
Patrickananda : Depth in Soul, Growing Sound ท่วงทำนองและการเติบโตของ ‘แพทริคอนันดา’
นับเป็นเวลากว่า 6 ปี จากวันแรกที่ “แพทริคอนันดา” (Patrickananda) เริ่มต้นทำเดโม่ด้วยความรู้และทักษะเท่าที่มี สู่การเป็นศิลปินภายใต้สังกัด D.U.M.B. Recordings สร้างสรรค์หลากผลงานเพลง เช่น คนไกล, จันทร์อังคารพุธพฤหัสศุกร์เสาร์อาทิตย์ หรือ Lavender ที่เข้าไปจับทุกห้วงความรู้สึกของคนฟัง เรียกได้ว่าศิลปินหนุ่มคนนี้เติบโตขึ้นมาอย่างดีเลยทีเดียว
ณ ปัจจุบัน ด้วยประสบการณ์ชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น ปลดล็อกมุมมองความคิดจนนำไปสู่วิธีสร้างงานที่พร้อมก้าวข้ามและทดลองสิ่งใหม่อยู่เสมอ สะท้อนผ่านเรื่องราวและท่วงทำนองที่ร้อยเรียงเป็นผลงานเพลงได้อย่างลึกซึ้งสวยงาม บทสัมภาษณ์ในครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนภาพสะท้อนตัวตนและวิธีคิดของ “แพทริคอนันดา” นับจากวันแรกของการเดินทาง สู่ปัจจุบันที่เริ่มมองเห็นแง่มุมสิ่งสวยงามจากความไม่เพอร์เฟกต์ในฐานะศิลปิน
Intro : แพทริคอนันดา (Patrickananda)
Patrickananda : ณ วันนี้ ผมรู้สึกว่าตัวตนของผมมันเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา ผมทําเพลงมาประมาณ 5 ถึง 6 ปี ความชอบหรืออินเนอร์มันเปลี่ยนแปลงตลอด ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่เจอมา รวมถึงความสนใจในแนวเพลงอื่น ๆ ถามว่าตอนนี้ผมเป็นยังไงก็คงรู้สึกว่าชอบความสงบมาก ๆ ครับ รู้สึกเป็นธรรมชาติกว่าเมื่อก่อนที่เคยอยากให้ทุกอย่างมันเพอร์เฟกต์ ทีนี้เราไม่ได้เป็นอย่างนั้นแล้ว เรายอมรับและมองเห็นความสวยงามในความไม่เพอร์เฟกต์ได้มากขึ้นครับ
แน่นอนว่าความเปลี่ยนแปลงมันส่งผลต่อวิธีการสร้างงานด้วย ผมใช้เสียงจากเครื่องดนตรีจริงมากขึ้น เพราะอยากให้มีความรู้สึกที่จริงใจในแง่ของซาวด์เพลงมากขึ้น ใช้เสียงสังเคราะห์ให้น้อยลง เป็นความตั้งใจที่อยากจะถ่ายทอดตัวเองในเวย์ที่ธรรมชาติและสบายขึ้นให้คนฟังครับ
Track 1 : จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง (Spark)
Patrickananda : ความทรงจำเกี่ยวกับดนตรีที่ไม่เคยลืมมันจะมีอยู่ 2 ช่วงที่ไอคอนนิคมาก ๆ สําหรับผม คือตอนที่ได้รู้จักกับโปรแกรมฟังเพลงครั้งแรก ตอนนั้นพ่อผมเอามาลงไว้ในคอมฯ เราก็ฟังเพลงทุกเพลงที่เขาเอามาลง มีเพลงของ กอล์ฟ–ไมค์, พี่เจมส์ เรืองศักดิ์, พี่เบิร์ด ส่วนเพลงสากลก็จะมี Backstreet Boys, Stevie Wonder, Boyz II Men ส่วนมากจะเป็นโอลสคูลเพราะว่าผมโตมากับคุณปู่คุณย่าก็จะฟังเพลงเก่าเยอะอย่าง The Eagles โตมากับเพลงพวกนี้ครับ
