ฟุตบอลโลก 2014 กับเทคโนโลยี Goal Line โดยใช้กล้อง High Speed
โอ ล๊า บราซิล !! การจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ครั้งนี้แฟนบอลชาวไทยต้องชมกันดึกสักนิด เริ่มตั้งแต่ห้าทุ่มเป็นต้นไป ยาวไปจนถึงแปดโมงเช้า โดยคู่เปิดสนามสำหรับวันที่ 12 มิถุนายนนี้คือเจ้าภาพบราซิลพบกับโครเอเชียเราจะได้ยินเสียงของคาซีโรล่าอุปกรณ์ในการเชียร์อย่างเป็นทางการที่จะมาสร้างสีสันให้กับฟุตบอลโลกครั้งนี้ เจ้าคาซีโรล่าการันตีมาแล้วว่าเสียงจะไม่ดังหนวกหูเหมือน วูวูเซลล่าแน่นอน
ลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขันนั้นก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของฟุตบอลโลก และสำหรับลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขัน มีชื่อว่า Brazuca เป็นลูกฟุตบอลโลกลูกแรกในประวัติศาสตร์ที่เปิดโอกาสให้แฟนบอลมีส่วนร่วมในการโหวตเลือกชื่อลูกฟุตบอลอย่างเป็นทางการ ซึ่งคำว่า Brazuca ในความหมายของบราซิล หมายถึงวิถีชีวิตที่น่าภูมิใจของชาวบราซิล และเป็นสิ่งที่จะทำให้โชคดี ลูกฟุตบอล Brazuca ได้มีการวิจัยและพัฒนาเป็นเวลานานกว่า 3 ปีและถือได้ว่าเป็นลูกฟุตบอลที่ได้รับการเทสต์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ได้ผ่านฝีเท้าของ เมสซี่, ซีดาน, คาซิยาส, โรนัลโด้ และนักฟุตบอลอาชีพกว่า 600 คนที่เล่น 30 สโมสรชั้นนำ ใช้แผ่นหนังเทียมโพรียูริเทน 6 แผ่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ และเพิ่มแอโรไดนามิคที่ดีให้กับลูกบอล ถือได้ว่ามีน้ำหนักที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้พื้นผิวค่อนข้างคล้ายกับ UEFA Champions League ball และที่สำคัญลูกฟุตบอลลูกนี้ติดชิพไว้ข้างใน!!
ทำไมต้องติดชิพ?
คำตอบก็คือ ในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ จะมีการนำเทคโนโลยี Goal Line มาใช้หลังจากที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันมานานเกี่ยวกับจังหวะที่ลูกข้ามเส้นหรือไม่ข้ามเส้น ซึ่งกติกาในวงการฟุตบอลแล้วลูกบอลจะต้องข้ามผ่านเส้นประตูทั้งลูก จึงถือว่าเป็นประตู ซึ่งมีการตัดสินผิดพลาดบ่อยครั้ง ฟุตบอลโลกที่บราซิลครั้งนี้จึงได้นำเทคโนโลยี Goal Line มาช่วย โดยใช้กล้อง High Speed จับภาพไปที่เส้นประตู จำนวน 14 ตัว เมื่อลูกฟุตบอลลอยข้ามเส้นไม่ว่าจะเร็วสักแค่ไหน กล้องก็จะสามารถจับภาพได้ พร้อมทำงานร่วมโปรแกรมเพื่อวิเคราะห์ว่าลูกฟุตบอลเข้าประตูไปหรือยัง? หากโปรแกรมวิเคราะห์ได้ว่าลูกฟุตบอลเข้าประตูไปแล้ว ระบบก็จะส่งการแจ้งเตือนไปที่ Smart Watch ที่กรรมการใส่ติดตัวผู้ตัดสินทันที
นอกจากนี้ Gadget ที่เป็น Wearable Device เทคโนโลยีที่สวมใส่ได้ กำลังมาแรงในวงการกีฬา เราจะได้เห็นนักฟุตบอลใส่พวก Smart Band สายรัดข้อมืออัจฉริยะ เพราะนอกจากจะสามารถตรวจจับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ จำนวนก้าวที่วิ่งในสนาม รวมทั้งการวิเคราะห์ระบบการเผาพลาญของร่างกาย สามารถเก็บข้อมูลขณะที่นักกีฬาหลับแล้ววิเคราะห์ว่าหลับลึกกี่นาที หลับตื้นกี่นาที ยังสามารถคำนวณเป็นสถิติโดยแสดงผลผ่าน App เรียกได้ว่า เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้กุนซือ หรือ เทรนเนอร์ วิเคราะห์ตัวนักฟุตบอลได้ง่าย รู้เลยว่าใครฟิตไม่ฟิต
ปัจจุบันเทคโนโลยีช่วยให้มีบทบาทมากขึ้นทำให้กุนซือทีมชาติทำงานได้ง่ายขึ้นโดยการนำข้อมูลที่ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยในการวางแผนเกมฟุตบอล แต่ที่ไฮเทคสุดๆ ไปเลย ต้องยกให้กับกุนซือทีมชาติเนเธอร์แลนด์ หลุยส์ ฟาน กัล เตรียมใช้ Google Glass ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ซึ่งมันคือแว่นตาไฮเทคที่ถูกยกย่องว่าสามารถช่วยวิเคราะห์การฝึกซ้อมของนักเตะในแบบภาพเสมือนจริง ทำให้ผู้จัดการทีมสามารถเข้าใจการเคลื่อนไหว และลักษณะส่วนบุคคลของนักเตะในทีมได้มากกว่าเดิม ...
สำหรับตัวเต็งสำหรับฟุตบอลโลกครั้งนี้ คงหนีไม่พ้น บราซิลเจ้าภาพ และสเปนแชมป์เก่า เยอรมนี ฮอลแลนด์ อาร์เจนตินา อิตาลี แต่มีกูรูบอกว่าให้จับตา เบลเยี่ยม และโคลอมเบียให้ดีๆ แถมตอนนี้ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น เขาเตรียมถ่ายทอดระบบการออกอากาศแบบ 4K เรียกว่าคมชัดเป๊ะเวอร์ ส่วนแฟนบอลชาวไทย ติดตามชมแบบ HD กันไปก่อน ... ปีนี้พวกเราคงจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ในวงการฟุตบอลจากการใช้เทคโนโลยีมากขึ้นแน่นอน