วิธีทำลายภูมิต้านยังมีอีกหลากหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีนั้น ก็ล้วนแทรกแซงอยู่ในชีวิตประจำวันของเรานั่นเอง และนี่คืออีก 3 วิธีที่หมอจะแนะนำแต่ไม่ให้ทำตามครับ

1.เครียดตลอดเวลา!!!

ทุก ๆ คนจำเป็นต้องมีความเครียดบ้าง เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเครียดต่อเนื่องนาน ๆ มันจะทำให้คุณเสี่ยงต่อการเป็นโรคได้เยอะมาก ตั้งแต่ไข้หวัดยันโรคร้ายแรงเลยทีเดียว

ภาวะเครียดเรื้อรังนั้นจะทำให้ร่างกายของเราหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีฤทธิ์ในการกดภูมิต้านทาน

เราอาจจะไม่สามารถกำจัดความเครียดทั้งหมดให้ออกจากชีวิตได้ แต่เราสามารถจัดการให้อารมณ์เครียดดีขึ้นได้ เช่น

• การปฏิบัติสมาธิ
• ใช้ชีวิตช้า ๆ ฟิน ๆ สโลว์ไลฟ์ 
• ออกไปหาเพื่อน
• ออกแรงเยอะ ๆ เพื่อกำจัดความเครียดออกไป
• ใช้ชีวิตแบบมีเป้าหมายเพื่อทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น
• การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ที่เกี่ยวข้องกับความเครียดในเรื่องนั้น ๆ ก็ช่วยได้มาก เช่น เครียดเรื่องสุขภาพ ก็สามารถติดตามแฟชั่นสวย ๆ หรืออ่านบทความเรื่องสุขภาพใน MiX MAGAZINE เป็นต้น

การผ่อนคลายความเครียดเป็นการช่วยลดฮอร์โมนความเครียด (อ้าว! ก็แน่สิ) ซึ่งจะช่วยให้เราหลับสบายขึ้น และยังช่วยพัฒนาภูมิต้านทานให้ดีขึ้น

ผู้ที่ทำสมาธิเป็นประจำสม่ำเสมอพบว่ามีอาการตอบสนองของภูมิต้านทานที่แข็งแรงขึ้น ซึ่งพบในงานวิจัยหลายชิ้น

มีงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ให้ผู้เข้าร่วมวิจัย ทำสมาธิต่อเนื่องกันมากกว่า 8 สัปดาห์ พบว่าในกลุ่มนี้มีการสร้างภูมิต้านทานแอนตี้บอดี้ต่อไข้หวัดใหญ่หลังจากฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้มากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน และผลของการเพิ่มภูมิต้านทานยังคงอยู่ต่อเนื่องไปถึง 4 เดือนให้หลัง

แนะนำ #ผ่อนคลายความเครียด

2.โดดเดี่ยวเดียวดาย!!!

การมีสัมพันธภาพที่ดี และมีเพื่อนที่ดีนั้นสำคัญต่อเรามาก (รวมถึงสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัวด้วย ซึ่งถือว่าสำคัญสุด!!!)

มีงานวิจัยพบว่า คนที่มีเพื่อนสนิทไม่กี่คนหรือจะมีเพื่อนกลุ่มใหญ่ ๆ ก็ตาม พบว่าคนนั้นจะมีภูมิต้านทานที่ดีกว่า แข็งแรงกว่าคนที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย

มีงานวิจัยหนึ่งพบว่า นักศึกษาปีหนึ่งที่โดดเดี่ยวจะมีภูมิต้านทานร่างกายต่อวัคซีนไข้หวัดใหญ่อ่อนแอกว่าผู้ที่มีเพื่อน

ถึงแม้จะมีปัจจัยหลายอย่างที่มีผลต่อสุขภาพของเรา การมีเพื่อนดีที่มีความหมายต่อกันและกันก็ยังเป็นแนวคิดที่เข้าท่าเสมอ

แนะนำ #ออกไปพบปะเพื่อนฝูง หรือ #ใช้เวลากับครอบครัวให้มากขึ้น

3. การไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลย!!!

การหัวเราะดีต่อเราแน่นอน มันจะช่วยควบคุมระดับของฮอร์โมนความเครียดในร่างกายและยังช่วยกระตุ้นเม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเชื้อโรค

วิธีการนี้จริง ๆ ง่ายมาก ๆ เพียงแค่เข้าร่วมกับกิจกรรมสนุก ๆ ขำ ๆ ก็จะช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานร่างกายของเราได้

งานวิจัยชิ้นหนึ่ง พบว่าคนที่บอกว่ากำลังจะไปดูวีดีโอตลกนั้น มีระดับฮอร์โมนความเครียดลดลง และมีฮอร์โมนเอนโดรฟิน รวมทั้งฮอร์โมนแห่งความสุขอื่น ๆ เพิ่มขึ้น

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ได้ทำการวิจัยในชาย 16 คน โดยบอกกับพวกเขาว่า จะให้ดูวิดีโอตลกม้วนหนึ่ง ซึ่งพวกเขาทุกคนเห็นด้วยว่ามันตลกมาก ๆ โดยจะให้ดูในอีก 3 วันข้างหน้า

ผลที่พบนั้นก็คือ มีความเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพในร่างกายของพวกเขาทันที และเมื่อเขาได้ดูวีดีโอนั้นจริง ๆ แล้ว ระดับฮอร์โมนความเครียดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ฮอร์โมนเอนโดรฟินหลั่งเพิ่มขึ้น 27% และโกร์ทฮอร์โมน ซึ่งบ่งชี้ว่ามีผลดีต่อภูมิต้านทานเพิ่มขึ้นถึง 87%

แนะนำ: #หาอะไรสนุกๆ ขำๆ ทำ #หาวิดีโอตลก ๆ ขำ ๆ มาดูบ้าง