ็อกเก็ตบุ๊กส์ให้กำลังใจออกมาอีกหนึ่งเล่ม ชื่อว่า ความสุขที่คิดบวก
สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของเธอได้ทาง FB: Nitcharee Peneakchanasak, FB Fanpage: น้องธันย์ สาวน้อยคิดบวก และทาง IG: @Thunpecns เสียงเล็ก ๆ ของเธอ อาจจะเป็นพลังใจให้ใครอีกหลายคน