ที่มาของ ED
ทุกผู้คนล้วนแล้วแต่หาสิ่งแห่งความสุขเข้าหาตัวกันทั้งสิ้น เรื่องบนเตียงก็เช่นเดียวกัน มนุษย์ทุกหมู่เหล่าต่างถวิลหาความสุขในเรื่องนี้ แต่แล้วด้วยสาเหตุหย่อนคล้อยต่างๆ ของสมรรถภาพที่เป็นอยู่ ก็อาจทำให้สุขที่จะสม กลายเป็นลมแห่งความว่างเปล่า และนี่คือสาเหตุของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction หรือเรียกย่อๆ ว่า ED)
โรคประจำตัว
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจถึงการแข็งตัวของอวัยวะเพศกันสักหน่อย โดยอวัยวะเพศของชายนั้นจะมีลักษณะคล้ายๆ กับฟองน้ำ เรียงตัวกันเป็นแท่ง เมื่อมีเลือดไหลผ่านเข้าไปก็จะขยายตัวได้เต็มที่ และการขยายตัวดังกล่าวจะไปกดเส้นเลือดดำทำให้เลือดไหลออกจากอวัยวะเพศชายได้น้อย ทำให้เกิดอาการแข็งตัว นั่นคืออาการปกติ
แต่ถ้าหากใครที่มีโรคประจำตัวอยู่ เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมันเลือดสูง หรือโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือด การทำงานของเลือดที่จะเข้าไปเลี้ยงส่งที่อวัยวะเพศอาจจะมีปัญหา ทั้งติดขัด อุดตัน ทำให้การขยายตัวเป็นไปได้อย่างลำบาก และไม่เต็มที่ ในที่สุดก็ค่อยๆ เกิดการเป็นโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศตามมานั่นเอง
วิธีแก้ไขปัญหานี้ ไม่ยาก แต่ต้องใช้เวลาและความตั้งใจ ก่อนอื่นต้องรักษาหรือควบคุมโรคเรื้อรังที่เป็นอยู่ให้ได้เสียก่อน จากนั้นค่อยๆ เสริมด้วยวิธีอื่นๆ ตามเข้าไป เช่น การออกกำลังกาย รวมไปถึงการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
ความเครียด
สิ่งๆ นี้เป็นตัวนำมาซึ่งทุกปัญหา หลายคนอาจเถียงว่า เพราะมีปัญหาต่างหากก็เลยเครียด เช่น วันนี้ทำงานไม่ได้ตามเป้าหมาย ลูกค้าไม่ได้ดั่งใจ ลูกน้องทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพ เพื่อนร่วมงานไม่แยแสซึ่งกันและกัน ฯลฯ ซึ่งปัญหาต่างๆ เหล่านี้นำมาซึ่งความเครียด
จะอย่างไรก็ตามแต่ ไม่ว่าจะเพราะสาเหตุใดให้เกิดความเครียด แต่ความเครียดนำพาไปสู่สิ่งอื่นๆ ได้อีกมาก เช่น โรคเครียด ปวดท้อง ปวดหัว ไม่มีความสุข รวมไปถึงเรื่องบนเตียงที่สุขอาจกลายเป็นทุกข์ก็เป็นได้
การขจัดความเครียดนั้น วิธีที่ง่ายที่สุดที่พอจะนึกออกก็คือ ใช้หลักธรรมของพระพุทธเจ้า เข้าใจในอริยสัจ 4 คือ ทุกข์ - ความมีอยู่ของทุกข์ สมุทัย - สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ นิโรธ - ความดับทุกข์ และมรรค - แนวทางปฏิบัติที่ทำไปสู่การดับทุกข์ ซึ่งหากเข้าใจถึงทุกข์และที่มา ก็สามารถจะดับทุกข์และหาแนวทางปฏิบัติไปสู่การดับทุกข์นั้นๆ ได้ และเมื่อไม่มีทุกข์ ก็จะรู้สึกสุข และความเครียดที่มีก็จะค่อยๆ จางหายไประหว่างทางนั่นเอง
เมื่อไม่เครียดร่างกายก็จะรู้สึกผ่อนคลาย และในช่วงที่ร่างกายผ่อนคลาย ประสาทสัมผัสก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้อย่างเต็มที่ ทำให้ปัญหาเรื่องบนเตียงหมดไป
