All-New Nissan Almera 2020 จิ๋วแต่แจ๋ว เครื่องเล็กแต่แรงเกินคาด
ได้ยินเสียงลือเสียงเล่ามาว่ามีแต่คนประทับใจ การขับขี่ทดสอบ All-New Nissan Almera 2020 จนมาได้ลองขับเองนี่แหละครับ เกินคาด! ไม่คิดว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.0 เทอร์โบ จะทำได้ถึงขนาดนี้ แล้วยิ่งรูปลักษณ์ที่ปรับโฉมจนต้องบอกว่าขับแล้วหล่อแบบซีดานหรูอีก ทั้ง ๆ ที่ทางนิสสันวางรุ่นนี้ไว้ที่ตลาด Eco Car นะเนี่ย เอาเป็นว่าประทับใจจนต้องมาบอกต่อครับ
ภารกิจการทดสอบ All-New Nissan Almera 2020 ครั้งนี้เราไปไกลกันถึงจังหวัดภูเก็ต แถมเป็นช่วงที่มีข่าวไวรัสโคโรนาระบาดพอดิบพอดี แต่ความอยากลองมันมากกว่าความกลัวครับ ยังไงก็มั่นใจว่าทางนิสสันประเทศไทยเขาดูแลสื่อมวลชนดีอยู่แล้ว ไม่มีใครพลาดรับเชื้อมาแน่นอน
การเดินทางของผมในครั้งนี้เกิดขึ้นในวันที่ 31 ม.ค. ถึง 1 ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นกลุ่มทดสอบกลุ่มสุดท้ายกลุ่มที่ 3 โดยที่มีกลุ่มพี่ ๆ สื่อสาย Motoring มาทดสอบกันก่อนไป 2 รอบ และในโซเชี่ยลก็ร่ำลือกันว่าคันนี้มันแจ๋วขนาด! จนต้องมาทดสอบเองให้ได้
สื่อมวลชนพร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในตอนเช้าตรู่วันที่ 31 ม.ค. ออกเดินทางโดยสายการบิน Bangkok Airways ถึงท่าอากาศยาน จ.ภูเก็ต เดินทางต่อไปยังโรงแรมพูลแมน ภูเก็ต อาเคเดีย ในทอน บีช ถึงโรงแรมพูลแมน ภูเก็ต อาเคเดีย ในทอน บีช รับฟังข้อมูลผลิตภัณฑ์ และบรีฟเส้นทางการทดสอบ จากนั้นก็ถึงเวลาที่รอคอย ได้ขับรถกันสักที
นอกจากรูปโฉมที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีมากมายที่เพิ่มขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวก โดยเฉพาะพวกกล้อง Monitor Around View ที่จัดเต็มมาให้รอบคัน ระบบเตือนอีกเพียบ ซึ่งแม้ฟังก์ชั่นพวกนี้จะไม่ใช่ของใหม่ แต่มันมักจะอยู่ในรถที่มีราคาแพงกว่านี้! ไม่ใช่หกแสนต้น ๆ
ในการทดสอบผมได้จับคู่กับสื่อไลฟ์สไตล์อีกท่านคือ น้องปราณ จากนิตยสาร Esquire คือหลาย ๆ ครั้งถ้าได้ไปทริปเดียวกันเรามักจะได้จับคู่กันตลอด ครั้งนี้น้องปราณเป็นคนขับไม้แรกจาก โรงแรมพูลแมน ภูเก็ต อาเคเดีย ในทอน บีช เพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันที่ Haadson Resort & Restaurant จังหวัดพังงา และออกเดินทางต่อไปยังร้านกาแฟ Harvey Café เป็นอันจบการทดสอบของท่านแรก ผมจะขับกลับจากพังงาไปยังที่พัก โดยใช้อีกเส้นทางที่มีการขึ้นเขาเป็นหลัก
เรามาที่ไฮไลต์กันก่อนครับ เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาดความจุ 1.0 ลิตร รหัสเครื่องยนต์ HRA0 เทอร์โบ ให้กำลัง 100 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 152 นิวตันเมตร ที่ 2,400-4,000 รอบต่อนาทีให้สมรรถนะและประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันสูง การเร่งความเร็วให้การตอบสองที่เร็วด้วยวาวล์ควบคุมไอเสียระบบไฟฟ้า หรือ electronically controlled waste guage ในการควบคุมแรงดันไอเสียที่เข้าออกเครื่องยนต์เทอร์โบ ช่วยลดอาการรอรอบของเทอร์โบ หรือ Turbo Lag ที่ดีขึ้น อัตราการใช้เชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร
