ถึงแม้เราจะไม่สามารถหนีพ้นความแก่ชราได้ แต่เราก็สามารถชะลอวัยลงได้โดยที่ไม่ต้องสนใจเรื่องของอายุว่าจะผ่านไปเท่าไหร่แล้ว เหมือนอย่างที่ตอนนี้การทำ Anti Aging หรือการชะลอวัยของมนุษย์นั้นกำลังแพร่หลายในประเทศไทย

หลังจากที่แพทย์หญิง อนงนุช ชวลิตธำรง ได้ออกพ็อกเก็ตบุ๊กเกี่ยวกับสุขภาพเรื่อง “Anti Aging เปลี่ยนอายุให้เป็นเพียงตัวเลข” ก็เป็นที่สนใจของคนรักสุขภาพไม่น้อย ด้วยเหตุนี้เองทำให้เราต้องออกเดินทางเพื่อมาคุยกับคุณหมอท่านนี้ ณ คลีนิค AD Light ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารคิวเฮาส์ บนถนนสาธรซอย 1

ครั้งแรกที่เราได้พบคุณหมอ เดาไม่ออกเลยว่าเธออายุเท่าไหร่ เธอมีบุคลิกท่าทางการทำงานที่แคล่วคล่องว่องไว พูดจาชัดเจนนุ่มนวล เธอเริ่มเล่าว่าเธอสนใจในการทำ Anti Aging มาตั้งแต่เมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว ซึ่งยังไม่มีใครรู้จักเลย ทำให้ต้องเหนื่อยมากในการประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนรับรู้ โดยคุณหมอเองยังเป็นคนแรกที่บุกเบิกการแพทย์ด้านเวชศาสตร์คนแรกของประเทศไทยอีกด้วย

“จริงๆ แล้ว Anti Aging มันกว้างมาก Aging คือการแก่ชรา Anti คือการต่อต้าน มีหลายๆ อย่างที่เรียกว่าเป็นการทำ Anti Aging ได้หมด รวมถึงการออกกำลังกาย การดูแลผิวพรรณการทำให้ไม่มีรอยเหี่ยวย่น ซึ่งก็จะมีหลายๆ แบบ

“แต่ที่หมอทำอยู่ เราเน้นถึงการป้องกันและรักษาสภาพเสื่อมของร่างกาย บำรุงสุขภาพให้ดีที่สุด เป็นลักษณะของการดูสมดุลของร่างกาย ซึ่งเราจะดูในระดับของชีวเคมี สารอาหาร สารอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระ ดูเรื่องของฮอร์โมน ดูเรื่องการทำงานของร่างกายภายใน เพื่อให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น มันจะลึกกว่าการตรวจในโรงพยาบาลทั่วไป อย่างผิวหน้าที่อื่นอาจจะมีการยิงเลเซอร์ แต่ทางเราจะให้สารที่ไปทำงานภายใน ที่จะทำให้ผิวลดรอยย่น หรือทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นจากภายใน

“คนที่เข้ามาที่คลีนิค AD Light จะมีคนไทย 50 เปอร์เซ็นต์ ต่างชาติก็ 50 เปอร์เซ็นต์  แต่ความรู้เรื่อง Anti Aging ชาวต่างชาติจะมีความรู้เรื่องนี้เยอะ เพราะ Anti Aging ที่ต่างประเทศจะค่อนข้างแพร่หลายมากกว่า ที่นั่นจะมีลักษณะที่คล้ายกับที่เมืองไทยแต่เรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาจะแพงกว่า เขาก็เลยจะบินมาเพื่อมารักษาโดยเฉพาะ รวมค่าเที่ยว ค่าเดินทาง ค่าหมอแล้ว อาจจะเท่ากับราคาที่ทำในประเทศเขา เราก็เลยมีชาวต่างชาติที่จะบินมาทำ Anti Aging

