ในปัจจุบันมีรถยนต์มากมายหลายรุ่น หลายยี่ห้อออกมาให้เราได้เลือกซื้อกัน บ้างก็เลือกซื้อด้วยรูปร่างหน้าตา บ้างก็เลือกซื้อด้วยราคาตามกำลัง บ้างก็เลือกซื้อด้วยความชอบหรือความฝังใจในแบรนด์นั้นๆ ก็มี และก็มีอีกไม่น้อย ... ที่เลือกซื้อยานพาหนะตามประโยชน์ใช้สอยของมันจริงๆ 

หลังจากที่มาสด้าเปิดตัว All New Mazda3 SkyActiv รถยนต์สายพันธุ์ใหม่รุ่นล่าสุดของเมืองไทยอย่างเป็นทางการไม่นาน ก็ได้เวลาทำการทดสอบเจ้า Mazda3 SkyActiv ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่อย่าง “SkyActiv” เสียที 

โดยเส้นทางที่ใช้ในการทดสอบครั้งนี้ เป็นเส้นทางสุราษฎร์ธานี - ระนอง ด้วยระยะทางกว่า 316 กิโลเมตร ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นถนนสองเลน คดเคี้ยวไปตามไหล่เขา แถมบางช่วงฝนตกหนัก ลมพัดแรง ต้นไม้ใหญ่ล้ม ลูกไม้ที่โดนลมพัดหล่นจากต้น ลงมาบนพื้นถนน ก็สร้างอุปสรรคให้มากขึ้นไปอีก ส่งผลให้ต้องใช้เวลาเดินทางไปกว่า 6 ชม. กันเลยทีเดียว

รูปร่างหน้าตาภายนอกของ All New Mazda3 สปอร์ตโฉบเฉี่ยวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นตัว 5 ประตูหรือ 4 ประตู โดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรง 5 เหลี่ยมขนาดใหญ่ทำให้ด้านหน้ารถดูสปอร์ตดุดัน บวกด้วยเส้นสายที่ลากต่อไปอย่างลงตัว จากไฟหน้าไปจนถึงไฟท้ายเลยทีเดียว 

ภายในเรียบหรูดูดีในแบบรถยุโรป แต่ก็ยังคงความเป็นสปอร์ตไว้ด้วยการผสมผสานลาย “เคฟล่า” ลงไปได้อย่างลงตัว ส่วนการแสดงผลต่างๆ นั้น Mazda3 SkyActiv แยกจอแสดงผลไว้อย่างจัดเจนระหว่างระบบให้ความบันเทิง Center Display กับการแสดงข้อมูลในการขับขี่ด้วยจอ Active Driving Display ฉีกคู่แข่งได้อย่างชัดเจน 

พวงมาลัย 3 ก้าน ขนาดพอเหมาะ มีปุ่มมัลติฟังก์ชั่นครบ และปรับได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งคู่หน้าสไตล์สปอร์ต นั่งสบายแม้จะขับนานๆ ก็ยังไม่พบอาการปวดเมื่อยให้เห็นมากนัก ส่วนพื้นที่เหนือศีรษะนั้นถึงแม้ตัวผู้ขับจะสูงเกิน 180 ซม. ก็ยังมีพื้นที่เหนือศีรษะมากพอที่จะไม่ทำให้อึดอัด ส่วนเบาะด้านหลังนั้น สามารถพับได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้เป็นอย่างดี

โทนสีภายในส่วนใหญ่ใช้สีดำเป็นหลัก แต่ใส่รายละเอียดลงได้ไปอย่างลงตัว แต่เสียดายอยู่อย่างที่ว่า หากเป็นตัว Top Option แล้ว เบาะหนังภายในกลับใช้เป็นสีทูโทนขาว - ดำ เท่านั้น!!! ส่วนรุ่นลองลงมากลับน่าสนใจกว่า เพราะใช้เป็นเบาะสีดำ เย็บลายด้วยด้ายแดง 

Mazda3 SkyActiv ทั้ง 4 ประตู และ 5 ประตูทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ Dual - S - VT พร้อมท่อไอเสียแบบ 4 - 2 - 1 ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน - เมตรที่ 4,000 รอบ / นาที สูงสุดในรถระดับเดียวกัน รองรับเชื้อเพลิง E 85 ซึ่งมาสด้าเครมไว้ว่าเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นเดิมแล้ว เครื่องยนต์ใหม่นี้บริโภคน้ำมันน้อยลงถึง 20% เลยทีเดียว โดยเครื่องตัวนี้เป็นเครื่องตัวเดียวกับ Mazda CX-5 แต่แตกต่างกันที่ CX-5 ไม่สามารถเติม E 85 ได้นั่นเอง ส่วนการส่งกำลังนั้น ส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ SkyActiv-Drive แบบ 6 สปีดพร้อมโหมดเกียร์ธรรมดา ซึ่งในบางรุ่นมี Paddle Shift ที่หลังพวงมาลัยมาให้ด้วย เพื่อเพิ่มอรรถรสในการขับขี่มากขึ้น

