วิเคราะห์ฟุตบอลโลก

วิเคราะห์ฟุตบอลโลก

เรื่องของฟุตบอลโลก บราซิล 2014 แม้จะมีหลายคนเขียนหรือพูดถึงกันมากมายแล้วก็ตาม แต่เพราะเป็นกีฬามหาชนของมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริงที่ผู้ชายในโลกโดยประมาณร้อยละ 60 - 70 ต้องติดตาม ผมจึงอดไม่ได้ที่จะขอเจาะถึงแต่ละกลุ่มทีมกันดีกว่า

ดังนั้นจึงขอนำแต่ละกลุ่มในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย มาวิเคราะห์กันดีกว่าตั้งแต่กลุ่ม A จนถึงกลุ่ม H ทั้ง 32 ทีมซึ่งจะแข่งขันในระหว่าง 12 กรกฎาคม - 13 มิถุนายน โดยเจ้าภาพบราซิลใช้ 12 สนามใน 12 เมืองใหญ่รองรับการแข่งขันครั้งนี้

กลุ่ม A

ประกอบไปด้วยบราซิล โครเอเชีย เม็กซิโกและแคเมอรูน กลุ่มนี้ยังไงบราซิลที่มีหลุยส์ ฟิลิเป้ สโคลาลี่โค้ชที่เคยพาทีมเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 2002 ได้กลับมาทำทีมอีกครั้งซึ่งเป็นทีมเดียวที่ไม่ว่าผมหรือถามทุกคนกล้าการันตีว่าได้เข้ารอบต่อไปแน่นอน ส่วนอีกทีมนั้นเลือกโครเอเชีย เพราะดูรายชื่อนักเตะโครเอเชียหลายคนเล่นให้ทีมใหญ่ในยุโรปอย่างลูก้า โมดริช, อิวาน ราคิติชหรือมาริโอมานซูคิช ต่างจากจังโก้ที่เป็นเลือดใหม่กว่าจะผ่านเข้ารอบนี้มาได้แทบลากเลือดแถมพึ่งชิชาริโต้เพียงคนเดียว คล้ายๆ กับแคมเมอรูนที่มีซามูเอล เอโต้แค่คนเดียวครับ

กลุ่ม B

ประกอบไปด้วยสเปน เนเธอร์แลนด์ ชิลีและออสเตรเลีย ก่อนอื่นเลยต้องแสดงความเสียใจกับออสเตรเลียที่อุตส่าห์ย้ายมาเล่นรอบคัดเลือกในโซนเอเชียแต่ดันอยู่กลุ่มเดียวกับแชมป์และรองแชมป์โลกคราวที่แล้วคือสเปนและเนเธอร์แลนด์ สเปนยังไงก็ต้องเข้ารอบแน่เพราะใช้ตัวหลักชุดเดิมจากเมื่อสี่ปีที่แล้ว ที่ต้องแย่งกันคือเนเธอร์แลนด์กับชิลี อัศวินสีส้มผลงานในรอบคัดเลือกถือว่าดีที่สุดในยุโรปซึ่งหลุยส์ ฟาน ฮัลล์เน้นนักเตะเลือดใหม่เป็นหลักผสมกับพวกตัวเก๋าอย่างราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท,เวสลีย์ ชไนเดอร์หรือเดิร์ก เคาท์ ส่วนชิลีมีประสบการณ์ในรายการใหญ่มากขึ้น ตัวผู้เล่นก็ไม่ธรรมดาทั้งอเล็กซิส ซานเชส, เอดูอาร์โด้ วากาสหรืออาร์ตูโร่ วิดัล แต่ส่วนตัวชอบบอลระบบพื้นฐานแน่นอย่างดัตซ์มากกว่า

