“ดั่งในใจความบอกในกวี ว่าตราบใดที่มีรักย่อมมีหวัง คือทุกครั้งที่รักของเธอส่องใจ ฉันมีปลายทาง”เสียงสาวน้อยเอื้อนเอ่ย บ่งบอกกับเราถึงเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ ย่อมต้องมี “กันและกัน” เป็นสิ่งประกอบ และความหมายของกันและกันของเธอคนนี้

“กันและกัน มันเกิดขึ้นได้กับทุกๆ คนบนโลก เหมือนพี่มะเดี่ยวกำลังจะบอกว่า รักแห่งสยามก็คือรักหลายๆ รูปแบบ เหมือนเป็นศูนย์รวมของความรัก ถ้าคนหนึ่งให้อีกคนหนึ่ง อีกคนก็จะเห็นปลายทาง พูดง่ายๆ ก็คือ กันและกัน นั่นล่ะชัดเจนที่สุด”

เธอโด่งดังและได้รับเสียงตอบรับจากมหาชนจากภาพยนตร์เรื่อง “รักแห่งสยาม” ในบทของ “หญิง” ในบทเธอต้องแอบรักผู้ชาย 

“ตอนที่ได้บทมาเนี่ย จริงๆ มันเหมือนกับฟลุ้คที่ได้เล่นบทนี้ เพราะตอนแรกคนที่จะเล่นเป็นหญิงมันมีเยอะมาก เขาเปลี่ยนมาหลายคนแล้ว คือตอนนั้นกำลังโปรโมทสวยลากไส้อยู่ แล้วก็บังเอิญเข้าไปเล่นที่ห้องสตูฯ ของบาแรมยู ก็เจอกับพี่มะเดี่ยว ตอนนั้นยังไม่รู้จักพี่เขานะ ตาลก็หยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่าน มันเกี่ยวกับพวกชอบแอบรัก พี่มะเดี่ยวเขาก็เห็น เขาก็เรียกให้ขึ้นไปแคสติ้ง พอลงมาเขาก็เซ็นสัญญาเลย”

วันนี้เธอมาเป็นแบบให้เราในคอนเส็ปต์แบบกีฬาๆ ดูสปอร์ตๆ กระฉับกระเฉงเข้ากับบรรยากาศบอลยูโร พอพูดถึงกีฬาฟุตบอล เธอบอกว่าเธอนึกถึงผู้ชายคนนี้ทันที

“คุณพ่อค่ะ เพราะว่าเด็กๆ ตาลต้องมาคอยนั่งเฝ้าคุณพ่อเตะบอล ภาพแรกที่นึกถึงฟุตบอลเนี่ย ก็คืออะไรที่เป็นลูกกลมๆ แล้วความรู้สึกต่อมาก็คือ ภาพที่เราต้องมานั่งรอข้างสนาม เพราะคุณพ่อชอบฟุตบอลมากๆ

“ตาลว่าผู้ชายกับฟุตบอลมันเป็นเรื่องธรรมดาๆ นะ ถ้าอนาคต ตาลจะมีแฟนเล่นฟุตบอล ติดฟุตบอล ตาลจะไม่ซีเรียสเลย เพราะว่าเขาเล่นฟุตบอลไป ตาลก็หยิบหนังสือไปอ่านข้างสนามได้ คือเราไม่จำเป็นจะต้องทำอะไรอย่างเดียวกันตลอดเวลา เขาทำอย่างนั้น เราก็ทำอย่างนี้ได้ อีกอย่างตาลชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว เพราะว่ามันทำให้ตาลได้เปิดมุมมองใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา อย่างเล่มหนึ่ง เขาบอกว่า การทำความดีไม่ต้องรอโปรโมชั่น ถ้าคิดว่าพรุ่งนี้จะทำความดี ทำไมไม่ทำเสียตั้งแต่วันนี้ล่ะ คือมันอ่านแล้วมันได้คิดต่อ และได้มุมมองที่หลากหลายโดยที่ไม่ต้องใช้ตัวเราเข้าแลกด้วย ใช้จากประสบการณ์ของคนอื่นแทน” 

ล่าสุดผลงานของเธอคือละครโทรทัศน์เรื่อง “รักริทึ่ม” ที่กำลังออกอากาศอยู่ทางช่อง 5 ทุกวันศุกร์ เวลา 22:00 น. คู่กับ ติ๊ก-เจษฏาภรณ์ ผลดี 

