ณัฐฑี จุฑาวรากุล

ณัฐฑี จุฑาวรากุล

“นัทถูกปลูกฝังเรื่องธุรกิจมาตั้งแต่เด็กๆ วิ่งเล่นอยู่ในร้านทอง ทุกวันเสาร์จะต้องช่วยงานที่ร้านตลอด ก็เหมือนเราได้ศึกษามาตั้งแต่ตอนนั้น จนถึงช่วงมัธยมต้นก็รู้ว่าอยากจะเรียนด้านบริหารธุรกิจ เพราะอยากทำธุรกิจของครอบครัวและต่อยอดมันออกไป” 

ผู้บริหารคนสวยเผยถึงความมุ่งมั่นที่สั่งสมมาตั้งแต่เมื่อครั้งยังเล็ก ต่างจากคนวัยเดียวกันจำนวนไม่น้อยที่ต้องการออกไปค้นหาเส้นทางเดินใหม่ๆ ให้กับชีวิต

“หลังเรียนจบกลับมาจากอังกฤษ นัทก็มาศึกษาธุรกิจครอบครัวเพิ่มเติม โดยเฉพาะทองคำแท่งที่ก่อนหน้านี้ก็นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งอยู่แล้ว เมื่อเริ่มเข้ามาเราก็พัฒนาระบบซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มความสะดวกให้มากขึ้น พอดีกับช่วงเวลานั้น TFEX เปิดรับสมาชิกหรือโบรกเกอร์ในรอบสอง ก็เลยนำเรื่องนี้ไปปรึกษาคุณพ่อว่ามีความน่าสนใจ เป็นโอกาสดีที่จะสามารถต่อยอดธุรกิจที่ทำอยู่แล้วได้ สุดท้ายก็ได้เข้ามาดูแลตรงนี้ควบคู่กันทั้งทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส

“ระยะแรกเริ่มก็รู้สึกเครียดว่าสิ่งที่ทำตอนอายุขนาดนี้มันจะใช่เหรอ เครียดในเรื่องว่าเราจะเซ็ทอัพบริษัทขึ้นมาอย่างไร แต่ในเมื่อไม่มีประสบการณ์ ก็ต้องพยายามศึกษาให้มากว่าทำยังไงบริษัทถึงจะเปิดขึ้นมาได้ ตอนนั้นพนักงานยังไม่มีสักคน เราก็ต้องสร้างทีม วางตำแหน่งหัวหน้าในแต่ละสายงาน แล้วค่อยๆ หาทีมงานเข้ามาช่วยเสริมในสิ่งที่เราได้วางแผนไว้ ขณะเดียวกันคุณพ่อคุณแม่ก็คอยให้คำปรึกษาและช่วยดูแลภาพรวมของธุรกิจ พอบริษัทเปิดขึ้นมาได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไปก้าวหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าเปิดบริษัทเสร็จแล้วจะจบ มันยังคงต้องก้าวต่อไปเป็นสเต็ปๆ”

แม้ว่าเธอจะสวมบทบาทผู้บริหารที่สามารถกำหนดทิศทางในเรื่องต่างๆ ได้เองทั้งหมดก็จริง แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะเปิดโอกาสให้ทีมงานทุกคนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อให้ได้ข้อสรุปอันเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย

“นัทเป็นคนคิดอะไรรอบคอบและตัดสินใจเองทุกอย่าง แต่ก็ต้องเปิดกว้างรับฟังทุกความเห็นของทีมงานที่มีประสบการณ์มากกว่าเรา เพื่อที่จะได้เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน

“เรารู้ว่ายังอ่อนประสบการณ์ ฉะนั้นคนที่เขามีประสบการณ์ในด้านนั้นๆ เขาอาจจะมีมุมมองที่ดีกว่า เราก็จะดูภาพรวมทั้งหมดอย่างเป็นกลางเพื่อประโยชน์ในทุกด้าน คือการบริหารจะมองแค่ผลประโยชน์ของเราอย่างเดียวไม่ได้ มันต้องคำนึงถึงประโยชน์ของทีมงาน องค์กร ผลประโยชน์ของลูกค้า ทุกอย่างต้องได้ผลประโยชน์” 

ขณะเดียวกัน นอกเหนือจากงานแล้ว เธอยังบอกว่าชีวิตส่วนตัวก็สามารถบริหารได้ดีไม่แพ้กัน

“ปกตินัทบริหารทั้งเรื่องงานและชีวิตส่วนตัวได้ค่อนข้างสมดุล คือทำงานเยอะแค่ไหนก็ยังต้องมีเวลาส่วนตัว ไม่ใช่ว่าต้องทำงานถึงเที่ยงคืนทุกวัน วันว่างๆ ก็ออกไปทานข้าวกับเพื่อน เป็นคนชอบทานชอบเปลี่ยนบรรยากาศ ส่วนวันอาทิตย์ก็จะอยู่ทานข้าวกับครอบครัว แต่ถ้าอยู่บ้านคนเดียวก็จะอ่านหนังสือเพราะมันช่วยเปิดโลกและให้มุมมองใหม่ๆ เป็นการเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ได้มากขึ้น อย่างหนังสือที่อ่านก็เกี่ยวกับการบริหาร การลงทุน อีกประเภทหนึ่งก็พวกหนังสือเกี่ยวกับคนที่ประสบความสำเร็จ เพราะข้อคิดหรือประสบการณ์ตรงนั้นเราสามารถประยุกต์ใช้ได้ แต่หนังสือประเภทนวนิยายจะพยายามเลี่ยง เพราะถ้าอ่านแล้วติดก็คงไม่ได้ทำอย่างอื่นกันพอดีค่ะ (หัวเราะ)” 

Know Her

• เธอจบปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 2 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโท เกียรตินิยมอันดับ 2 The ICMA Center , Henley Business School, University Of Reading Msc International Securities, Investment and Banking

• นอกจากการบริหารงานในบริษัทของเธอเองแล้ว เธอยังเป็นผู้วิเคราะห์คาดการณ์แนวโน้มความผันผวนของทองคำผ่านทางMoney Chanel, Nation Chanel และ Voice TV อีกด้วย 

ธุรกิจที่ต่อยอดจากกิจการร้านทองเจียบเซ่งเฮง