Thor The Dark World

Thor The Dark World

และแล้วก็ถึงช่วงเวลาส่งท้ายปลายปีที่จะมีหนังดีๆ มาให้เราได้ดูกันมากมายหลายเรื่อง แต่สไตล์อาจจะดูใกล้ๆ กัน ถึงอย่างนั้นผมก็ยังชอบช่วงเวลานี้ของปีครับ เพราะหนังไทยจะมีโอกาสทำเงินในบ้านเราได้เยอะ และรวมถึงหนังต่างประเทศก็จะมีหนังภาคต่อฟอร์มยักษ์ให้เราได้ดูแทบทุกสัปดาห์ เริ่มต้นจาก ภาคต่อของ Thor  ในชื่อตอนว่า The Dark World ต่อด้วย Hunger Game Catching Fire ซึ่งเป็นหนังภาคต่อเช่นกัน และไล่เรียงไปจนถึง The Hobbit 2 : The Desolation of Smaug แต่ละเรื่องแต่ละองค์ผมว่าคงโกยเงินจากบ้านเราไปได้พอสมควรครับ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องดีครับ เพราะผมว่าช่วงนี้คนไทยต้องการเสพความสุขและสนุกกับความบันเทิงมากสักหน่อย ... ว่าแล้วก็ชวนคุณผู้อ่านดูพ่อหนุ่มผมยาวกล้ามโต คริส เฮมส์เวิร์ธ ซะเลยแล้วกัน กับบทบาทที่ต้องบอกว่าส่งให้เขาดังชั่วข้ามคืน ในบทของเทพพระเจ้าสายฟ้า ธอร์ บุตรแห่งโอดิน หนึ่งในทีมอเวนเจอร์ ซึ่งเจอกันคราวก่อนน้องชายหัวแก้วหัวแหวนของธอร์ นั่นก็คือ โลกิ ทำเอา New York เกือบพังไปทั้งเมือง 

ต้องท้าวความกันเล็กน้อยครับ ใน ดิ อเวนเจอร์ที่ผมบอกไปแล้วว่าโลกิทำเอา New York เสียหายไปหลายแสน ซึ่งที่สุดโลกิ ก็ถูกจับและนำตัวกลับสู่แอสการ์ด เพื่อรับโทษทัณฑ์ที่ทำเอาไว้กับชาวโลก เรื่องราวมาต่อตรงนี้ล่ะครับ เริ่มเรื่องหนังพาเราไปทำความรู้จัก Dark Elf และนักรบอสูรซึ่งเป็นยุคก่อนที่จักรวาลจะมีแสงสว่าง มาลาคิท แม่ทัพเอกได้ต่อกรกับเหล่านักรบแห่งแอสการ์ด มาลาคิทพ่ายแพ้พร้อมกับศูนย์เสีย อีเธอร์ อาวุธสำคัญที่มีพลังอนุภาคมหาศาลไป ราชาแห่งแอสการ์ด บิดาของ โอดิน (พ่อของธอร์) จองจำ อีเธอร์ ไว้ในสถานที่ลึกที่สุดในอวกาศ เพื่อไม่ให้ มาลาคิท และกองทัพทมิฬกลับมามีอำนาจได้อีก  หลังจากนั้นภาพก็ตัดมาที่ดาวแอสการ์ด ธอร์ ยังคงต่อสู้ในทุกสนามรบเพื่อให้ทั้ง 9 จักรวาลมีสันติ

ตัดมาที่โลก Jane Foster (นาตาลี พอร์ตแมน) ไปพบกับปรากฏการณ์ประหลาดที่ทำให้ประตูมิติเกิดความแปรปรวน จนเจนพลัดหลงไปในที่ที่เธอไม่ควรไป และที่นั่นเจน ได้นำพา อีเธอร์ ออกมาจากการจองจำ จึงทำให้ ธอร์ ฝืนคำสั่งราชาแห่งแอสการ์ด รับตัว เจน มายังแอสการ์ด และเมื่อ อีเธอร์ กลับมาสู่จักรวาลอีกครั้ง มาลาคิทจึงออกตามล่าอาวุธของเขาคืนกลับมา เพื่อนำพาความมืดมิดมาสู่จักรวาล ...

ผมเองออกจะชื่นชมกับหนังจากค่ายมาเวลเป็นพิเศษ เพราะค่ายนี้เขาวางแผนผูกเรื่องราวจากซุปเปอร์ฮีโร่หนึ่งโยงใยไปอีกเรื่องนึงแล้วยังสามารถนำทั้งหมดมารวมตัวกันได้อย่างลงตัว และสำหรับ Thor 2 นี้ก็เช่นกันครับ ผมว่าด้านการเขียนบทวางเรื่องราวทำได้สนุกดี ดูง่าย ดูแล้วเข้าใจได้ทันที ในส่วนของ CG ประกอบต่างๆ ก็เนียนครับ ภาพสวย อดไม่ได้ที่จะพูดถึงฉากประตูทางเข้าแอสการ์ดที่ทำจักรวาลได้น่าประทับใจจริงๆ ส่วนซีนที่ห้ามพลาด คือ ตอนที่ ธอร์ ลงไปในคุกใต้ดินที่จองจำโลกิน้องชาย เพื่อขอความช่วยเหลือและร่วมกันทำภารกิจด้วยกัน โลกิ ทำเอาผมคิดไปจริงจังว่าตัวร้ายก็มีหัวใจ (ซึ่งผมก็ยังคิดว่าเขามีอยู่นะ) ปิดท้ายที่ฉากต่อสู้ ต้องบอกว่าในปี 2013 Thor The Dark World เป็นรองแค่ Man of Steel เรื่องเดียวเท่านั้น ที่เหลือชนะหมด ใครที่ดูเรื่องนี้จบแล้วรีบลุกจากที่นั่ง ผมต้องขอบอกคุณเลยว่าคุณพลาดแล้ว ... เพราะหลังจบ End Credit มีเนื้อเรื่องให้ดูต่อถึง 2 ท่อน ... ดังนั้นถ้าใครกำลังจะไปดู  แนะนำเลยครับ รอดูให้จบของตอนจบแล้วคุณจะเต็มอิ่มกับภาพยนตร์เรื่องนี้มากยิ่งขึ้นครับ 

 

Film Info
ผู้กำกับ : Alan Taylor
ประเภท : Action | Adventure | Fantasy
สัญชาติ : USA
ความยาว : 112 นาที

Film Info

ผู้กำกับ : Alan Taylor

ประเภท : Action | Adventure | Fantasy

สัญชาติ : USAความยาว : 112 นาที

โลกิ ทำเอาผมคิดไปจริงจังว่า ตัวร้ายก็มีหัวใจ