ทุกวันนี้ยังมีเด็กวัยรุ่นจำนวนมากที่มีปัญหาแต่ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร ‘เสก-สุรเสกข์ ยุทธิวัฒน์’ ได้เล็งเห็นประเด็นสังคมในส่วนนี้ จึงก่อตั้งกิจการเพื่อสังคม Toolmorrow รายการทีวีออนไลน์ที่นำความเชื่อผิด ๆ ของเยาวชน มาทดลองให้เห็นในรูปแบบ Social Experimental VDO ไม่ว่าจะเป็น การสูบบุหรี่แล้วคิดว่าเท่, คุยเรื่องเพศกับพ่อแม่แล้วจะโดนดุ หรือล่าสุด ปรึกษาเพื่อนว่าท้อง เป็นคลิปวิดีโอที่สนุกสนานแต่แฝงสาระและแง่คิด เพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงจากความเชื่อไม่เหมาะสม เพราะพวกเขามีความเชื่อว่าทัศนคติที่ดีเป็นพื้นฐานในการมีชีวิตที่ดี

“พูดถึง Toolmorrow ผมทำได้ประมาณปีกว่า ๆ แล้ว ก่อนหน้านั้นทำเป็น Production มาก่อน ส่วนตัวผมเรียนจบสถาปัตยกรรมมา เป็นนักออกแบบผลิตภัณฑ์มาก่อน แล้ววันหนึ่งผมรู้สึกว่า ผมอยากทำอะไรที่มันมีคุณค่ามากกว่า เลยอยากทำสื่อเพราะว่ามันเห็นแล้วได้ยินกันง่าย ไม่ต้องซื้อก็ดูได้เลย เข้าถึงง่ายกว่า คือตอนที่ผมจะทำงานออกแบบผมรู้สึกว่า ทำไมความคิดสร้างสรรค์ต้องราคาแพง ถ้าคุณอยู่วงการออกแบบ คุณจะรู้ว่ามันราคาแพง แล้วคนเสพมันไม่ได้ ผมเลยอยากทำอะไรที่มันแมสขึ้น 

“พูดตรง ๆ แรงบันดาลใจของผมคือที่ถังขยะทิ้งแล้วมีเสียง ผมรู้สึกว่าผมก็ทำได้ รู้สึกมันมีอิมแพค ผมว่าอันนี้แหละมันเติมเต็มความฝันของผม ผมเลยทิ้งงานดีไซน์ ตอนนั้นผมมีรางวัลพอสมควรเลยนะ เป็นนักออกแบบไปต่างประเทศ เพื่อน ๆ ก็ว่าผมบ้ารึเปล่า แต่ผมก็ลองทำดู ทำ Toolmorrow แบบลองผิดลองถูก เริ่มจากไม่เป็นอะไรเลย โดยได้น้อง ๆ ทีมงานพวกนี้แหละมาช่วยตั้งแต่แรก”

ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็เริ่มพยายามหาปัญหาทางสังคม แล้วส่งเข้าประกวดโครงการบ้านปู จนเป็น 1 ใน 4 ทีมที่ชนะเลิศกิจการเพื่อสังคมระดับประเทศ จากโครงการ Banpu Champions for Change ปี 5 และจากยอดไลค์แฟนเพจ Toolmorrow จำนวนหลักร้อย ต่อมาเลยเจาะกลุ่มเป้าหมาย จนตอนนี้ยอดทะลุหลักแสนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กมัธยมจนถึงเด็กมหาลัย รวมไปถึงพ่อแม่ของเด็กด้วย หากนับช่วงอายุแล้วก็ประมาณ 13-34 ปี