กลุ่ม C

ประกอบไปด้วยโคลัมเบีย กรีซ ไอโวรี่ โคสต์และญี่ปุ่น กลุ่มนี้คงต้องแสดงความยินดีกับทุกทีมเพราะไม่มีทีมใหญ่เลย แต่ละทีมศักยภาพไม่ห่างกันมากแต่ถ้าให้เลือกทีมที่จะผ่านเข้ารอบขอเลือกโคลัมเบียที่คุ้นเคยกับสภาพบรรยากาศมากกว่าทุกทีม แถมหลายคนเล่นในยุโรปทั้งคริสเตียน สปาต้า, เฟรดดี้ กัวริน, เจมส์ โรดริเกวซ, เจมส์ มาร์ติเนซ, คาร์ลอส บัคก้า และถ้าฟัลกัลหายเจ็บสมบูรณ์ถือว่าเป็นม้ามืดได้เลย ส่วนอีกทีมน่าจะเป็นกรีซที่ได้เฟอร์นานโด ซานโตส โค้ชชาวโปรตุเกสมาทำทีม ที่เห็นได้ชัดเจนคือเกมรับเหนียวแน่นมีเกมโต้กลับที่น่ากลัว

กลุ่ม D

ประกอบไปด้วยอุรุกวัย คอสตาริก้า อังกฤษและอิตาลี ถือว่าเป็น Group of Death ประจำทัวร์นาเมนต์เลย ก่อนอื่นตัดคอสตาริก้าไปก่อนเพราะสู้ไม่ได้แน่ ดูแล้วใช้ความรู้สึกส่วนตัวยังเชื่อว่าอังกฤษของปู่รอย ฮ็อดจ์สันกับอิตาลีของเซซาเร่ ปรันเดลี่ดีเกินไปที่จะตกรอบแรก ขณะที่อุรุกวัยถึงแม้จะมีหลุยส์ ซัวเรซ, เอดิสัน คาวานี่, ดิเอโก้ ฟอร์ลันหรือหลังอย่างดิเอโก้ โกดิน แต่ลูกเขี้ยวทีเด็ดทีขาดมีแต่มีน้อยกว่าสองทีมจากทวีปยุโรป

กลุ่ม E

ประกอบไปด้วยสวิตเซอร์แลนด์ เอกวาดอร์ ฝรั่งเศส ฮอนดูรัส กลุ่มนี้ขอเลือกสวิตเซอร์แลนด์ของออสมาร์ ฮิตเฟล์กับฝรั่งเศสของดิดิเย่ร์ เดลชองก์ที่แข็งแกร่ง สวิสยุคนี้เป็นบอลระบบนักเตะใช้ชุดเดิมจากฟุตบอลโลกคราวที่แล้วและเป็นทีมเดียวที่ชนะแชมป์โลกสเปนได้ด้วย ขณะที่ฝรั่งเศส ความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นสูงมาก อาจจะยังดูไม่ลงตัวแต่อีกสองทีมอย่างเอกวาดอร์หรือฮอนดูรัส ที่เด็ดขาดสู้สองทีมจากยุโรปไม่ได้แน่นอน

กลุ่ม F 

ประกอบไปด้วย อาร์เจนติน่า บอสเนียแอนด์เฮเซโกวิน่า อิหร่านและไนจีเรีย ดูแล้วอาร์เจนติน่าที่ประกอบไปด้วยนักเตะซูเปอร์สตาร์เต็มทีมไม่ว่าจะเป็นลีโอเนล เมสซี่, เซร์คิโอ อเกวโร่, อังเคล ดิ มาเรีย, กอนซาโล่ อิกวาอิน,เอเซเก ลาเวซซี่หรือฮาเวียร์ มาสเคราโน่ยังไงต้องเข้ารอบแม้ว่าอเลฮารโดร ซาเบลล่า โค้ชของทีมอาจจะไม่ใช่โค้ชชื่อชั้นระดับ A ก็ตาม อีกทีมขอเลือกบอสเนียฯ ที่ผ่านรอบคัดเลือกมาด้วยอันดับหนึ่งของกลุ่ม ภายในทีมนักเตะอายุไม่มาก หลายคนเล่นในทีมใหญ่ของยุโรปอย่างเอดิน เซโก้ มิราเล็ม ปรานยิช, เซนาด ลูซิซหรือเอเมียร์ สปาฮิช ส่วนอิหร่านกับไนจีเรียช่วงนี้ไม่โดดเด่นอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายนักเตะเลือดเก่าไปเลือดใหม่ มาเอาประสบการณ์มากกว่า

