เข้าสู่ พ.ศ. 2561 หรือ ค.ศ. 2018 กันแล้วนะคะ ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่านพบแต่ความสุขสวัสดี ในปีใหม่และขออวยพรให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในทุก ๆ สิ่งในปีใหม่นี้ ตลอดจนมีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บเข้ามาเบียดเบียน แต่เหนือสิ่งใดทั้งหมดขอให้ท่านโชคดีและปลอดภัยจากทุกภยันตรายค่ะ

ภาพที่นำมาเสนอวันนี้ เป็นภาพจากมุมสวนสนุกของเด็กในศูนย์การค้าใหญ่ทันสมัยในอังการ่า เมืองหลวงของตุรกี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการของมุมเด็กเล่นในอดีตและปัจจุบันได้อย่างดี ในยุคก่อน ๆ ศูนย์การค้ายังไม่ค่อยมีให้เห็น ร้านค้าส่วนใหญ่เป็นร้านค้าในย่านชุมชนที่มักจะสร้างเป็นตึกชั้นเดียวทอดตัวเรียงกันยาวไปตามถนน เป็นหย่อม ๆ หรือไม่ก็เป็นแบบตึกเดี่ยว ๆ เครื่องเล่นของเด็ก ๆ ก็มีอยู่ไม่กี่ชนิด ที่เห็นกันชินตาก็เช่นพวกชิงช้า ไม้ลื่น ไม้กระดก ดีขึ้นมาหน่อยก็เป็นพวกบาร์ให้เด็กปีนเล่น ห้อยโหนกัน เครื่องเล่นสำหรับเด็กในยุคก่อนจึงมีอยู่แค่ไม่กี่อย่างแต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป วิวัฒนาการของเทคโนโลยีเข้ามาสู่ชีวิตผู้คนมากขึ้นทำให้ความเป็นอยู่ของผู้คนเปลี่ยนไปอย่างที่นึกไม่ถึง ไม่ต้องดูอื่นไกลแค่เครื่องเล่นของเด็ก ๆ ก็กลายเป็นสวนสนุกมีเครื่องเล่นทันสมัยมากมาย ท้าทายความกล้าบ้าบิ่นของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จากของเล่นง่าย ๆ อย่างชิงช้าที่เคยผูกด้วยเส้นเชือกสองข้างบนกิ่งไม้โดยมีแผ่นไม้วางเป็นม้านั่งตรงกลางก็ยังแปรเปลี่ยนไปเป็นชิงช้าที่มีรูปร่างเป็นวงล้อกลมอันใหญ่หมุนอยู่ในอากาศ ท้าทายคนที่กลัวความสูง แล้วยังมีรถไฟเหาะเรือเหาะที่สุดหวาดเสียว มีบ้านผีสิงให้คนขี้กลัวเข้าไปกรีดร้องกัน มีบ้านกลับหัว บ้านหลอนด้วยกระจก สิ่งแปลกประหลาดต่าง ๆ ล้วนถูกขนมารวมกันไว้เป็นสวนสนุกสารพัดรูปแบบ ในส่วนที่เป็นเทพนิยายก็ชวนพาฝันไปสู่ยุคเจ้าหญิงเจ้าชาย ตัวการ์ตูนน่ารัก ๆ ออกมาเดินพาเหรดให้จินตนาการของเด็ก ๆ บรรเจิดอย่างมีความสุข และเมื่อมีศูนย์การค้าเกิดขึ้น สวนสนุกก็ผันตัวไปอยู่เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์การค้าเพื่อเอาใจเด็ก ๆ ที่มากับผู้ปกครองให้มีที่เที่ยวเล่น มีของเล่นให้หยอดตู้ สารพัดจะเอาใจเด็ก ๆ

แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างมากก็คือผู้คนนั่นแหล่ะค่ะ ผู้คนที่เกิดในยุคต่าง ๆ อย่างที่เรามักจะได้ยินที่เรียกว่า Generation นั้นก็ถูกจัดแบ่งแยกย่อยให้เป็นยุค ๆ ไปตามช่วงปีที่คนเหล่านั้นเกิด ทั้งนี้ก็เพื่อการทำความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในเจเนอเรชั่นหรือยุคต่างๆ นั่นเอง ยุคที่ดัง ๆ และรู้จักกันดีก็อย่างยุคที่สี่ ของผู้ที่เกิดในช่วง ค.ศ. 1945-1960 ได้รับการเรียกขานว่ายุค Baby Boomer หรือ Gen B ถือเป็นยุคที่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้คนในยุคนี้เมื่อกลับจากสงครามมาสู่ครอบครัวที่ห่างกันไปนานทำให้มีเด็กเกิดขึ้นมากมาย นอกจากนั้นพวกเขาเป็นคนที่มีชีวิตเพื่อการทำงาน ได้รับรู้ถึงความยากลำบาก จึงรู้จักประหยัดอดออม และละเอียดรอบคอบ ขณะเดียวกันก็เริ่มรู้จักเข้าไปใช้โซเชียลมีเดียมากขึ้น