“เมื่อก่อนผมเป็นเด็กเกเร ก็เลยเอาประสบการณ์ตรงนั้นมาใช้ การที่เป็นเด็กเกเรมาก่อน ผมว่าต้องมีรากปัญหาบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง ทำให้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เลยเอาความเชื่อตรงนี้มาทดลองว่าเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า ถ้าเราพูดเฉย ๆ เด็กก็ไม่เชื่อ ต้องลองทำให้เห็นเลยว่าเป็นอย่างไร ผมก็ลองหาข้อมูลว่ามีความเชื่อผิด ๆ อะไรบ้าง ลองไปเรื่อย แต่สุดท้ายเราค้นพบว่าพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ มันจะเกิดจากความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ไม่ดี พ่อแม่ไม่มีเวลา ทักษะในการสื่อสารของลูกก็จะมีปัญหา ผมเลยเริ่มมาสนใจประเด็นเรื่องทักษะความสัมพันธ์ การสื่อสารต้องทำอย่างไรให้มันคุยกันรู้เรื่องมากขึ้น

“คือจริง ๆ เวลาที่เด็กไม่คุยกับครอบครัว ตามสเต็ปเด็กจะต้องไปคุยกับเพื่อนก่อน แต่คุยกับเพื่อนมันก็มีข้อไม่ดี เช่นการเก็บความลับไม่อยู่ หรือประสบการณ์น้อย ฉะนั้นเด็ก ๆ ก็ต้องตัดสินใจเอง ไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตก็ไม่รู้ว่าอันไหนถูกหรือผิด Toolmorrow เลยพยายามเป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงในการใช้ชีวิตของวัยรุ่นออนไลน์ เพื่อให้เขาหยิบไปใช้แล้วเอาไปแก้ไขปัญหาได้ เราเลยวางตัวให้เป็นอย่างนั้น ตอนนี้เราพยายามสร้างฐานแฟนคลับก่อนให้เยอะ ๆ วันหนึ่งเราอาจจะมี Product บางอย่างที่มันทำเงินจริง ๆ ออกมา แล้วจะสลับฐานแฟนคลับมาเป็นผู้ใช้ ตอนนี้พวกเรายังมีแผนอีกหลายตัวที่ยังอยากทำ

“จากนี้เราคงจะมีวิธีการแก้ไขปัญหาบางอย่างที่มันทำเงินได้ และสามารถแก้ไขปัญหาได้จริง ๆ แล้วเดี๋ยวคุณค่าที่มันเกิดขึ้นจะทำเงินให้เราเอง เราไม่ได้ต้องการให้เด็กมาจ่ายเงิน เราเพียงแค่ต้องการหาคำตอบบางอย่าง วิธีการบางอย่างที่ส่งผลต่อชีวิตเขาจริง ๆ คือเราเป็นธุรกิจเพื่อสังคม มันต้องหาวิธีการทำเงินอยู่แล้วแหละ แต่การทำเงินของเราไม่ใช่ทำเงินโดยกำไรสูงสุด แต่ทำเงินเพื่อหวังว่า ฐานแฟนคลับของเราต้องได้ประโยชน์สูงสูด ให้เกิดผลกระทบในทางที่ดีขึ้น ให้พ่อแม่เขาได้ตระหนักรู้ ให้พ่อแม่ที่เขาไม่มีทักษะเลยได้ทบทวนตัวเองว่าต้องทำอะไรต่อ ให้เด็กคิดว่าจริง ๆ แล้วถ้าเกิดพ่อแม่เป็นอย่างนี้ควรทำอะไรต่อ

“ก็มีเด็กเข้ามาคุย ปรึกษาปัญหาในแฟนเพจของเราเหมือนกัน ก็เป็นเรื่องชีวิต ความรัก ครู พ่อแม่ มีหมด เราก็ให้คำปรึกษาเท่าที่เราทำได้ ถ้าไม่ไหวเราก็ส่งต่อให้จิตวิทยา เด็กพวกนี้เขามีปัญหาไม่กล้าบอกใคร ไม่กล้าบอกพ่อแม่ ก็มีเด็กมาเล่าว่า มุมมองเปลี่ยนไป ทัศนคติเปลี่ยนไป บางคนที่ไม่กล้าคุยกับพ่อแม่ พอลองไปคุยดู ก็บอกเออพี่ พ่อไม่ได้ดุอย่างที่คิด”