“พี่เชื่อไหม ตอนที่ไปฟิตติ้ง (ฟิตติ้ง คือ การลองเทสต์หน้ากล้องของนักแสงที่ได้บทนั้นๆ แล้ว) ตาลไปนั่งจิ้มเขาอ่ะ ใช่พี่ติ๊กจริงๆ ด้วย คือแบบตัวเป็นๆ เกิดมาชาตินี้ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเล่นละครคู่กับพี่ติ๊ก คือเมื่อก่อนตาลชอบเขามาก ตอนนั้นยังไม่ได้เข้าวงการ เขาเล่นเรื่องนางสาวจริงใจกับนายแสนดี คือเรียกว่าเป็นพระเอกที่เราชื่นชมก็ว่าได้”

แต่ถึงเธอจะได้เล่นละครคู่กับพระเอกสุดหล่อ เธอก็ยังบอกเราว่าเธอชอบที่จะเล่นหนังมากกว่าอยู่ดี

“ตาลรู้สึกว่าหนังจะเป็นอะไรที่ละเอียดมากๆ ส่วนละครไม่จำเป็นต้องเชื่อมากก็ได้ แค่แสดงออกมา ถ้ามีเทคนิคสักหน่อยก็ใช้ได้แล้ว ตาลชอบหนังมากกว่า แต่จริงๆ แล้วตาลเป็นคนที่ชอบลองอะไรใหม่ๆ คือไม่ใช่ว่าเราเล่นหนังแล้ว เราจะไม่ทำอย่างอื่นอีกเลย มันไม่ใช่ งานในวงการตาลทำมาหลายอย่างแล้ว เหลือ
ร้องเพลงที่ยังไม่ได้ทำ พิธีกรก็เคยเป็น ดีเจก็เคยทำ ตอนนั้นเคยจัดอยู่ที่คลื่นเรดิโออินไทย แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว”

เมื่อเป็นนักแสดงมีชื่อเสียง ก็มักจะมีข่าวคาวตามมาเป็นระยะๆ เธอเองก็เช่นกัน เพราะเธอก็มีข่าวกับหนุ่มว่าน เอเอฟ เหมือนกันว่ากุ๊กกิ๊กกันอยู่ 

“คืออยากจะบอกเลยว่าจริงๆ ไม่มีอะไรค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าเล่นเอ็มวีมาด้วยกันสองตัว แล้วก็ที่รู้จักบ้านว่านก็เพราะรายการตีท้ายครัวเขาให้หนูไป ก็อยากจะบอกจริงๆ ว่าไม่มีอะไร ยิ่งข่าวกับตองที่ออกมาว่าแย่งกันยิ่งเข้าไปใหญ่ คือพูดซ้ำอีกครั้งแล้วกันค่ะ ว่าไม่มีอะไรจริงๆ ไปกินข้าวดูหนังด้วยกันก็ไม่เคยไป”

ในฐานะที่เธอก็ถือว่าเป็นวัยรุ่นคนหนึ่ง และข่าวในปัจจุบันก็นำเสนอมุมมองเกี่ยวกับวัยรุ่นว่าหลงผิดบ้าง ทำตัวไม่ได้เรื่องบ้าง แต่มุมมองของเธอกลับไม่ได้มองตรงจุดนั้น

“คือเราจะไปมองว่าเขาไม่ได้เรื่อง มันไม่ใช่ค่ะ หนูมีความรู้สึกว่า วัยรุ่นสมัยนี้มีความคิดแปลกใหม่เยอะมาก พี่เชื่อไหม หนูมีรุ่นพี่คนหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้เอง เขาพูดกับตาลว่า รู้ไหมว่าจริงๆ แล้ว มันไม่ผิดนะ ที่เกิดมาแล้วผู้ชายจะชอบผู้ชายด้วยกัน เพราะทุกคนมีจิตใจหมด แต่ถูกปลูกฝังว่าผู้ชายกับผู้หญิงคู่กันเท่านั้นเอง ทุกคนสามารถที่จะรักกันได้ ไม่สามารถมีอะไรมาแบ่งแยกได้ นี่คือความคิดของคนที่อายุรุ่นๆ เดียวกับหนู มันอาจจะติสต์นะ แต่หนูคิดว่ามันเป็นเรื่องที่จริงเท่านั้นเอง”

ทั้งหมดนี้คือมุมมองเล็กๆ ผ่านผู้หญิงคนนี้ที่รักแห่งสยามเสมือนเป็นเพียงบทเริ่มต้นของเธอเท่านั้น ในไม่ช้าเราคงจะได้เห็นบทบาทการแสดงของเธออีกครั้ง แต่จะมาในบทบาทใดนั้น คงต้องติดตามและเป็นกำลังใจให้เธอต่อไป