ในทุกวันนี้ทุกอย่างแทบจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ไม่เว้นแม้กระทั่งในเรื่องของการออกแบบสถาปัตยกรรม ที่แรกเริ่มบริษัทสถาปัตยกรรมได้นำเอาเครื่องพิมพ์ 3 มิติมาใช้ผลิตโครงสร้างอาคารบางอย่างซึ่งก็เป็นเทคนิคที่น่าสนใจ ภายหลังเทคนิคนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างแพร่หลายจนไฟลามทุ่ง เพราะเทคนิคดังกล่าวเป็นเทคนิคที่เรียบง่าย มีประสิทธิภาพ และเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดความเสี่ยงจากข้อผิดพลาด อีกทั้งช่วยประหยัดเวลาอีกด้วย แต่ในทุกวันนี้มันไม่ใช่การใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติพิมพ์แค่โครงสร้างอีกต่อไปแล้ว เรากำลังจะมีบ้านที่สร้างจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติโดยสมบูรณ์แบบทั้งหลังอย่างจริงจัง

โดยล่าสุดนั้นบริษัท Serendix บริษัทสตาร์ตอัพด้านการก่อสร้างที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อปีที่แล้วบริษัทนี้เป็นบริษัทที่ถูกกล่าวถึงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากการออกแบบและสร้างบ้านขนาดเล็กที่มีระบบป้องกันการเกิดแผ่นดินไหว (สืบเนื่องมาจากประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง) และในครั้งนี้บริษัท Serendix ได้ทำการเปิดตัวบ้านที่สร้างจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติเต็มระบบเต็มรูปแบบ ที่มีชื่อว่า "Fujisubo" โดยมีราคาอยู่ที่ 5.5 ล้านเยนหรือ 37,600 ดอลลาร์สหรัฐ

บ้านหลังดังกล่าวนี้น่าสนใจเป็นอย่างมากครับ เพราะราคารวมไม่เกินสองล้านบาทไทย พูดกันง่าย ๆ คือราคาประมาณรถยนต์ขนาดกลาง 1 คันในบ้านเรา บ้านหลังนี้มีเนื้อที่เพียง 538 ตารางฟุตซึ่งมีขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับบ้านมาตรฐานทั่ว ๆ ไปในอเมริกา เล็กกว่าประมาณ 5 เท่าตัว แต่บ้านหลังนี้ประกอบไปด้วยห้องนอน 1 ห้อง ห้องน้ำ 1 ห้องและห้องนั่งเล่นแบบที่เปิดเชื่อมต่อกับห้องครัว แม้จะเล็กทว่าฟังก์ชันการใช้งานครบเพียงพอสำหรับคู่รัก 1 คู่หรือการอยู่คนเดียว แต่สิ่งที่เป็นที่สุดยิ่งกว่าคือเจ้า Fujisubo นี้ใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติในการพิมพ์ก่อสร้างจำนวน 5 เครื่องต่อ 1 หลัง และใช้เวลาในการพิมพ์รวมประกอบติดตั้งเบ็ดเสร็จเพียงแค่ 44.5 ชั่วโมง

พูดง่าย ๆ คือไม่เกิน 2 วันบ้านเสร็จพร้อมเข้าอยู่ทันที มิหนำซ้ำยังมีราคาถูกอีกด้วย ตรงกับโจทย์ของบริษัท Serendix บริษัทผู้ผลิตเจ้า Fujisubo นี้ที่มุ่งเน้นเจาะตลาดคนที่รายได้กลาง ๆ มองหาบ้านหลังเล็กราคาถูก บริษัทจะเน้นไปที่การสร้างในเมืองเล็ก ๆ ที่มีพื้นที่ว่างเพียงพอเป็นหลักครับเนื่องจากราคาที่ดินในประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างสูง แม้ว่าจะไกลจากตัวเมืองสักหน่อย แต่อาศัยระบบคมนาคมอันรวดเร็วของญี่ปุ่นทดแทนระยะเวลานั่นเอง ซึ่งก็แน่นอนครับว่าเจ้า Fujisubo นี้ได้รับความสนใจและได้รับความนิยมอย่างไม่ต้องสงสัย

จากข้อมูลข้างต้นทำให้เราเห็นได้ว่าเทคโนโลยีนั้นน่าสนใจ และเมื่อเทคโนโลยีมาจับมือกันกับการออกแบบสถาปัตยกรรมแล้วยิ่ง "ว้าว" เข้าไปใหญ่ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกก็คือเทคโนโลยีได้เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนอย่างแท้จริงครับ พฤติกรรมเราเปลี่ยนไปตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีรวมถึงการตัดสินใจ เทคโนโลยีการพิมพ์นั้นทำให้การก่อสร้างเป็นไปได้รวดเร็ว วัตถุดิบที่ใช้ในการก่อสร้างจากเดิมแปรเปลี่ยนไปไม่จำเป็นต้องใช้วัสดุหนักเหมือนเก่า มิหนำซ้ำราคายังถูกลงกว่าเดิมอีก แต่สิ่งที่ผมรู้สึกลึก ๆ ก็คือผมเองนั้นเชื่อว่าเรากำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคของเทคโนโลยีชนิดก้าวกระโดด และผมเองก็เชื่ออย่างสนิทใจว่าบ้านที่พิมพ์แบบ 3 มิตินี้เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้หุ่นยนต์อย่างสมบูรณ์ของอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยนั่นเอง