จากนั้นก็มาเป็นยุค Generation X หรือ Gen X คือช่วง ค.ศ. 1961-1981 ซึ่งเป็นยุคที่โลกเริ่มมั่งคั่งขึ้นแล้ว คนยุคนี้โตขึ้นมากับการพัฒนาของวิดีโอเทป คอมพิวเตอร์ ทีวีขาวดำ เพลงฮิปฮอป เป็นคนที่ชอบอะไรง่าย ๆ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ที่สำคัญคือมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ยุคต่อมาเป็น Generation Y ซึ่งอยู่ในช่วง ค.ศ. 1982-2004 ยุค Gen Y หรือ Millennial เป็นยุคที่เทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตเจริญก้าวหน้า และผู้คนในกลุ่มนี้ก็ชอบงานด้านไอที พวกเขามีความคิดสร้างสรรค์ ทำอะไรได้หลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน เป็นคนมองโลกในแง่ดี แต่ไม่ค่อยมีความอดทนเท่าไหร่นัก จากนั้นก็มาสู่ยุค Generation Z หรือ Gen Z ซึ่งเป็นยุคของคนที่เกิดในช่วงปี ค.ศ. 2005-2009 ถือเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่รายล้อมอยู่รอบตัว มีความสามารถในการใช้งานเทคโนโลยีต่าง ๆ และเรียนรู้ได้เร็ว จากนั้นก็มาถึง Generation C คือกลุ่มคนยุคใหม่ที่ไม่ได้แบ่งตามอายุเหมือนที่ผ่านมา แต่เป็นการจัดกลุ่มตามพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือ อินเตอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์ค รวมทั้งมีแนวโน้มและมีพฤติกรรมเสพติดการเชื่อมต่อและพร้อมที่จะแชร์ได้ทุกเมื่อ โดยแต่ละกลุ่มต่าง ๆ เหล่านี้จะมีความแตกต่างกันหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความคิด ค่านิยม ลักษณะนิสัย หรือพฤติกรรมการแสดงออกต่าง ๆ

สำหรับปัจจุบัน เป็นยุคของ Generation Alpha หรือ Gen A ซึ่งก็คือเด็ก ๆ ที่เกิดตั้งแต่ ค.ศ. 2010-2025 ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ เป็นที่เชื่อกันว่าพวกเขาเกิดมาในยุคที่สามารถจะเก่งทางด้านเทคโนโลยีได้อย่างง่ายดาย เพราะเป็นยุคที่โลกของเราทันสมัยมาก ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีข่าวสารเฟื่องฟู สุขภาพของเด็กรุ่นนี้ก็จะดีขึ้น มีอายุยืนยาว เพราะความก้าวหน้าทางการแพทย์สูง นอกจากนี้พวกเขายังจะมีความสามารถรอบด้านมากขึ้น เรียนรู้ได้เร็ว และทำงานได้หลากหลายในขณะเดียวกันด้วย นอกจากนี้ความก้าวหน้าทางด้านสิ่งประดิษฐ์มากมายทำให้เริ่มมองเห็นหุ่นยนต์รูปแบบต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งหุ่นยนต์เหล่านี้ได้รับการพัฒนาจนเริ่มเหมือนมนุษย์เข้าไปทุกทีและกำลังก้าวมาสู่สังคมมนุษย์มากขึ้น

จากแค่ภาพมุมของเล่นที่สะดุดตาที่ผ่านมาไม่นานนักภาพนี้ เมื่อมองให้ลึกลงไปแล้วแทบไม่น่าเชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นกับสังคมและโลกของเราจะทำให้ผู้คนรอบ ๆ ตัว รวมทั้งตัวเราเองก้าวมาสู่ยุคที่จะได้สัมผัสกับสิ่งประดิษฐ์ที่จะมาอยู่และมาทำงานใกล้ชิดมนุษย์เรามากขึ้น

แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ขออวยพรอีกครั้ง ให้ทุกท่านโชคดี มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงในปีใหม่นี้และตลอดไปค่ะ

TEXT : ชุติมา เสวิกุล