กันต์ กันตถาวร
“สาเหตุที่ผมทำงานหนักมาก เป็นเพราะว่าจริงๆ แล้วเป็นคนขี้เกียจ ผมเชื่อว่าทุกคนก็คงไม่อยากตื่นเช้า แต่ทำแบบนั้นไม่ได้เพราะยังมีภาระหน้าที่รออยู่ ผมจึงตัดสินทำในสิ่งที่คิดว่าต้องทำให้มันสำเร็จ เพื่อที่จะได้ไปทำในสิ่งที่อยากทำ ไปเที่ยวในที่ที่อยากไป ใช้เวลากับคนที่เรารักและจะได้มีเวลาไว้ขี้เกียจในอนาคต แต่ผมคงไม่ได้ทำทั้งหมดถ้ามัวแต่งอมืองอเท้า อีกอย่างคือผมเป็นคนที่ต้องการอะไรมากกว่าคนอื่น และมีความชัดเจนในตัวเองว่าจุดหมายในชีวิตของเราคืออะไร”
จากความรู้ความสามารถที่ได้ร่ำเรียนมาทางด้านการตลาด จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บวกกับที่บ้านทำธุรกิจมาตั้งแต่ไหนแต่ไรและยังได้ประสบการณ์ตรงทั้งจากรุ่นพี่ รวมถึงเพื่อนของคุณพ่อที่เขามีธุรกิจ ทำให้นักแสดงหนุ่มคนนี้ตัดสินใจลองเดินบนเส้นทางนักธุรกิจ
“ปัจจุบันธุรกิจที่ผมดูแลอยู่มีทั้งหมด 5 อย่าง คือ ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อ Tadaima มีอยู่ 3 สาขา ร้าน Headquarter The Fifth ขายเสื้อผ้าผู้ชายอยู่ที่สยามสแควร์และจตุจักร ร้านขายรองเท้า 2morrowshoes ซึ่งขายอยู่ในพารากอนและส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ครีม เซรั่มบำรุงผิว De Flair ทำร่วมกับน้องสาว ขายออนไลน์และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ อย่างสุดท้ายเพิ่งเปิดได้ไม่นานชื่อว่า Buffet Clinic เป็นคลินิกเสริมความงามแห่งแรกที่ขายแบบคอนเส็ปต์บุฟเฟ่ต์และเปิดตลอด 24 ชั่วโมง
“เหตุผลที่เปิดธุรกิจหลายๆ อย่างแบบนี้ เป็นเพราะต้องการกระจายความเสี่ยง ซึ่งผมจะเลือกจับแต่ตลาดที่เราถนัด และต้องบอกว่าการทำธุรกิจของผมนั้นเป็นอาชีพหลักอีกหนึ่งอาชีพหนึ่งในการดำเนินชีวิตจริงๆ เพราะนอกเหนือจากการแสดงที่ทำอยู่ ณ วันนี้ผมยังต้องเป็น CEO ถึง 5 บริษัทพร้อมกันมันไม่ใช่เรื่องง่าย ผมจึงต้องทำทุกอย่างพร้อมๆ กันให้ออกมาดีที่สุด งานละครก็ต้องไม่เสีย งานธุรกิจก็ต้องไม่เสีย
“ผมว่าจริงๆ แล้วในการทำธุรกิจต้องใช้หลายๆ กลยุทธ์ประกอบกันทั้ง Financial, Marketing และ Vision ซึ่งต้องนำสิ่งเหล่านี้มาประเมินดูว่าในธุรกิจนั้นๆ ความต้องการทางตลาดเป็นอย่างไร สามารถเติบโตได้ถึงขนาดไหน ทำเงินได้มากน้อยเพียงไร และเราจะสามารถดูแลมันไหวหรือเปล่า เมื่อวิเคราะห์ได้อย่างนี้ก็จะรู้ว่าจุดอ่อนของเราคืออะไร จุดแข็งคืออะไร หลังจากนั้นจะมองได้ชัดเจนมากขึ้นว่าธุรกิจเราควรจะเดินไปในทางไหน”
บ่อยครั้งที่การทำธุรกิจร่วมกับคนรู้จักหรือแม้แต่เพื่อนสนิทมักเป็นสิ่งต้องห้าม เพราะรู้ๆ กันอยู่ว่าเรื่องของผลประโยชน์มันไม่เข้าใครออกใคร ถึงอย่างนั้นนักธุรกิจหนุ่มคนนี้ก็มีวิธีการรับมือในแบบของเขาเอง