สิ่งเสพติด
อย่าเข้าใจผิดคิดว่าผมจะเขียนถึงสารเสพติดประเภทรุนแรงถึงแก่ชีวิต และผิดกฎหมาย แต่สารเสพติดที่กำลังจะเล่าถึงคือ บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงชา และกาแฟอีกด้วย
การเสพสิ่งเสพติดเหล่านี้ แม้จะไม่มีโทษทางกฎหมาย ทว่าร่างกายได้รับต่อเนื่องยาวนานก็ส่งผลได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องสมรรถภาพทางเพศ
อย่างบุหรี่ เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือด อาการแข็งตัวไม่เต็มที่ก็จะตามมาภายหลังนั่นเอง
อายุ
แม้อายุจะเป็นเพียงตัวเลขอย่างที่ใครหลายๆ คนอยากให้เป็น แต่เมื่อตัวเลขอายุพุ่งสูงมากขึ้น ก็มีโอกาสที่จะทำให้ร่างกายหย่อนคล้อยได้มากขึ้น และหนึ่งในอาการที่พบได้มากก็คือหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยตัวเลขจะพุ่งขึ้นตามอายุ เช่น อายุสัก 40 ปี ก็มีโอกาสเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ 40% ถ้า 50 ปี ก็ 50%
เหตุผลที่อายุเริ่มมาก สมรรถภาพเริ่มน้อย เป็นเพราะร่างกายจะมีการผลิตฮอร์โมนหลายๆ ชนิดลดลง โดยเฉพาะฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน และเมื่อฮอร์โมนชนิดนี้ลดลงก็เป็นผลทำให้ ความต้องการทางเพศลดลง ภาวะแข็งตัวได้ไม่สมบูรณ์ของอวัยวะเพศชายเกิดขึ้น รวมไปถึงอสุจิลดน้อยลงอีกด้วย
แม้ว่าเราจะไม่สามารถทำให้อายุเราหยุดนิ่งกับที่ไว้ได้ แต่เราสามารถชะลอให้เกิดสิ่งเหล่านี้ช้าลงได้ อาจจะด้วยการเสริมฮอร์โมน (ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้) การออกกำลังกาย การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์และเหมาะกับร่างกายของเรา ถ้าทำตามได้ทั้งหมด วิธีเหล่านี้ก็จะช่วยทำให้ อายุกลายเป็นเพียงตัวเลขไปจริงๆ
ยารักษาโรค
มีความเป็นไปได้สำหรับการใช้ยารักษาโรคบางประเภทที่จะมีผลข้างเคียงทำให้การแข็งตัวของเลือดลดลง และส่งผลให้สมรรถภาพทางเพศมีปัญหาตามไปด้วย
ยาประเภทเกี่ยวกับโรคหัวใจ ระบบสมอง และระบบประสาท โดยเฉพาะยาลดความดันโลหิตในกลุ่มยาขับปัสสาวะ
หากใครที่กินยาประเภทเหล่านี้อยู่ และมีปัญหาทางด้านสมรรถภาพทางเพศ สิ่งที่ควรทำที่สุดก็คือ ปรึกษาแพทย์ เพื่อหาทางแก้ปัญหาต่อๆ ไป
ขอสมรรถภาพที่ดีจงอยู่กับคุณ!
ED Statistic
ผู้ชายกว่า 30 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ผู้ชายทั่วโลกมากกว่า 100 ล้านคน มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ในประเทศไทย ชายไทยประมาณ 37.5% มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และตัวเลขมีแนวโน้มสูงขึ้น
อายุที่พบว่ามีปัญหาทางด้านสมรรถภาพทางเพศมากที่สุดคือช่วง 40 - 70 ปี
อายุ 40 - 49 ปี พบ 20.4%
อายุ 50 - 59 ปี พบ 46.3%
อายุ 60 - 70 ปี พบ 73.4%