ลดการปล่อยปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ตอบสนองต่อการขับขี่ และการใช้งานในเมืองได้เป็นอย่างดี ตามเทรนด์ของโลกในการการลดขนาดความจุเครื่องยนต์ แต่ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ให้สูงขึ้น ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างที่ต้องการ มีอัตราเร่งต่อนื่องราบรื่น เปรียบเทียบสมรรถะกำลังเครื่องยนต์เท่ากับขนาด 1,500 ซีซี สมรรถนะและแรงบิดที่เพิ่มขึ้นในแต่ละรอบเครื่องยนต์
เครื่องยนต์เทอร์โบใหม่นี้มาพร้อมระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ เอกซ์ทรอนิก ซีวีที (Xtronic CVT) โดยระบบเกียร์อัจริยะนี้จะช่วยเพิ่มอัตราการเร่ง พร้อมทั้งลดอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง มาพร้อม ดี-สเตป ลอจิก (D-Step Logic) ที่ปรับปรุงใหม่เพื่อการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล ให้อัตราเร่งต่อเนื่องและทันใจ และขับขี่ได้อย่างสนุกสนาน
นวัตกรรมใหม่ ๆ ทางเทคโนโลยีมากมาย โดยนอกจาก เทอร์โบชาร์จเจอร์ที่มีวาวล์ควบคุมไอเสียระบบไฟฟ้า(electronically controlled waste guage) แล้ว ยังมีเทคโนยีการเคลือบกระบอกลูกสูบแบบ Miror Bore Coating เทคโนโลยีจาก นิสสัน จีที-อาร์ ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ โดยการเคลือบกระบอกสูบแบบ Miror Bore Coating จะช่วยลดแรงเสียดทานและการสึกหรอของกระบอกสูบ และยังเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนจากการเผาไหม้ จึงทำให้เครื่องยนต์ลดการใช้เชื้อเพลิง และมีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกการขับขี่
นอกจากสมรรถนะและนวัตกรรมที่โดดเด่นแล้ว ผมชอบระบบเก็บเสียงในห้องโดยสารมาก เสียงรบกวน (Noise) การสั่นสะเทือน (Vibration) และความกระด้าง (HarshNess) ที่ลดลง พร้อมด้วยระบบส่งกำลัง และการลดเสียงที่ดังรบกวนจากบนถนน ที่ถูกพัฒนาให้ดีขึ้น เพื่อให้ห้องโดยสารมีความเงียบยิ่งขึ้น ต้องบอกว่าเงียบมากแม้จะขับกันเร็วถึง 140 กม./ชม. ก็แทบไม่ได้ยินเสียงรบกวน อาจเพราะเราเปิดเพลงกันดังด้วยก็ได้ แต่ยอมรับว่าเยี่ยมจริง ๆ ครับ
ในรถเขามีให้ I Phone ให้ใช้กับ Apple Car play ด้วยหนึ่งเครื่อง ใช้ทั้งเปิด Google Map และฟังเพลงออนไลน์ไปด้วยในตัว เครื่องเสียงที่ให้มาต้องบอกว่าเยี่ยมเลยครับ ลำโพงให้ความคมชัดทุกมิติ และหน้าจอทัชสกรีนตรงกลางก็ใหญ่โดดเด่น ด้วยขนาด 8 นิ้ว เล่นง่ายทุกฟังก์ชั่น แสดงผล กล้องมองรอบคันแบบ 360 องศา, Nissan Connect, Navigation พวงมาลัยดีไซน์ใหม่แบบ 3 ก้านทรงสปอร์ต ท้ายตัดแบบ D-Shape มีระบบมัลติฟังก์ชั่นควบคุมเครื่องเสียงและปรับจอ TFT ได้
ดีไซน์กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้าและไฟท้ายทรงบูมเมอแรง เหลี่ยมสันของฝากระโปรงชัดเจนมากขึ้น รวมไปถึงชุดพาร์ทกันชนหน้าที่มีการเล่นระดับ ชุดโคมไฟหน้าแบบ LED พร้อม LED Signature Light ทรงบูมเมอแรง เสา C มีการตกแต่งด้วยแถบสีดำ (Kick-Up C-Pillars) เพื่อให้รถดูหลังคาสูงขึ้นอีกด้วย
อย่างที่บอกในรุ่นใหม่นี้เขาเน้นที่ระบบความปลอดภัยมากขึ้น เตือนรอบคัน ทั้งตอนแซง หรือตอนถอยก็มั่นใจได้มากขึ้นกับเทคโนโลยีล้ำสมัย Nissan Intelligent Mobility ที่โดดเด่นและเพิ่มความปลอดภัยทั้งในส่วนด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังของตัวรถขณะขับขี่ เอาเป็นว่าราคาที่จัดว่าไม่แรงแบบนี้ น่าใช้ในเมืองมากครับ