“บางคนอดนอนทั้งคืนเพื่อเตรียมพรีเซนต์งานให้ลูกค้า แต่ต้องนอนชดเชยอีก 3 วัน ลักษณะแบบนี้คือร่างกายไม่เหมือนเดิมอาการไม่ค่อยสดชื่น อ่อนเพลีย หรือน้ำหนักขึ้นอยู่เรื่อยๆ ปีละกิโล สิ่งเหล่านี้มาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น พวกนี้ก็คือ Aging โดยทั่วไปคนเราจะคิดว่ามันเป็นสภาพที่เราต้องยอมรับ แก่ตัวลงจะเป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้เรามีเทคโนโลยีทาง Anti Aging ที่จะต่อต้านความแก่ได้

“เมื่อถึงวัยหนึ่งฮอร์โมนของเราก็จะหมด ถ้าเรามีการดูแลตัวเองที่ดี ก็อาจจะชะลอได้บ้าง แต่พอถึงวัยหนึ่งดูแลตัวเองดียังไงก็ต้องมีปัญหา ตรงนี้เองที่เราต้องเอาเทคโนโลยีการแพทย์เข้ามาช่วยในการตรวจรักษาทดแทน หรือจะให้มีสภาพเสื่อมค่อยมารักษาก็ได้ แต่ว่าถ้ามาก่อนก็จะดีเพราะจะได้มีการป้องกันค่ะ

“ความจริง Anti Aging ยิ่งมาเร็วก็ยิ่งทำง่าย ผลการรักษาก็ดีกว่า คุณภาพชีวิตเราก็ดีกว่า Anti Aging มันสามารถเริ่มทำได้เลยไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม แต่ในความเป็นจริงเรามัวแต่ทำงานหาเงินเลี้ยงลูก แล้วก็ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง

“ที่นี่เราไม่ได้ใช้ยาเลยค่ะ ทุกสารที่เราให้คือสารธรรมชาติที่มีอยู่แล้ว ให้เมื่อฮอร์โมนเริ่มน้อยลงหรือเสียสมดุลไปเราก็จะปรับพื้นฐานไป ตัวไหนที่ควบคุมการเผาผลาญตามอายุเราก็เติมเข้าไป ร่างกายก็จะดีขึ้น และคนไข้ก็ต้องเข้าใจว่าไม่ใช่กินแล้วหาย มันต้องใช้เวลาประมาณ 1-3 สามเดือนกว่าจะเห็นผล เราให้สารอาหารที่ร่างกายต้องใช้เพื่อที่จะนำไปซ่อมแซมตัวเอง”

การชะลอวัยรวมถึงการทำให้ร่างกายกลับมาสู่ความสมดุลตามปกติ ที่นอกเหนือการพึ่งพาเทคโนโลยีทางการแพทย์แล้ว คุณหมอยังมีวิธีง่ายๆ ในการทำให้ร่ายกายเป็นปกติและอ่อนกว่าวัยมาฝากกันด้วย

“ลองเฝ้าสังเกตตัวเอง ถ้ามีอาการน่าสงสัยหรือเริ่มเห็นความเสี่ยงก็ค่อยไปหาหมอก็ได้ แต่ในช่วงนี้เราควรดูแลตัวเองให้เยอะๆแน่นอนการทำ Anti Aging มันทำได้หลายระดับ อย่างแรกที่ไม่ต้องมาหาหมอเลยก็ได้ คือการดูแลสุขภาพที่ทุกคนรู้จักอยู่แล้วแต่ไม่ค่อยทำกัน คือการเลี่ยงสิ่งที่ไม่ดี เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ กินของที่มีไขมันสูง น้ำตาลเยอะ

“ระดับที่สองก็คือการทำสิ่งที่ดีให้กับร่างกาย อย่างเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แทนที่จะรับประทานอาหารธรรมดาๆ เราก็เลือกข้าวกล้อง ผัก ผลไม้ หมั่นออกกำลังกาย นั่งสมาธิ จริงๆ แล้วการนั่งสมาธิมีการพิสูจน์แล้วทางวิทยาศาสตร์ว่าถ้าเรามีเทคนิค การทำสมาธิก็จะทำให้จิตใจดีขึ้น การทำงานของร่างกายก็ดีขึ้นด้วย โอกาสที่เราจะเจ็บป่วยก็น้อยลง”