The Dark Knight Rises

The Dark Knight Rises

กว่าจะได้ชมภาคนี้ที่ถือเป็นการปิดไตรภาคก็เป็นเวลากว่า 4 ปีหลังจากภาคที่แล้ว เชื่อว่าหลายคนคงจะลืมตัวละครบางตัวไปแล้ว ดังนั้นเพื่ออรรถรสในการชมหนังให้สนุกขึ้น ผมขอแนะนำตัวละครใน The Dark Knight Rises บางส่วนให้รู้จักกันอีกครั้งครับ

เริ่มจากตัวหลักบรูซ เวยน์ หรือ แบทแมน (รับบทโดย คริสเตียน เบล) คาแรคเตอร์ของบรูซ เวยน์ เป็นเศรษฐีหนุ่มที่สูญเสียพ่อและแม่ไปพร้อมๆ กันจากน้ำมือของโจรที่มาปล้นเพียงเพราะต้องการเงินเล็กๆ น้อยๆ ทำให้จากนั้นมาเขามุ่งมั่นฝึกฝนตัวเอง เอาชนะความกลัวในตัวจนก้าวสู่การเป็นอัศวินรัตติกาล 

จิม กอร์ดอน (รับบทโดย แกรี่ โอลด์แมน) มักจะเป็นตัวละครที่ดูเหมือนจะไม่สำคัญใน 2 ภาคแรก (และรวมถึงภาคนี้ด้วย) แต่กอร์ดอนนั้นเป็นผู้กุมความลับว่าการตายของฮาร์วีย์ เดนท์ อดีตอัยการเขตนั้นไม่ได้เป็นความผิดของแบทแมน 

แคทวูเมน (รับบทโดย แอนน์ แฮทธาเวย์) ตัวจริงของแคทวูเมน จอมโจรสาวแสนสวยคือ เซลีน่า เคล สาวน้อยผู้หลบซ่อนตัวเองและเอาตัวรอดจากทั้งตำรวจและผู้ร้าย 

The Dark Knight Rises เริ่มต้นเรื่องด้วยฉากเดียวกันกับฉากสุดท้ายของภาคที่แล้ว นั่นคืองานสดุดีอัยการเขตฮาร์วีย์ เดนท์ วีรบุรุษผู้ผ่านกฎหมายป้องกันอาชญากรรมเดนท์แอ็ค หลังจากการตายของ เดนท์ผ่านไป 8 ปีเต็ม แบทแมนก็ได้หายไปจากเมืองก็อธแธม เนื่องจากกฎหมายเดนท์แอ็ค ทำให้ตำรวจมีเครื่องมือสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โจร ผู้ร้ายจึงลดน้อยลง 

ประกอบกับ บรูซ เวยน์ เองก็ยังไม่คลายความเศร้าจากการสูญเสียคนรัก เรเชล ดอว์ส (แม็กกี้ จิลเลนฮาล) ทำให้เขาเก็บตัว ไม่ออกงานสังคม ไม่ออกจากห้องและไม่ดูดำดูดีแม้กระทั่งร่างกายตัวเอง แต่แล้วสาวสวย เซลีน่า เคล หรือ แคทวูเมน ก็ปลุกสัญชาติญาณนักล่าของบรูซ เวนน์ ด้วยการแอบลอบเข้ามาในคฤหาสน์
เพื่อขโมยสร้อยไข่มุก ของดูต่างหน้าแม่ รวมถึงรอยนิ้วมือของเขาเพื่อนำรอยนิ้วมือขายให้กับนักการเมืองชั่วที่ร่วมมือกับเบน (ทอม ฮาร์ดี้) คู่ปรับตัวฉกาจของแบทแมนในภาคนี้ 

งานแรกที่เบนสร้างความวุ่นวายในเมืองก็อธแธมก็คือการปล้นตลาดหลักทรัพย์ อันเป็นหัวใจเศรษฐกิจของเมือง ทำให้แบทแมนต้องกลับมาช่วยก็อธแธมอีกครั้ง 

ความยากมันอยู่ที่คราวนี้คู่ต่อสู้ของเขาคือ เบน ศิษย์ร่วมสำนักเดียวกันที่ทั้งแข็งแกร่งกว่า ว่องไวกว่าและหนุ่มกว่า

ที่ผมแอบสังเกตเห็นในหนังเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ ก็คือเลข 8 ซึ่งมีอยู่ในหนังเต็มไปหมด ซึ่งผมเดาว่าคริสโตเฟอร์ โนแลน คงจะทิ้งท้ายสื่อความหมายถึงการเป็นนิรันดร์ของแบทแมน เพราะเลข 8 ถ้าจับวางในแนวนอนก็จะกลายเป็นเครื่องหมายอินฟินิตี้  เนื่องจากภาคนี้จะเป็นการกำกับภาคสุดท้ายของโนแลนแล้ว

The Dark Knight Rises น่าจะกลายเป็นหนังในดวงใจของใครอีกหลายคน และคงเป็นแบทแมนภาคที่ถูกพูดถึงไปอีกนานอย่างแน่นอน

 
ผมแอบสังเกตเห็นในหนังเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ ก็คือเลข 8