บทบาทการเป็นวิทยากร

บทบาทการเป็นวิทยากร

ถึงแม้ว่าผมจะยุติการทำหน้าที่โค้ชฟุตบอลมาตั้งแต่ปี 2545 และมาเอาดีทางสื่อมวลชน ปัจจุบันก็มีรายการทีวี จัดรายการวิทยุ ทำหนังสือพิมพ์กีฬารายวันฮอตสกอร์ และทำเว็บไซต์กีฬา ก็ใช้ความรู้ความสามารถในเรื่องของโค้ชฟุตบอลในการวิเคราะห์วิจารณ์และสิ่งที่เป็นประโยชน์ในเรื่องของการดูฟุตบอลมาเล่าสู่กันฟัง

การที่มีโอกาสได้อบรมโค้ชฟุตบอล ได้บีไลเซนต์ทั้งในยุโรป ในเอเชีย ทำให้ผมมีโอกาสได้เห็นมุมลึกในเรื่องของการทำฟุตบอลด้วยตัวเอง และได้มีโอกาสดูฟุตบอลดี ๆ ค่อนข้างเยอะไปเป็นคอมเมนท์เตเตอร์ในฟุตบอลโลก และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป บางครั้งพรรคพวกเพื่อนฝูงที่ชอบในวิธีการคอมเม้นท์ในเรื่องราวของฟุตบอล ก็เอ่ยปากชักชวนให้ไปบรรยายในเว็บ แล้วก็ในวิทยุและในทีวีช่องต่าง ๆ

การดูฟุตบอลแล้วก็การนำเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์มาเล่าสู่กันฟังให้กับคนในแวดวงฟุตบอลโดยเฉพาะคนที่เป็นนักฟุตบอล คนที่เป็นโค้ชฟุตบอล และคนที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอล ก็เป็นสิ่งที่ผมเองมีความสุข เพราะว่าการได้ดูฟุตบอลและนำสิ่งต่าง ๆ ที่ตัวเองพอจะมีความรู้บ้างมาเล่าสู่กันฟัง ก็ทำให้ในเมืองไทยมีทั้งคนยอมรับในการคอมเม้นท์ของผม และมีทั้งคนที่มองว่าผมคอมเม้นท์ในเรื่องราวของฟุตบอลแล้ว ไม่มีประโยชน์ ก็แล้วแต่นานาจิตตังนะครับในมุมมองต่าง ๆ แต่ถ้าถามผมเอง ผมก็ถือว่าผมยังมีความสุขกับการได้มีโอกาสดูฟุตบอลและนำเรื่องราวต่าง ๆ มาเล่าสู่กันฟังโดยเฉพาะการพัฒนาเทคนิคการเล่นฟุตบอล

ตลอดเกือบ 10 ปีเต็มที่ผ่านมา ผมมีโอกาสเปิดอบรมโค้ชที่ไม่มีไลเซนต์ แบบของเอเอฟซี อบรมโค้ช ถ้าเป็นเอเอฟซี เขาจะใช้เวลาอบรม ซีไลเซนต์ 14 วัน บีไลเซนต์ 21 วัน และ เอไลเซนต์แบบ 1 เดือนเต็ม แต่สำหรับผมอบรมโค้ชฟุตบอล ผมใช้เวลาเพียง 2 วันคือเสาร์กับอาทิตย์ แล้วก็จะใช้วิธีการอบรมโค้ชด้วยการบรรยายของผม 45 นาที แล้วก็มีทีมงาน มีธรรมวิทย์ ศิริธรรม มีเสกสรรค์ ปิตุรัตน์ มีชนัญชัย บริบาล ดูแลภาคสนาม 45 นาที สลับกันไปตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนกระทั่งเย็นวันเสาร์ เลิกตอนสี่โมงเย็น พอวันรุ่งขึ้นวันอาทิตย์ก็จะทำการอบรมซ้ำอีก 1 วัน ตั้งแต่ 09.00-16.00 น. ก็เป็นอันว่าจบ ผมใช้เวลาในการอบรมเพียง 2 วัน แล้วก็ใช้เวลาในการทำงานในเรื่องการอบรมโค้ชมาจบไปแล้วทั้งหมด 17 รุ่นด้วยกัน ทุกวันนี้เองก็ยังมีคนอยากให้ผมอบรมโค้ชฟุตบอลที่ไม่มีไลเซนต์ แต่คนที่เข้าอบรมบอกได้ประโยชน์ค่อนข้างเยอะ และก็มีมากมายหลาย ๆ คนที่ตอนนี้กำลังทำงานเป็นโค้ชอยู่ในเอไอเอสลีกภูมิภาค ในลีกวัน และบางคนก็เป็นผู้ช่วยโค้ชอยู่ในโตโยต้าลีกคัพ