กลุ่ม G

ประกอบไปด้วยเยอรมนี โปรตุเกส กาน่าและสหรัฐอเมริกา เชื่อว่าอินทรีเหล็กของโยอาคิม เลิฟ องค์ประกอบดีกว่าทุกทีมในกลุ่มยังไงก็ต้องเข้ารอบแน่นอน ส่วนโปรตุเกสที่มีคริสเตียนโน่ โรนัลโด้คนแบกทีมน่าจะต้องลุ้นกับสหรัฐอเมริกาของเจอร์เก้น คลินท์มันน์ซึ่งยังเชื่อในความเขี้ยวของทีมฝอยทองมากกว่า แถมสหรัฐฯ ตัวหลักหลายคนอายุมากแล้วทั้งแลนดอน โดโนแวนหรือคลินท์ เดมพ์ซีย์

กลุ่ม H

ประกอบไปด้วยเบลเยี่ยม แอลจีเรีย รัสเซียและเกาหลีใต้ กลุ่มนี้โชคดีที่ไม่มีทีมใหญ่แต่ทีมที่จะผ่านเข้ารอบยังมองม้ามืดประจำรายการอย่างเบลเยี่ยมที่นักเตะเลือดใหม่หลายคนเก่งไม่ว่าจะเป็นเอด็อง อาซาร์, โรเออู ลูคาคู, คริสเตียน เบนเทเก้, ดราย์ เมอร์เท่นส์, รัดย่า นิงโกรัน, นาเซอร์ ชาร์ดี้ ขณะที่เกาหลีใต้กับรัสเซียต้องแย่งกัน โดยทีมพลังโสมอายุเฉลี่ยนักเตะไม่มาก หลายคนเล่นในยุโรปทั้งจี ดอง-วอน, ซอง เฮือง-มิน, คิม โบ-คุงหรือปาร์ก จู-โฮ ส่วนรัสเซียต้องพึ่งตัวประสบการณ์สูงอย่างยูริ เซียคอฟ, โรมัน ชิโรคอฟ หรือ อเล็กซาน เคอร์ชาคอฟ เพราะตัวรุ่นใหม่ยังไม่โดดเด่นจึงปันใจให้เกาหลีใต้มากกว่า ทางแอลจีเรียดูแล้วลุ้นยากนักเตะไม่โดดเด่นประสบการณ์น้อยมากมาแจกแต้มเอาประสบการณ์ซะมากกว่า

มาถึงตัวเต็งที่จะเป็นแชมป์โลกเพียงทีมเดียว ยังขอยกให้เยอรมนี ที่ดูมีศักยภาพสูงที่สุดเพราะสเปนผ่านจุดพีคมาแล้ว บราซิลมีปัญหาที่ระบบทีมยังไม่ลงตัวพอคล้ายๆ กับอาร์เจนติน่า สำหรับพวกที่พอสอดแทรกขึ้นมาลุ้นก็มีพวกอิตาลี โปรตุเกสที่ทำได้ดีในรอบลึกๆ หรือฝรั่งเศสรวมทั้งอังกฤษที่มาเล่นแบบไม่ใช่ทีมเต็งไม่มีความกดดันมาก

สุดท้ายนี้ต้องบอกแฟนๆ ที่ตั้งใจจะติดตามต้องระวังเรื่องของสุขภาพกันด้วยเพราะแข่งขันดึกมากจนถึงเช้าเนื่องจากจัดขึ้นในทวีปอเมริกาใต้ที่เวลาช้ากว่าประเทศไทยสิบสองชั่วโมง เรียกว่าถ้าให้มานั่งดูและต้องทำงานด้วยอาจจะเป็นปัญหาได้จึงแนะนำให้เลือกดูคู่ทีมใหญ่ดีกว่า ขอให้สนุกกับมหกรรมกีฬามวลมนุษยชาติที่ 4 ปีมีแค่ครั้งเดียวนะครับ 

 

เรื่องของฟุตบอลโลก บราซิล 2014