พวกเขาเริ่มต้นจากการทดลองทั้งถูกและผิด ด้วยเจตนาที่ดี ต้องการให้สังคมได้ตระหนักถึงปัญหาวัยรุ่นกันอย่างแท้จริง มุ่งให้คนในครอบครัวหันหน้าคุยกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้นก่อนที่จะสายเกินแก้ 

“โชคดีที่เจตนาของเรา ทำบนองค์ความรู้พื้นฐานที่เคยมี ผมเคยพลาดทำตัวไม่ดี ผมเลยรู้ว่ามันเกิดอะไรต่อ แล้วรู้ว่าเด็ก ๆ คิดอะไร ผมคุยกับพ่อแม่ของเด็กที่มีปัญหานะ โทรสอบถามเขา เขาพยายามปรับตัวหลาย ๆ อย่าง แต่โชคร้ายที่ว่าก่อนที่เขาจะปรับตัว ลูกมีปัญหาแล้ว เลยกลายเป็นว่าพ่อแม่ไม่รู้ว่าลูกต้องการอะไร จะไปต่อยังไง คือลูกตั้งกำแพงสูงไปแล้ว มันเลยเป็นสถานการณ์ที่คลุมเครืออยู่ในบ้าน ผมก็ถามว่าทำไมไม่ลองไปหาหมอ เขาก็บอกว่า เขาไม่มีเวลาต้องทำงาน ผมก็เข้าใจว่ามันเป็นยุคปัจจุบัน สิ่งที่เขาทำได้คือปรึกษาเพื่อน เพื่อนก็ให้คำปรึกษาในแบบที่เขาให้ได้ อาจจะถูกหรือผิดไม่รู้ ดังนั้นเราต้องให้พ่อแม่ที่มีปัญหาพวกนี้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อจะได้นำไปแก้ไข นี่คือสิ่งที่ Toolmorrow อยากทำ”

ก่อนจากกันเขาทิ้งท้ายว่า “จริง ๆ ทุกอย่างเกิดจากความเข้าใจ ถ้าเข้าใจจริง ๆ ผมว่าทุกอย่างมันก็ง่ายขึ้น แต่ Toolmorrow มันดีนะ ทำให้ผมเข้าใจน้อง ๆ ในทีมมากขึ้น เมื่อก่อนเอาแต่ใจ เอางานที่ดี แต่น้อง ๆ เข้าใจหรือเปล่าไม่รู้ พอมาทำคลิปเรื่องความเข้าใจ เออ เราเลยเข้าใจว่าความเข้าใจหลาย ๆ อย่างจะทำงาน และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้น ผมว่าทักษะระหว่างบุคคลมันสำคัญมาก” 

Know Them 

•    ชื่อ Toolmorrow เป็นการเล่นคำจากคำว่า “Tomorrow” ที่แปลว่าวันพรุ่งนี้ ดังนั้น Toolmorrow จึงแปลได้ว่าเป็นเครื่องมือที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตนั่นเอง 

•    คลิปวิดีโอที่ปล่อยลง Facebook มีทั้งหมด 17 คลิป แล้วยังมีประเด็นยิบย่อยกันอีกหลายคลิป

•    จากปกติจะปล่อยคลิปลง Facebook วันอังคาร แต่ตอนนี้เริ่มมีแผนที่จะปล่อยคลิปลง Facebook วันศุกร์ เพราะคนจะได้มีเวลาดูวันเสาร์-อาทิตย์ โดยรวมความถี่ของคลิปจะปล่อยสองครั้งต่อสัปดาห์

•    ติดตามต่อได้ที่ www.facebook.com/toolmorrow