สองปีที่ผ่านมา ผมได้รับการติดต่อมาจากทีมในโตโยต้าไทยลีก 3-4 ทีม ได้มีโอกาสไปพูดคุยและบอกกล่าวให้กับทีมงานทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเจ้าของทีม ผู้บริหารทีม คนทำทีมและก็นักฟุตบอล ถึงเรื่องที่เขาควรจะต้องรู้ในเรื่องของการทำงาน ผมใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงก็จะพูดถึงเรื่องราวของฟุตบอลในฐานะที่คุณทำหน้าที่ต่าง ๆ กันไป แต่ฟุตบอลก็เป็นการเป็นงานร่วมกันและก็จะพูดถึงหน้าที่ของแต่ละคนที่จะต้องดูแล หน้าที่ของผู้จัดการ หน้าที่ของเจ้าของทีม หน้าที่ของผู้บริหาร หน้าที่ของโค้ช เฮดโค้ช หน้าที่ของคนที่ดูแล Physical Fitness เกี่ยวกับพละกำลัง และสุดท้ายพูดให้นักบอลฟังถึงหน้าที่ในการเล่นว่าคุณต้องทำอย่างไรบ้างถ้าคุณเป็นนักฟุตบอล และก็บอกถึงความจำเป็นที่คุณจะต้องเป็นมืออาชีพและต้องบอกกล่าว ใช้เวลา 3 ชั่วโมง หลังจากที่พูดคุยจบแล้ว ก็ปรากฏว่ามีทีมที่ผมมีโอกาสไปพูดคุย หลังจากพูดคุยเสร็จแล้วก็ได้รับประโยชน์เจ้าของทีมก็พอใจและก็มีความรู้สึกว่าอยากให้ไปพูดอีก

ล่าสุดก็มีทีมโตโยต้าไทยลีกและก็ลีกวันติดต่อให้ผมไปพูดให้กับทีมงานเจ้าของผู้บริหาร เฮดโค้ชผู้ช่วยโค้ช และโค้ชตำแหน่งต่าง ๆ ตลอดจนผู้เล่นถึงเรื่องราวของฟุตบอลที่เขาเหล่านี้จะรับผิดชอบร่วมกันในการทำทีม ซึ่งผมก็ตอบรับเกือบทุกทีมที่เชิญมา เพราะผมคิดว่ามันจะมีประโยชน์สำหรับคนที่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดและจะไม่มีประโยชน์ถ้าเขาไม่ตั้งใจหรือว่าไม่สำนึก ไม่พยายามที่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมาผมก็มั่นใจว่าข้อมูลทั้งหมดที่ผมเตรียมการและไปพูดให้กับทีมฟุตบอลเหล่านี้ฟังจะทำให้บรรยากาศของการซ้อมบอล บรรยากาศของการเล่นบอล และบรรยากาศของบริหารจัดการทีมนั้นดูดีขึ้นและผลงานเท่าที่เห็นมาก็มี 2-3 ทีมที่ผมทำและผมมั่นใจเลยว่าเจ้าของทีมนั้นแฮปปี้ และทุกวันนี้ก็ยังติดต่อ ทุกครั้งที่มีวันหยุดและมีโอกาสก็จะให้ผมไปพูดคุยกับนักบอลเหล่านั้น

ที่ผมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังเพราะว่าฟุตบอลนั้นจะให้คุณจะให้ประโยชน์สำหรับคนที่เข้าใจและเลือกคนที่ไปพูดคุยให้นักบอลเหล่านี้ฟังถึงหน้าที่ในเรื่องราวของการทำงานในหน้าที่ที่ต่างกันและต้องเข้าใจถึงหน้าที่ของตัวเองในแต่ละคนว่าสิ่งที่ควรจะทำนั้นคืออะไร ผมไม่ใช่คนที่เป็นเทวดาหรือว่าเก่งกาจเพียงแต่ผมมีความรู้และนำความรู้เหล่านี้มาเล่าสู่กันฟัง ในช่วงก่อนที่จะปิดครึ่งฤดูกาลแรก เปิดฤดูกาลสองในช่วงหยุดฟีฟ่าเดย์ ผมเองได้มีโอกาสได้รับการนัดหมายจากทีมฟุตบอลทั้งหมด 3 ทีม ให้ไปพูดคุย
ถึงเรื่องราวเหล่านี้ ก็ขอบคุณที่ให้เกียรติผม และถ้าหากทีมฟุตบอลทีมไหนคิดว่าผมมีประโยชน์กับการ ได้มีโอกาสให้ผมได้ไปพูดคุยก็ลองดูแล้วกัน เพราะว่าผมมั่นใจว่า ทุกทีมที่ผมไปพูดนั้นจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนในทีม ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของทีม คนที่ออกเงินให้กับทีม คนบริหารทีม คนเป็นผู้จัดการทีม เฮดโค้ช โค้ชและโค้ชตำแหน่งต่าง ๆ รวมทั้งผู้เล่นและผู้ที่อยู่ในทีม ผมเชื่อว่าการบรรยายของผมกับทีมฟุตบอลจะมีประโยชน์ต่อทุกทีมครับ 

ทางด้านฟุตบอล