“การทำธุรกิจกับเพื่อนหรือคนรู้จักเป็นสิ่งที่อันตรายมากนะครับ เราจึงทะเลาะกันตั้งแต่ครั้งแรกว่าอะไรควรเป็นอย่างไร ต้องแยกหน้าที่กันให้ชัดเจนแล้ว สำหรับผมคิดว่าดีแล้วที่มีหุ้นส่วน เพราะเขาเก่ง มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านอยู่แล้ว และงานทั้งหมดจะไม่ได้กระจุกอยู่ที่ผมคนเดียว ซึ่งถ้าให้ดูแลเองก็คงไม่สามารถดูได้ทั้งหมด ผมจึงดูแลแค่ด้าน Marketing และ Financial
“ในการทำธุรกิจถ้าจะบอกว่าไม่มีปัญหาเลยคงเป็นไปไม่ได้ อยู่ที่ว่าเรามีแง่มุมในการวางแผน Short term กับ Long term ในธุรกิจนั้นอย่างไรมากกว่า อย่างผมเรียนจบมาทางด้านนี้โดยตรงจึงมีการวางแผนไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า 3 ปีต่อจากนี้จะทำอะไร เหมือนมีเส้นประวางเป็นแนวให้ เราแค่เดินไปตามเส้นนั้น ถ้ารู้ว่ากำลังเดินออกไปนอกเส้นทางก็ต้องทำให้กลับมาอยู่ในเส้นเดิมของมัน
“ต้องบอกว่าในการทำธุรกิจ ผมไม่ได้ใช้คำว่าดารานักแสดงมาใช้ในการทำธุรกิจ ต้องแยกให้ออกอย่างชัดเจนเลยว่า ‘ธุรกิจก็คือธุรกิจ’ จริงอยู่ที่ความเป็นดารานักแสดงอาจมีส่วนดึงดูดให้คนจำนวนมากเข้ามาใช้สินค้าบริการในครั้งแรกได้ แต่ครั้งต่อๆ ไปถ้าธุรกิจของไม่เวิร์ค ยังไงก็ไม่เวิร์คอยู่ดี ความเป็นดาราไม่ได้ช่วยอะไร
“เป้าหมายในชีวิตของผมคือ ‘หยุดในสิ่งที่ต้องทำ แต่ไปทำในสิ่งอยากทำ’ จริงๆ ผมขอบอกว่าการแสดงเป็นสิ่งที่ผมรัก แต่ก็คงไม่สามารถเลือกรับงานแสดงได้เองอย่างเต็มที่ 100% ผมจึงอยากจะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำโดยที่ไม่ต้องกังวลอะไรเลยและอยากทำทุกอย่างให้เสร็จจนสามารถ Spend life ได้ เพราะฉะนั้นความสุขในเวลานี้คือ ‘การสร้างทุกอย่างให้มันสำเร็จและดำเนินไปอย่างเสถียร’ แล้ววันหนึ่งผมก็จะได้อยู่อย่างสบายใจ
“ผมว่าทุกคนอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง คงไม่มีใครอยากเป็นลูกน้องคนอื่นไปตลอดชีวิต ดังนั้นหากต้องการก้าวกระโดดก็ต้องลองครับ แค่ลองทำในสิ่งที่ชอบ แต่ต้องศึกษาให้ดี ลองว่าสามารถทำได้ไหม ถ้าไม่ได้ให้กลับมาดูที่ตัวเองว่าผิดพลาดที่อะไร แล้วก็แก้ไขให้เรียบร้อย ไม่มีอะไรถูก อะไรผิด ไม่มีใครเกิดมาแล้ววิ่งได้เลย ทุกคนต้องล้มลุกคลุกคลานมาก่อน แต่สิ่งสำคัญคือล้มแล้วลุกได้หรือเปล่า ผมมั่นใจว่าตราบใดที่ยังสู้กับตัวเองอยู่ ยังไงก็ไม่ล้มแน่นอน”
Know Him
วันว่างทำเขามักจะไปกินข้าวกับพ่อแม่ ดูหนัง และเล่นกับสุนัขแสนรัก
ของสะสมสุดหวงของเขาคือ นาฬิกา เพราะมีมูลค่าทางจิตใจ
ปัจจุบันเขาดูแลธุรกิจส่วนตัว 5 อย่าง และยังต้องถ่ายละครอีก 3 เรื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้เขาต้องทำทุกอย่างไปพร้อมๆ กัน