คุณมิกกี้เล่าถึงที่มาของแอพพลิเคชั่นนี้ให้ฟังด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ‘การทำงาน’ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่ยังคงสถานภาพโสด เพราะด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ต้องเข้างานแต่เช้า เลิกงานดึก เมื่อเลิกงานก็ตรงกลับบ้านพักผ่อนเพื่อทำงานต่อในวันรุ่งขึ้น ทุกอย่างวนเวียนอยู่อย่างนี้ ในเมื่อวัยหนุ่มสาวยังเป็นวัยที่ต้องก่อร่างสร้างตัวให้มีฐานะมั่นคง จึงมักไม่มีเวลาหาเพื่อนรู้ใจให้มาอยู่ข้างกาย แอพพลิเคชั่น Noonswoon จึงเป็นเหมือนสื่อกลางให้เหล่าคนโสดมีโอกาสเจอคนที่ถูกใจมากขึ้น

“เพื่อนผมเกือบทุกคนแต่งงานกันหมดแล้ว แต่ผมยังโสดอยู่ เพราะทำงานและสอนหนังสือด้วย ถึงแม้ได้เจอผู้คนหลากหลาย แต่กลับไม่กล้าเข้าไปคุย จึงคิดว่าน่าจะมีเครื่องมือที่ช่วยได้ อีกทั้งเทคโนโลยีก็พัฒนาไปมาก พอได้กลับไป Reunion ที่มหาวิทยาลัย Stanford ที่ผมเคยเรียนในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท เมื่อมีโอกาสได้เจอกับเพื่อนๆ ที่ยังโสดอยู่เหมือนกัน จึงเกิดไอเดียทำแอพพลิเคชั่นนี้ขึ้น

“ที่สหรัฐอเมริกาการใช้เทคโนโลยีเพื่อทำความรู้จักผู้คนใหม่ๆ ได้รับการยอมรับมากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน 1 ใน 5 คู่ของคนที่แต่งงานในสหรัฐอเมริกาเจอกันได้เพราะได้เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วย แต่ในมุมมองของเอเชียหรือประเทศไทยยังไม่ค่อยเปิดเรื่องพวกนี้มากนัก

“การทำงานของแอพพลิเคชั่น Noonswoon นี้ มีหลักง่ายๆ คือจะแนะนำคนโสด 1 คน ให้คุณรู้จักในช่วงเวลาเที่ยงตรงของทุกๆ วัน ซึ่งส่วนมากจะเป็นคนที่อยู่เครือข่ายสังคมเดียวกันหรือที่เรียกว่า Friend of Friends นั่นเอง จุดเด่นของแอพพลิเคชั่น Noonswoon คือ จะให้ความสำคัญกับเรื่องเป็นส่วนตัวมาก โดยจะไม่มีใครรู้ว่าคุณใช้แอพพลิเคชั่นนี้ นอกจากคู่ของคุณและตัวคุณเอง ถ้าไม่อย่างนั้นหากผมเข้าไปใช้แอพพลิเคชั่นนี้ แล้วมีนิสิตมาเห็นก็อาจทำให้ดูไม่ดีได้ (หัวเราะ)”

คุณมิกกี้ บอกถึงความยากหรือความท้าทายในการทำแอพพลิเคชั่นนี้ว่า นอกจากจะเป็นเรื่อง Mind Set และวัฒนธรรมของคนไทยแล้ว ยังมีเรื่องการสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เพราะบริษัทที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งซึ่งมีผู้ร่วมทีมเพียง 2-3 คน ทำให้ขาดความน่าเชื่อ ขาดความมั่นคงสำหรับผู้ที่จะเข้ามาร่วมทีม ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงเชื่อเสมอว่าไม่มีใครเก่งไปหมดทุกเรื่อง เพราะเหตุนี้จึงต้องมีผู้ร่วมทีมเข้ามาช่วยเติมเต็มช่องว่างของกันและกัน

“ผมมองว่าคนเราจะทำงานให้ประสบความสำเร็จได้นั้น อย่างแรกคือจะต้องคอยสอดส่องหาปัญหาที่คิดว่าเป็นปัญหาจริงๆ แล้วนำมาคิดหาวิธีแก้เพื่อตอบสนองกลุ่มคนต่างๆ อย่างที่สองคืออยากจะให้ Seek Opportunity อย่างที่ CEO ของเว็บไซต์ Amazon เคยพูดไว้ว่า ‘เวลาคนเราทำอะไรที่มันโง่ๆ หรือเคยทำอะไรที่ไม่ฉลาดครั้งหนึ่ง เราก็จะด่าตัวเองว่าสิ่งที่ทำไม่ Make Sense แต่พอทำครั้งที่ 5 ครั้งที่ 10 หรือทำไปเรื่อยๆ ก็กลายเป็นวิธีที่ธรรมดา ซึ่งความจริงแล้วมันอาจมีวิธีที่ดีกว่านี้อีก แต่พวกเขาก็ไม่ได้คิดหาวิธีใหม่ เพราะคิดเพียงว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน วิธีนี้จึงน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด’ ในทางกลับกันผมจะพยายามคิดหาวิธีที่น่าจะดีกว่า หรือคิดหาวิธีที่แตกต่างเพื่อแก้ปัญหานั่นเอง

“ผมคิดเสมอว่า เราก็มีหนึ่งสมองสองมือเหมือนกับคนอื่นเราก็น่าจะทำได้ อย่างเวลาที่ล้มหรือก้าวพลาด ก็ยังมีอีกหลายคนที่เคยล้มและพลาดเหมือนกับเรา วิธีคิดแบบนี้ทำให้มีกำลังใจขึ้นมาที่จะสร้างสรรค์งานใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ

“นอกจากจะต้องทำให้แอพพลิเคชั่น Noonswoon เป็นที่รู้จักในวงกว้างของคนในแล้ว เป้าหมายที่ตั้งไว้ต่อไปคือจะขยายธุรกิจไปอีก 3 ประเทศ แต่กำลังศึกษาดูว่าจะไปประเทศไหนดี ซึ่งต้องดูว่ามีประเทศไหนบ้างที่มีวัฒนธรรมคล้ายคลึงกับไทย ก่อนที่จะพัฒนา Feature หลายๆ อย่าง แล้วค่อยก้าวไปในประเทศที่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรมต่อไป จุดนี้ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจว่าอย่างน้อยนอกจากข้าว ทุเรียน ที่ไทยส่งออกแล้วยังมีเทคโนโลยีที่สามารถส่งออกไปได้ (หัวเราะ)

“สำหรับคนทำแอพพลิเคชั่น ก็คงอยากเห็นคนเข้ามาใช้เยอะๆ ยอดดาวน์โหลดจะแสดงให้เห็นว่ามีคนให้ความสนใจ อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นรางวัลทางจิตใจ ทำให้รู้สึกชื่นใจขึ้นมา” 

Know Him 

เขาเคยเข้าประกวดหนุ่มคลีโอ (CLEO) และเป็น 1 ใน 50 หนุ่มโสดในฝันปี 2009  

แอพพลิเคชั่นสุดโปรดของเขาคือ Barefoot World Atlas เพราะสามารถดูสถานที่ต่างๆ ในโลกได้โดยที่ยังนอนอยู่ในห้องของตัวเอง เหมือนได้ผ่อนคลายไปอีกแบบ