ผมเคยอ่านมาบทความที่เขาบอกว่า ความโชคดีของเด็กที่เกิดในยุคนี้คือการเข้าถึงเพลงง่ายขึ้น เมื่อก่อนต้องไปซื้อซีดีซื้อแผ่นเสียง แต่เดี๋ยวนี้จ่ายเดือนละไม่กี่ร้อยก็ฟังได้ทุกเพลงบนใบโลกนี้ มันได้รับอิทธิพลต่างกันครับ เด็กสมัยนี้โชคดี ผมก็โชคดีที่ได้รับอิทธิพลมาจากเพลงหลายแนวครับ
ย้อนกลับไปผมเรียนดนตรีคลาสสิกมาตั้งแต่เด็กเพราะอยู่วงโยธวาทิต จริง ๆ สนใจดนตรีแจ๊สมาตั้งแต่เด็กแล้ว แค่ไม่ได้มีโอกาสได้เรียน ตอนนี้ฟังเพลงแจ๊สมากขึ้น แต่เป็นแจ๊สฟีล FKJ, BadBadNotGood, Daniel Caesar, Mac Miller, Anderson Paak, Silk Sonic เป็นคนที่ชอบเอาแจ๊สมาผสมกับอาร์แอนด์บี น่าสนใจดี ก็มาฟังตลอด ซึมซับมาตลอด
Track 2 : เดโมโปรเจกต์ (Demo)
Patrickananda : เส้นทางศิลปินของผมมันเริ่มมาจากการทําเดโมอยู่ที่หอพักสมัยมหาลัยครับ ผมเริ่มทําเพลงตอนประมาณปี 2 ตอนนั้นเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผมเรียนคณะวารสารศาสตร์ฯ หลักสูตรนานาชาติ
จริง ๆ อยากทําเพลงมาตั้งแต่เรียนจบม.6 แล้ว อยากเรียนดนตรีด้วยซ้ำ แต่ที่บ้านไม่ให้เรียนเพราะอยากให้ไปสอบมหาลัยรัฐฯ เรียกว่าเป็นค่านิยมละกัน ไปสอบและติดก็เลยเข้ามาเรียน แต่มาทําเพลงได้ยังไง อยู่ ๆ ผมก็อยากมีเพลงเป็นของตัวเองครับ ไปประกวดร้องเพลงก่อน ประกวดมาหลายที่ แต่ไม่ได้เข้ารอบก็เลยมาทําเพลงส่งเดโม่ไปทุกค่าย มีแค่ค่ายเดียวที่ตอบกลับมาให้โอกาสมาทําเพลงก็คือค่ายที่อยู่ทุกวันนี้ครับ
เดโมตอนนั้นเรียกได้ว่าทําไม่เป็นเลย ก็มั่ว ๆ เปิดดูยูทูป เพราะผมเล่นเครื่องดนตรีไม่เป็นเลย เล่นเป็นแค่กลอง โตมากับการเล่นวงโยฯ ตีสเเนร์ ตีกลองใหญ่ มันแทบจะเอามาทําเพลงป๊อปไม่ได้เลย ใช้โปรแกรมก็ไม่เป็น เหมือนฝึกเอง ทําเองมาเรื่อย ๆ ครับ
ความแตกต่างระหว่างการทำเพลงตอนนี้กับตอนนั้นคือมันดีขึ้นเยอะครับ เพราะได้มาเจอโปรดิวเซอร์ พี่แต๊บ (ธนพล มหธร) ที่ทำงานร่วมกันในหลาย ๆ เพลง ผมได้รับคําแนะนํามาจากพี่เขาหลายอย่าง เหมือนเรามีอาจารย์ที่เป็นต้นแบบ เทสท์ของเพลงหรือว่าอื่น ๆ ก็ได้มาจากพี่แต๊ปเยอะ เพราะเขาส่งเพลงมาให้เราฟัง
Track 3 : Passion and Practice
