“Begin Again”

“Begin Again”

(Song Writer: Taylor Swift) 

Took a deep breath in the mirror
He didn’t like it when I wore high heels
But I do
Turn the lock and put my headphones on
He always said he didn’t get this song
But I do, I do

Walked in expecting you’d be late
But you got here early and you stand and wave
I walk to you
You pull my chair out and help me in
And you don’t know how nice that is
But I do

*And you throw your head back laughing
Like a little kid
I think it’s strange that you think I’m funny cause
He never did
I’ve been spending the last 8 months
Thinking all love ever does
Is break and burn and end
But on a Wednesday in a cafe
I watched it begin again

You said you never met one girl who
Had as many James Taylor records as you
But I do
We tell stories and you don’t know why
I’m coming off a little shy
But I do 
(*)

And we walked down the block, to my car
And I almost brought him up
But you start to talk about the movies
That your family watches every single Christmas
And I want to talk about that
And for the first time
What’s past is past
(*)

    แอบถอนใจทอดตาไปในกระจก    เคยหนักอกเขาขัดใจในส้นสูง
    ทั้งไม่ชอบเพลงโปรดฉันเกินชักจูง    เหมือนหลงฝูงมาเจอกันมันเหนื่อยใจ
    เดินเข้าร้าน ฉันแอบปลงเธอคงสาย    เหนือคาดหมายเธอยืนยกโบกมือไหว
    แถมช่วยเลื่อนเก้าอี้นั้นฉันชอบใจ    เธอรู้ไหมฉันปลื้มใจอยู่ในที
    ยามคุยกันเธอหัวร่อจนงอหงาย    ทำตัวคล้ายเด็กสนุกยามสุขี
    เธอว่ามุขฉันขำแตกนั้นแปลกดี    เพราะคนที่เคยคบไซร้เขาไม่ฮา
    เผาเวลาแปดเดือนไปในเรื่องเก่า    นั่งหลงเงารักเคยเพรียกแลเรียกหา
    เคยแตกตกหกยับลงกับตา    เพิ่งกลับมาพุธนี้ ที่นี่เอง
    เธอว่าไม่เคยพบเห็นหญิงที่มี    มากแผ่นดีเจมส์ เทย์เลอร์ เธอว่าเจ๋ง
    ยิ่งคุยนานฉันพลันเขินใช่เพลินเพลง    ใจมันเหวงพูดไม่คล่องเหมือนต้องมนต์
    ตอนเธอเดินมาส่งฉันเตรียมเล่า    ถึงเรื่องเขาเก่าก่อนมาไม่น่าสน
    แต่เธอพลันชวนซึ้งซาบภาพยนตร์    ที่ทุกคนดูร่วมกันวันเทศกาล
    ฉันเริ่มเรียนรู้จัดการกับอดีต    รู้จักขีดเส้นไว้ไม่เสิบสาน
    เคารพมันจบแล้วจำไม่รำคาญ    อยู่ในกาลปัจจุบันไม่ช้ำใจ
    คืนวันพุธรักเกิดใหม่ในคาเฟ่    ฟังดูเท่แต่ไม่เท่าที่หวามไหว
    เกิดแล้วดับดับแล้วเกิดบรรเจิดไกล    คือเรื่องไซร้คอยย้ำธรรมดา

เสียดายแทนใครหลายๆ คนที่ เทย์เลอร์ สวิฟท์ ได้ยกเลิกคอนเสิร์ตที่แฟนๆ ชาวไทยตั้งตารอ เธอเป็นสาวน้อยวัย 24 ที่เติบโตมาจากสายเพลงลูกทุ่งอเมริกัน เข้าวงการตั้งแต่อายุ 14 ในฐานะคนเขียนเพลง แต่ผันตัวครอสโอเวอร์ข้ามกำแพงแบ่งกั้นของดนตรีมาเป็นขวัญใจวัยรุ่นทั้งหนุ่มสาวได้แบบไม่เป็นสองรองใครใน พ.ศ.นี้ 

ถ้าเอาเธอไปเทียบกับนักร้องนักแต่งเพลงที่ดังตั้งแต่เด็กเหมือนกันอย่าง จัสติน บีเบอร์ เธอก็คือสุดยอดนางฟ้าของวงการดีๆ นี่เองครับ ทั้งเรื่องหน้าตา การวางตัว ผลงาน การพัฒนา แต่ในฐานะมนุษย์ธรรมดา เธอก็คือเด็กสาวที่อยากมีความรักดีๆ เหมือนคนทั่วๆ ไป 

เทย์เลอร์ ออกเดทและคบหากับคนดังหลายคน ไม่ว่าจะเป็นหนึ่งใน Jonas Brothers, เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์, เจค จิลเลนฮาล, จอห์น เมเยอร์ หรือแม้แต่สมาชิกวง One Direction อย่าง แฮร์รี่ สไตลส์ แต่ทุกครั้งความสัมพันธ์ก็ไปไม่รอด

มีหลายเหตุผลที่ทำให้คนคบหากัน แต่เหตุผลที่ทำให้ผู้หญิงรักผู้ชายมักมีเหตุเดียว คือมันไม่มีเหตุผลครับ จิตใจผู้หญิงถึงเป็นสิ่งที่หลายสำนักพูดตรงกันคือ มันไม่ใช่สิ่งที่มีไว้เข้าใจมากไปกว่าให้เข้าใจว่า ‘มันไม่มีเหตุผลหรอก’ 

ผู้หญิงสวยมากหลายคนที่ผมเห็นล้วนมีแฟนหน้าตาปลาสลิด แปลว่าผู้หญิงดีๆ จะให้ความสำคัญเรื่องจิตใจมากกว่ารูปร่างหน้าตา หรือของประดับภายนอก ผู้หญิงที่เลือกผู้ชายจากรถที่ขับจากฐานะ ไม่ได้แปลว่าเธอรักผู้ชายคนนั้นหรอกครับ ผมบอกแล้วว่า เหตุผลที่คนคบกันกับเหตุผลที่คนรักกัน มันคนละส่วน 

พระพุทธเจ้าท่านทรงชี้ว่า คนที่จะอยู่กันยืด ควรเสมอกันในสี่เรื่อง คือ ศีล ศรัทธา จาคะ ปัญญา พูดง่ายๆ คือ วิถีชีวิตปกติเสมอกัน เพราะถ้าไม่เสมอกันมันจะเกิดความยากตามมา 

เพราะมันจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า “ความไม่สบายใจ อึดอัด ขัดใจ คับใจ” และไอ้ความรู้สึกตระกูลนี้แหละ ที่ทำให้คนเลิกกัน เหมือนที่ เทย์เลอร์ บอกในเพลงนี้ว่าแฟนเก่าเธอไม่ชอบสิ่งที่เธอชอบอย่างเรื่องเท้าส้นสูง ไม่ตลกมุขของเธอ ไม่ชอบเพลงที่เธอฟัง ฯลฯ ซึ่งผมเองก็แค่อยากจะบอกว่า ...

‘ผู้หญิงทุกคนชอบผู้ชายที่เอาใจใส่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ชอบเธอในแบบที่เธอเป็น ไม่ใช่ในแบบที่เราอยากให้เธอเป็น’

เอาเป็นว่าในที่สุดแล้วก็ขอให้สุขสันต์วันที่เรายังมีโอกาสรักใครสักคนครับ 

 

เหตุผลที่คน (เลิก) รักกัน