Femme Fatale
จะเรียกว่า “องค์ประกอบสำคัญ” หรือ “หัวใจ” ของหนังพวก Film Noir มักจะมี Femme Fatale เป็นตัวละครหลัก คำพูดนี้ก็ไม่น่าจะผิด เพราะแม้ Film Noir จะไม่ใช่หนังที่เกี่ยวกับ “เรือนร่างของผู้หญิงเสมอไป” ทว่าหนังตระกูลนี้ก็มัก “ใช้บริการ” ผู้หญิงแบบนี้ มาเป็นสีสันของเรื่อง
แปลอย่างบ้าน ๆ และเข้าใจอย่างย่นย่อ Femme Fatale ก็คือผู้หญิงที่ใช้เสน่ห์ทางเพศ เรือนร่าง เข้ายั่วยวน ดึงดูด เพื่อผลประโยชน์ใหญ่ แบบเบ้าของตัวละครพวกนี้ ไม่ใช่นางอิจฉานมโต ที่เบ่งเสียงในละครหลังข่าวทีวี เพราะคนที่จะเป็นอะไรแบบนี่ มักมีความลึก นิ่ง เพื่อเล่นงานเหยื่อ และเหยื่อของพวกเธอก็มักเป็นเพศชาย ที่มาหวังเคลมเรือนร่างเธอนั่นแหละ
ตัวอย่างของ Femme Fatale ที่คลาสสิก ก็เช่นนางร้ายลึกในหนังพวกนี้ Body Heat ปี 1981, Double Indemnity ในปี 1944, หรือที่ผมชอบสุดก็คือ The Lady From Shanghai ปี 1947 ของออร์สัน เวลส์ ที่ฉากกระจกอันลือลั่นตอนท้ายเรื่อง โดนนำมาก๊อปเป็นสิบ ๆ เรื่อง หนังตระกูลนัวร์แบบนี้ มีมาตลอดทุกปีก็จริง แต่ยุคคลาสสิก อยู่ในช่วงทศวรรษที่ 40
เคยมีน้องคนหนึ่งมาถามว่า ถ้ายุคคลาสสิกของงานตระกูลนี้คือทศวรรษที่ 40 นั่นแสดงว่า พวกนางตัวร้าย ขายเสน่ห์ทางเพศ มีมาเกือบ 100 ปีแล้ว ความเข้าใจนี้ไม่ถูกต้องนัก เพราะมันนานกว่านั้นมาก อย่างน้อยที่สุด ก็มากถึง 400 ปี
แถม Femme Fatale ที่มาก่อน อยู่ต้นทาง ในศตวรรษที่ 17 นี้ โดยส่วนตัวยังเป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์แบบ ร้ายที่สุดในบรรดานางตัวร้ายสายนี้ ตัวละครนางนี้อยู่ในปี 1623 โดยเป็นเมียของ แม็คเบธ ซึ่งคนที่เรียนสายละครมา หรือติดตามพวกบทละครของ วิลเลียม เชคสเปียร์ น่าจะไม่ต้องแนะนำอะไรมาก เรารู้จักกันดีว่า เธอคือ เลดี้ แม็คเบธ!
ซึ่งชื่อหลังนี้ เพิ่งจะมีออกมาทำเป็นหนังเวอร์ชั่นล่าสุด และทำออกมาเป็น DVD ขายในบ้านเราเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ยังไม่ได้ดู แต่คิดว่าคงเป็นพวก Spin Off คือจับเอาส่วนหนึ่งของหนัง มาทำเป็นหนังอีกเรื่อง ตีความกันใหม่ มองกันตามมุมของคนทำ เลดี้ แม็คเบธ ก็คือเมียของนักรบชนะสงคราม พอเดินทางกลับ แม็คเบธ ได้พบแม่มดสามตน ทำนายว่าจะได้เป็นอัศวิน และจะได้เป็นกษัตริย์ในที่สุด
อันที่จริงตัว แม็คเบธ เป็นคนจิตใจดี แต่เมื่อคำทำนายของเหล่าแม่มดดันเป็นจริง คนที่ไม่มองแค่ผัวเป็นอัศวิน ก็คือเมียของเขา และในช่วงเวลานั้นเองที่กษัตริย์ดันแคนจะเดินทางมาเยี่ยมเยียนเขาแถมพักค้างที่บ้านของเขา เมียแม็คเบธ ก็เสนอให้ผัวรักลอบฆ่าเสียเลย เพื่อจะได้เป็นราชันคนต่อไปทันที
แน่นอนว่า แรก ๆ แม็คเบธ ไม่เห็นด้วยและไม่กล้า...แต่ด้วยความร้ายลึกของ เลดี้ แม็คเบธ เธอหว่านล้อม และวางแผนอำมหิต ให้ผัวรักนักรบลงมือฆาตกรรม จนในที่สุดเธอก็ได้ครองบัลลังก์เป็นเมียกษัตริย์ ก่อนที่ตัวเธอและสามีจะถูกกรรมตามสนอง โดยไม่ต้องมีใครมาล้างแค้น เพราะความรู้สึกผิดบาป กลัว มันเกาะกุมและค่อย ๆ ฆ่าเธอกับสามีเอง
เมื่อครั้งเป็นบทละคร ผมเคยได้ดูตอนอยู่อังกฤษปี 1997 ไปงาน Frienge Fest ที่เอดินเบอระ หรือตอนทำที่คณะอักษร จุฬาฯ การดีไซน์ตัวของ เลดี้ แม็คเบธ เด่นชัดที่คอสตูม ชุดแดงเพลิงร้อนแรง มงกุฎแหลมคมดุจแม่มด รวมทั้งงาน Lighting สลัวมัวหม่น ขับเน้นความร้ายของเธอได้อย่างไม่ต้องตีความ
เธอร้ายกว่า โลลิต้า และมากกว่า Femme Fatale ทุกเรื่องในหนัง
แต่อย่างที่เรียน เมื่อบริบทสังคมเปลี่ยนแรง รูปแบบ เบ้าหลอม ของ Femme Fatale แบบเดิม ๆ ในอดีต 300-400 ปี ก็อาจจะไม่มีในยุคนี้ ทว่าเป็นการปรับเปลี่ยน อาจจะเป็นเลขาหน้าห้อง เสนอตัวให้ CEO เพื่อหวังหุ้นบริษัท หรือที่ใหม่จริง ๆ ก็คือ Film Noir ในปี 1996 ที่ชื่อ Bound
ซึ่งตัวละครที่มีโครงสร้างเก่าคือหญิงเล่นงานชาย ผ่านมือที่สามคือชาย จับชายกับชายมาฆ่ากันเอง แล้วหอบเงินหนี ไปกับชู้รัก หรือมีผัวแก่แสนรวย แล้วล่อชู้หนุ่มมาฆาตกรรม โดยเสนอเรือนร่างให้...พอมาถึงปี 1996 ก็กลายเป็น ทอมเล่นดี้ เพื่อจัดการผู้ชาย แบบว่าเพศชายไม่สำคัญ
ผู้ชายในหนังแนวนี้ เพศชายใน Film Noir จะไม่ใช่คนฉลาด ออกจะโง่ ๆ และมึนงง โดยที่ “น้ำในหู” ไม่จำเป็นต้องเท่ากัน และนางตัวร้ายสาย Femme Fatale ที่คลาสสิก ๆ มักหนีรอด หนีคดีความผิด ไปได้ทุกที คุ้นมั้ย?