Patrickananda : ถ้าไม่นับกลอง กีต้าร์เครื่องดนตรีชิ้นแรกที่ผมเล่นตอนประมาณม.2-ม.3 ครับ เล่นที่โรงเรียนให้เพื่อนสอน ตอนนั้นแต่ก็เล่นได้ประมาณนึง ไม่ได้เล่นเก่งมาก จากนั้นฝึกเองจากยูทูป
ผมว่าการเรียนดนตรีก็ดีนะครับ ช่วงนี้ผมเรียนเปียโนอยู่เหมือนกัน คือตอนเด็ก ๆ เรารู้สึกกลัวเครื่องดนตรีนี้มากเพราะมันดูเล่นยาก แต่พอได้มาเรียน ได้เจออาจารย์ที่เข้าใจว่าเราชอบเล่นแนวไหน เราไปกับมันได้นะ รู้ว่าฝึกแบบนี้ทุกวันเราจะเล่นอันนั้นได้ มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ พอเราเล่นได้มากขึ้นมันก็เปิดความคิดสร้างสรรค์ในหัวได้มากขึ้น เล่นเปียโนไป ร้องเพลงไป แล้วก็เขียนเพลงไป มันช่วยได้เลย
Track 4 : วารสารและการทำเพลง (Journalist’s Tune)
Patrickananda : เรื่องนี้ตลกสุดเลยครับ ผมอาจจะชอบคิดว่าตอนนั้นไม่ได้อยากเรียนเลยนะ แต่พอมาดูมารู้ตัวอีก มันซึมซับอะไรบางอย่างมาเยอะมาก ๆ คือในคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนเขาจะให้เขียนข่าวเยอะมาก อาทิตย์นึงต้องเขียนทุกวิชาครับ วิชาละ 1-2 สกู๊ป เหมือนเป็นการฝึกเขียนการเล่าเรื่องไปในตัว ตอนเริ่มเขียนเพลงเราแค่คิดว่ามันน่าจะเหมือนเวลาเขียน Essay มี Introduction, Body, Conclusion แปลกใจที่มันก็ช่วยเราได้เยอะเลยครับ
ผมเคยคิดเล่น ๆ เรื่องที่เรียนมานะ คือผมชอบพี่หนุ่ม (กรรชัย กำเนิดพลอย) เรารู้ว่าพี่หนุ่มเขาเคยเป็นดารามาก่อน ทุกวันนี้พี่หนุ่มเป็นผู้ประกาศข่าวที่เก่งมาก ก็รู้สึกสนใจนะครับ แต่พอดีผมพูดไม่เก่ง รู้สึกว่าน่าจะเป็นสายงานที่ต้องพูดเก่ง พูดรู้เรื่อง พูดฉับไว สนใจแต่ว่าอาจจะยังไม่ถึงเวลาครับ
Track 5 : Wine
Patrickananda : พูดถึง 2 ซิงเกิลล่าสุดที่เพิ่งปล่อยไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เริ่มต้นที่ ‘Wine’ เพลงนี้มันเกิดจากวันนึงผมไปอัดเพลงที่ค่าย ระหว่างนั่งเล่นยูทูปก็มาเจอบีท Mac Miller อันนึง ชอบมาก ๆ คอร์ดจะประมาณที่เราได้ฟังกันในเพลงเลย แต่ว่ามันก็เปลี่ยนมาเยอะ
แล้วก็ตอนนั้นผมนั่งดื่มไวน์ คือที่ค่ายเขาจะมีไวน์ให้ศิลปิน ระหว่างนั่งชิลไปเราก็อยากเขียนเพลงที่พูดถึงการดื่มไวน์ แต่ไม่ใช่ตัวผมนะ เพลงมันพูดถึงผู้หญิงคนนึงที่มานั่งอยู่ที่บาร์ทุกวันศุกร์คนเดียว เราแค่สงสัยว่าคนที่มานั่งจิบไวน์ที่บาร์ทุกวันศุกร์คนเดียวต้องเป็นคนยังไง ก็เลยเขียนเพลงขึ้นมาด้วยความสงสัยว่าเธอจะเป็นไรไหมครับ
