การโกง หรือหลอกลวงในยุคปัจจุบัน ได้มีการพัฒนารูปแบบที่หลากหลาย และมีแนวโน้มที่อันตรายมากขึ้น บางคนก็ทำให้ไว้เนื้อเชื่อใจแล้วค่อยออกลายโกงออกมา บางคนถึงขั้นตีสนิทคบกันเป็นแฟน แต่สุดท้ายก็เผยเบื้องลึกของจิตใจที่มุ่งร้ายออกมา เหมือนอย่างเรื่องของ ‘เพชร’

เพชร เป็นหนุ่มหน้าตาดี บุคลิกดี ที่บ้านของเขามีอาชีพค้าขาย ตั้งแต่ในวัยเด็ก เพชรมีเงินใช้ไม่เคยขาดมือ อยากได้อะไรก็ได้สมหวังอยู่ตลอด แต่เนื่องจากเศรษฐกิจในปัจจุบันไม่ได้ไหลลื่นเหมือนแต่ก่อน ทำให้หลังจากที่เขาเรียนจบ ทางบ้านก็ต้องการให้เขาหาเงินเองบ้าง ทำให้เงินที่จะให้เขานั้นลดลง 

แม้เงินที่ได้จากทางบ้านลดลง แต่พฤติกรรมการใช้เงินของเขานั้น ไม่ได้ลดลงตามไปด้วย เขายังคงใช้เงินมือเติบเหมือนเดิม ไม่นานนักหนี้บัตรเครดิตก็มารุมเร้า หลายใบวงเงินเต็มทำให้เขาต้องหาวิธีที่จะได้เงินมา

วิธีหาเงินของเขานั้นไม่ใช่การทำงานทำการเหมือนอย่างคนทั่วไป แต่เขาจะเลือกคบหาผู้หญิงที่ดูมีสตางค์ ด้วยใบหน้าอันหล่อเหลา บวกกับคารมที่เป็นต่อ ก็ทำให้เขาสามารถหลอกเงินจากผู้หญิงมาได้หลายราย

ถ้าเป็นเพียงแค่การเลี้ยงข้าว เลี้ยงน้ำ ก็คงไม่เท่าไหร่ แต่เขากลับเลือกวิธีที่ดูเหมือนจะเฉียดคุกตะรางเข้าไปทุกที และเมื่อเขาได้รู้จักกับผู้หญิงคนใหม่บนโลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค และทำให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ จากนั้นก็วางแผนเพื่อขโมยทรัพย์สินมีค่าของผู้หญิงคนนั้น

เพชร : วันนี้ขอไปส่งที่บ้านน้องนะครับ

น้อง : ได้ค่ะ

หลังจากมาถึงบ้าน เพชรก็เอ่ยปากว่าหิวน้ำ

เพชร : ขอน้ำดื่มหน่อยได้ไหมครับ 

น้อง : ได้สิ เดี๋ยวเดินไปหยิบให้นะคะ

หลังจากที่น้องเดินไปหยิบน้ำที่ในครัว เพชรก็ทำการเดินสำรวจภายในบ้านเพื่อหาของมีค่า จากนั้นรุ่งเช้า เมื่อเธอและคนในบ้านเดินทางออกไปทำงานนอกบ้านกันหมด เพชรก็อาศัยเวลานี้เข้าไปขโมยของมีค่าภายในบ้าน

เวลาผ่านไปน้องกลับมาบ้านและเห็นของมีค่าหายไปจำนวนมาก ทำให้รู้แน่ว่ามีขโมยขึ้นบ้าน พอสอบถามเพื่อนข้างๆ บ้าน ก็ได้ความว่ามีคนเห็นรูปพรรณสัณฐานคล้ายเพชรเข้ามาในบ้านเมื่อช่วงสายๆ ที่ผ่านมา

เธอจึงตัดสินใจโทรหา แต่เพชรก็ปิดเครื่องไปเสียแล้ว จึงเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับเพชร 

Q : เพชรจะมีความผิดข้อหาอะไร และจะได้รับโทษอย่างไรบ้าง 

A : จากข้อเท็จจริงปรากฏว่าเพชรได้เข้าไปในบ้านซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของน้องโดยไม่ได้รับอนุญาต และเอาของมีค่าของน้องไป ซึ่งเป็นการแสวงหาประโยชน์มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น การกระทำดังกล่าวของเพชรจึงเป็นการเข้าไปเอาทรัพย์ของผู้อื่นในเคหสถานโดยทุจริต ซึ่งมีความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (8) ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษหนักตามความผิดฐานลักทรัพย์

ประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 1 (4) เคหสถาน หมายความว่า ที่ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัย เช่น เรือน โรง เรือ หรือแพ ซึ่งคนอยู่อาศัย และให้หมายความรวมถึงบริเวณ ของที่ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัยนั้นด้วย จะมีรั้วล้อมหรือไม่ก็ตาม

มาตรา 334 ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกพันบาท

มาตรา 335 (8) ผู้ใดลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการหรือสถานที่ที่จัดไว้เพื่อให้บริหารสาธารณที่ตนได้เข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือซ่อนตัวอยู่ในเคหสถานนั้นๆ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สองพันบาท ถึงหนึ่งหมื่นบาท

เมื่อศีลธรรมในใจคนลดน้อยลง ความเกรงกลัวต่อบาปและกฎหมายก็หดหาย ในที่สุดผู้กระทำผิดก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ซึ่งเป็นอุทาหรณ์ให้จงอย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคนโดยเฉพาะคนที่เพิ่งรู้จักกัน

 

อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน