คาดเดาอนาคต แล้วกดชัตเตอร์
ระหว่างที่เราเดินเล่นอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อถ่ายภาพ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็อาจจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว บางครั้งเราก็อาจเก็บภาพในชั่ววินาทีนั้นได้ แต่ความโชคดีนั้นคงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ เราจึงต้องมีวิธีการบางอย่างเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างสรรค์ภาพที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตา เพื่อเก็บความประทับใจในเหตุการณ์นั้นให้คงอยู่กับเราตลอดไป
ในการถ่ายภาพแนวสตรีท (Street Photography) มีนิยามหลากหลายตามมุมมองของแต่ละคน ฉะนั้นผมขออนุญาตสรุปคร่าว ๆ ว่ามันคือ การสะท้อนภาพของสังคม ผู้คนในอิริยาบถต่าง ๆ โดยไม่มีการจัดฉาก เพื่อให้ภาพดูเป็นธรรมชาติที่สุด หน้าที่ของช่างภาพเพียงแค่เลือกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านการกดชัตเตอร์เท่านั้นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาในแต่ละครั้ง เราไม่ควรมองว่ามันคือเหตุบังเอิญ เนื่องจากเราสามารถสร้างโอกาสให้กับตนเองในการที่จะเข้าถึงภาพแห่งอนาคตได้ แต่ผมไม่ได้หมายความว่าให้ท่านผู้อ่านเป็นนักพยากรณ์นะครับ แต่เป็นเพียงการสังเกตในสิ่งที่เราสนใจผสมผสานกับประสบการณ์ส่วนตัวของช่างภาพ เพื่อคาดเดาล่วงหน้าว่าตัวแบบจะทำอย่างไรต่อไป และรอคอยจังหวะที่จะถ่ายภาพในเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น
ในภาพที่ 1 ภาพคุณแม่กำลังหอมแก้มลูก
เบื้องหลังภาพ ในขณะที่ผมกำลังเดินเล่นในกรุงลอนดอน มีคุณแม่และลูกสาวเดินมาคู่กัน โดยที่ลูกสาวร้องไห้อ้อนคุณแม่ตลอด ส่วนตัวผมมองว่าคู่แม่ลูกคู่นี้มีความน่ารัก จึงอยากจะถ่ายภาพเก็บไว้ ในขณะนั้น ผมคาดเดาว่า คุณแม่น่าจะต้องปลอบลูกด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งอย่างแน่นอน จึงได้เตรียมตัวปรับค่าแสงที่กล้องให้เรียบร้อย พอเดินตามสักระยะหนึ่ง ปรากฏว่าคุณแม่อุ้มลูกสาวขึ้นมาปลอบใจ ระหว่างนั้นเราต้องหาจังหวะที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพเพื่อสื่ออารมณ์ความรักนั้นคือ ช่วงเวลาที่แม่กำลังหอมแก้มลูกสาวพอดี ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจมาก ๆ
ในภาพที่ 2 ภาพผู้ชายกระโดดกลางอากาศ
เบื้องหลังภาพ ผมเห็นผู้ชายผิวสีรูปร่างสันทัดเหมือนนักกีฬา เดินอยู่ริมแม่น้ำเทมส์ (River Thames) แต่เขาไม่ได้เดินปกติ เขาเดินสลับกับวิ่ง และบางครั้งเขาก็กระโดดไปด้วย คล้าย ๆ กับกีฬา Free Running ผมจึงตัดสินใจวิ่งไปดักรอข้างหน้าระหว่างนั้นผมสังเกตเห็นหินก้อนใหญ่ จึงคาดเดาว่า เขาอาจจะใช้หินก้อนนี้ช่วยกระโดดให้สูงขึ้นเพื่อเล่นท่าทางกลางอากาศ จึงได้ไปดักรอข้างหน้า พร้อมทั้งรีบจัดองค์ประกอบภาพ และปรับค่าแสงไว้ล่วงหน้า สักพักหนึ่ง เขาก็วิ่งมากระโดดขึ้นหินก้อนนั้น แล้วก็กระโดดอีกครั้งเพื่อตีลังกากลางอากาศ ซึ่งก็ได้ภาพที่น่าสนใจ ผู้ชายผิวสีเหมือนลอยค้างกลางอากาศ ผมถ่ายภาพโดยจัดองค์ประกอบให้อยู่ตรงกลางท่ามกลางผู้คนที่เดินไปมา เพื่อให้มีการเปรียบเทียบลักษณะท่าทางที่แตกต่างกัน (Contrast) ระหว่างคนเดินถนนปกติกับผู้ชายผิวสีที่ลอยค้างอยู่กลางอากาศเพื่อเน้นเรื่องราวของตัวแบบให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม นอกจากการคาดเดาในเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งบางทีก็อาจจะเป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้หรือไม่ก็ตาม ไม่ได้สำคัญไปกว่าเชื่อมั่นและพยายามเสี่ยงเพื่อไขว่คว้าโอกาสในการสร้างสรรค์ผลงาน อย่าให้สิ่งที่เราคาดเดาเป็นเพียงแค่ความคิดในหัว ขอให้มีความสุขกับการถ่ายภาพ สวัสดีปีใหม่ครับ