Track 6 : ยังเหมือนเดิม (Still)
Patrickananda : ‘ยังเหมือนเดิม (Still)’ สตอรี่ของเพลงนี้คือ ตอนที่ผมชอบนึกถึงเวลาที่เรารู้สึกไม่ดีแล้วมีคนมาถามว่าเราเป็นยังไงบ้าง บางทีผ่านไปเป็นปี ทุกคนก็ยังถามอยู่ว่าเป็นยังไงกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ ผมจะตอบว่าก็ยังเหมือนเดิม หมายถึงยังไม่ได้รู้สึกดีขึ้น ไม่ได้ลืมเรื่องนั้นเรื่องนี้ได้ ก็เลยเป็นที่มาของเพลงว่าเรายังเหมือนเดิม ยังรู้สึกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย
พาร์ทดนตรีได้พี่ยี่ (ชยปัญญ์ จันทรานุสนธิ์) อดีตวง Safeplanet มาช่วยโปรดิวซ์เพลงนี้ ตอนแรกทําออกมาเป็นเวอร์ชั่นหนึ่ง แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นอีกเวอร์ชั่นนึงแล้ว จะมีความเป็นเครื่องดนตรีสดมากขึ้น มีความแจ๊สมากขึ้น ต่อยอดจากเพลง ‘Wine’ มาเลยครับ
Track 7 : Music Sportlight
Patrickananda : 3 เพลงที่บ่งบอกความเป็นแพทริคอนันดาตอนนี้ได้ดีที่สุด ผมคงให้ ‘Wine’ เพลงแรก ‘ฉันยอม (CEDE)’ ที่เคยปล่อยไปเมื่อปีที่ก่อน ๆ แล้วก็ยังอยากให้ฟัง ‘Lavender’ อยู่ครับ
สำหรับผม Lavender เป็นเพลงที่รู้สึกไทม์เลส รู้สึกว่าเราเขียนขึ้นมาแล้วทุกอย่างมันลงตัวดี แบบว่าร้องตอนไหนฟังตอนไหนก็ยังฟังได้
สำหรับ ‘Wine’ กับ ‘ฉันยอม (CEDE)’ ด้วยวิธีการเขียนเพลงของ 2 เพลงนี้ที่ค่อนข้างจะต่างจากเมื่อก่อนมาก ๆ เนื้อหามันจะมีความแยบยล แล้วก็ไม่ค่อยตรงไปตรงมาเท่าเพลงเก่า ๆ เลยอยากให้ลองฟังเทียบกันดูว่ามันเปลี่ยนไปในทางยังไงบ้าง อาจจะเห็นความแตกต่างถ้าลองฟังเทียบกันดูครับ
Track 8 : นักผจญซาวด์ (Harmony Explorer)
Patrickananda : ถ้าให้เลือกซาวด์ที่ผมอยากทำแต่ว่ายังไม่เคยทำ ผมเลือกสตริงครับ พวกไวโอลิน เชลโล วิโอลา ดับเบิ้ลเบส ไม่ค่อยได้มีในเพลงที่ผ่านมา เพราะว่าอะไรที่ไม่เคยลองเราจะรู้สึกกลัวเสมอเลย เราไม่รู้ว่ามันควรจะอยู่ตรงไหนในงาน แต่โชคดีที่ได้โปรดิวเซอร์ พี่คิด Black Cabin มาทําในเพลง ‘Wine’ แล้วก็จะมีเพลงอื่น ๆ ด้วย พี่เขาจะมีเทสท์บางอย่างที่ไม่รู้มาก่อนว่าเราสามารถทําเพลงแบบนี้ได้
ความท้าทายในฐานะศิลปิน ผมรู้สึกว่ามันยังมีอีกเยอะ ยังต้องฝึกอะไรอีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรีหรือว่าการเขียนเพลง ทุกวันนี้มันเพิ่งเริ่มต้นที่จะลองทำอะไรใหม่ ๆ คิดว่าอยากลองอะไรใหม่ ๆ เพิ่มอีก แล้วก็เกลาให้มันคมมากกว่านี้
Track 9 : Mind-Self
Patrickananda : แพทริคอนันดาในวันแรกที่เดบิวต์จะมีความดื้อ ความ Perfectionist แต่ก็มีความ Raw บางอย่าง ตัวตน ณ ตอนนั้นมันมีความพิเศษอะไรบางอย่างที่ไม่ได้ปรุงแต่งอยู่ครับ
ส่วนแพทริคอนันดาในวันนี้รู้สึกสงบ แล้วก็เปิดกว้างมากกว่าเมื่อก่อน รู้สึกว่าเราเปิดรับอะไรมากขึ้น กล้าที่จะลองอะไรมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนครับ
ส่วนตัวคิดว่าผมเติบโตขึ้นว่าในฐานะศิลปินเยอะมาก ๆ ครับ เรื่องทัศนคติเปลี่ยนไปโดยปริยายเลย ตอนเริ่มต้นมา ผมคิดว่าทุกอย่างมันต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น แต่เอาเข้าจริง ๆ พอเราโตและเห็นอะไรมากขึ้น ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นขาวและดําขนาดนั้น บางทีมันก็มีเฉดอื่น ๆ ไม่จำเป็นต้องตายตัวก็ได้ ตอนนี้เหมือนผมเปิดรับอะไรมากขึ้น เปิดรับแนวดนตรีอื่นมากขึ้น ทดลองอะไรใหม่ ๆ มากขึ้น ก็รู้สึกฟรีฟอร์มและแฮปปี้กว่าเมื่อก่อนด้วยครับ
Outtro : The Sound Isn’t Finished
Patrickananda : ขอขอบคุณเสมอครับที่ยังมีคนฟังเพลงอยู่ ตามมาตั้งแต่วันแรกจนถึงทุกวันนี้ก็ขอบคุณและดีใจ ๆ มาก อยากให้รอจริง ๆ กับอัลบั้ม คือผมเคยสัญญาไว้ว่าจะปล่อยเมื่อปีที่แล้วแต่ก็ถูกเลื่อนมา เพราะว่าอะไรหลาย ๆ อย่าง ความไม่แน่ใจเรื่องเพลง เรื่องส่วนตัว ก็เลยหายไปยาวเลย แต่ปีนี้ตั้งใจกลับมาอยากทําเพลงนะครับ อยากทําแล้วก็อยากปล่อยออกมาให้ทุกคนได้ฟัง
อัลบั้มที่กำลังทำอยู่มันจะเป็นแพทริคอนันดาที่จริงมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนอีก มันคือทุกอย่างที่ผมอยากทํามาตลอด มันอาจจะเป็นแนวเพลงที่อยากทํามาแต่ไม่เคยได้ทํา ซึ่งครั้งนี้ผมจะทํามันจริง ๆ รู้สึกตื่นเต้นที่จะปล่อยออกมาให้ทุกคนได้ฟังด้วยครับผม
ฝากติดตามเพลง ‘Wine’ และ ‘ยังเหมือนเดิม (Still)’ ด้วยนะครับผม ลองไปฟังกันได้ใน Youtube : Patrickananda แล้วก็ติดตามข่าวสารได้ทาง D.U.M.B. Recordings ทั้ง Instagram, Youtube, Facebook หรือว่า Instagram : Patrickananda ส่วนตัวไม่ค่อยได้เล่นเท่าไหร่แต่ก็ติดตามได้ครับ
Follow Him
Facebook : Patrickananda
Instagram : patrickananda
X : patrickananda
Tiktok : patrickananda
Youtube : PATRICKANANDA
Photo by : Ajarin Duangchaemsai