มาที่ระบบช่วงล่างกันบ้าง ระบบบังคับเลี้ยว เลือกใช้แร็คแอนด์พิเนี่ยนพร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า EPAS ให้น้ำหนักพวงมาลัยดี ไม่เบาจนเกินไป เลี้ยวทางไหน ไปทางนั้นได้อย่างมั่นใจ ซึ่งข้อนี้ต้องยกความดีให้กับระบบกันสะเทือนด้วย โดยด้านหน้าเป็นแบบ อิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังนั้นเป็นแบบ อิสระ มัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลงเช่นกัน อีกทั้งมีระบบ DSC, TCS เข้ามาช่วยส่งผลให้การทรงตัวดีขึ้นทั้งทางตรงและทางโค้ง ถึงแม้จะเจออุปสรรคมากมายตัวรถก็ยังรักษาอาการได้เป็นอย่างดี

ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ น่าสนใจอยู่ที่ว่า ทางวิศวกรได้ออกแบบให้ตัวเสื้อ และลูกสูบภายในคาลิเปอร์นั้นให้มีขนาดเล็กลง ซึ่งรวมไปถึงจานเบรกด้วย แต่ประสิทธิภาพการทำงานกลับดีขึ้น น้ำหนักแป้นเบรกก็กำลังดี และเมื่อทุกอย่างเล็กลง ก็ส่งผลให้น้ำหนักลดลง ลดภาระของระบบช่วงล่างได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ระบบความปลอดภัย มีมาให้ครบครันไม่ว่าจะเป็นระบบเบรก ABS, EBD, BA ถุงลมนิรภัยคู่หน้าพร้อมระบบความปลอดภัยใหม่ภายใต้คอนเส็ปต์ i-ACTIVSENSE  เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุหรือช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุลงได้ ซึ่งจะประกอบไปด้วย RVM : Rear Vehicle Monitoring หรือระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับของผู้ขับขี่ SCBS : Smart City Brake Support หรือระบบที่จะสั่งหยุดรถอัตโนมัติ เมื่อพบสิ่งกีดขวางในด้านหน้า ในขณะขับขี่ที่ความเร็ว 4-30 กม./ชม. ซึ่งเราคุ้นเคยกันดีจากรถยุโรปบางค่าย ถือว่าเป็นของเล่นใหม่ในรถญี่ปุ่นที่น่าสนใจไม่น้อย

ยังไม่หมดเพียงแค่นี้นะครับ สำหรับความน่าสนใจในตัว All New Mazda3 เพราะยังมีรายละเอียดอีกเยอะที่ยังไม่ได้พูดถึง และได้ลองใช้งานจริงๆ อย่าง MZD Connect เทคโนโลยีใหม่ของทาง Mazda ที่จะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากในรถ เพื่ออัพเดทข่าวสารต่างๆ ได้ พร้อมทั้งยังรับฟังวิทยุได้จากสถานีทั่วโลกผ่านทางอินเทอร์เน็ตอีกด้วย

All New Mazda3 สอบผ่านตั้งแต่รูปร่างหน้าตาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น พอมาได้ทดสอบขับ ช่วงล่างที่เคยชอบๆ มาตั้งแต่รุ่นก่อนๆ มาคราวนี้ ปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้นไปกว่าเดิมอีก เครื่องยนต์ก็ตอบสนองดีเกินตัว ฉีกหนีคู่แข่งให้เห็นฝุ่นได้ไม่ยาก แถมด้วยราคาที่จับต้องได้ไม่ยากเย็นนักด้วยราคา 833,000 - 1,097,000 บาท ที่เหลือก็คงอยู่ที่การสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในเรื่องบริการหลังการขายแล้วล่ะครับ 

Trick & Tip ขับขี่ปลอดภัยในหน้าฝน

ย่างเข้าหน้าฝนกันแล้ว วิธีง่ายๆ ในการขับขี่ให้ปลอดภัยในขณะฝนตกคือ เพียงแค่เปิดไฟใหญ่ด้านหน้า ไม่ว่าฝนจะตกมากน้อยเพียงใด ขอให้เปิดไฟใหญ่ไว้ เพื่อแสดงตำแหน่งรถตัวเองให้คนอื่นๆ ทราบ และสิ่งที่ไม่ควรทำ คือการเปิดไฟกระพริบในขณะขับขี่ เพราะมันจะทำให้สับสนกันระหว่างรถที่จอดเสีย กับรถที่วิ่งอยู่

 

 

All New Mazda3 มาตรฐานใหม่ ใกล้เคียงรถยุโรป