ชลดา เมฆราตรี

ชลดา เมฆราตรี

เก๋ ชลดา เมฆราตรี ปัจจุบันเธอยังคงทำงานอยู่ในวงการบันเทิง ซึ่งทำมาตลอด 22 ปี ทำมาแล้วหลายอย่างในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นนางแบบ นักแสดง (ละครและภาพยนตร์) พิธีกร ฯลฯ ด้วยบทบาทการเป็นประธานมูลนิธิ The Voice เสียงจากเรา สรรพเสียงเพื่อสรรพสัตว์ ทำให้เธอกลายเป็นไอคอนในการช่วยเหลือสัตว์โลกที่โดนทารุณกรรม และเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้สาวสวยที่เป็นจิตอาสาไปโดยปริยาย

“มูลนิธิ The Voice เสียงจากเรา เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญค่ะ เพราะตอนปี 2554 ที่บ้านเราเกิดวิกฤตอุทกภัยน้ำท่วมครั้งยิ่งใหญ่ของกรุงเทพมหานคร เก๋ก็ลงพื้นที่เป็นจิตอาสา ซึ่งตอนแรกเราก็ไปช่วยเหลือคนยากไร้หรือคนที่กำลังลำบาก ก็เอาเสบียงไปช่วยเค้า ช่วยไปช่วยมาก็เห็นว่ามีสัตว์เลี้ยงที่ถูกทอดทิ้งตามบ้านเรือนมากมาย ในสังคมไทยมีมูลนิธิต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือคนเยอะแล้ว แต่มูลนิธิที่ช่วยเหลือสัตว์โดยตรงยังมีน้อยมาก นับตั้งแต่วันนั้นเก๋ก็เริ่มเป็นกระบอกเสียงเล็ก ๆ ทำให้สังคมไทยหันมาสนใจสรรพสัตว์ยากไร้ สัตว์มีเสียงก็จริงแต่เขาไม่สามารถสื่อสารกับเราได้ จนกระทั่งปี 2555 ก็เลยทำเรื่องราวจดทะเบียนมูลนิธิ The Voice เสียงจากเราค่ะ ก็เริ่มจากตรงนั้นมาถึงวันนี้

“เก๋ถูกสอนและปลูกฝังมาตั้งแต่เล็ก ๆ ว่าการจะทำอะไรก็ตามจะต้องไม่ทำความเดือดร้อนให้กับคนอื่นคนเรามักคิดว่าจะทำความดีอย่างไรดี เอาง่าย ๆ เลยว่าหยุดทำความไม่ดีแล้วรึยัง อะไรที่คุณไม่ชอบก็พึงสังวรณ์ว่าคนอื่นก็คงไม่ชอบเช่นกัน การทำความดีของเก๋คือการเบียดเบียนผู้อื่นให้น้อยที่สุดหรือไม่เบียดเบียนเลยอันนี้สำคัญค่ะ

“เก๋ไม่คิดเลยว่าสิ่งเล็ก ๆ ที่เก๋ทำ จะกลายเป็นสิ่งที่สังคมไทยให้ความสนใจ ให้ความเมตตาเชื่อถือ เก๋อยากจะบอกคนรุ่นใหม่ว่าสิ่งที่เก๋ทำเป็นเพียงแค่ส่วนเล็ก ๆ เท่านั้นเองในสังคมไทย เก๋เชื่อว่าในสังคมไทยยังต้องการอีกหลาย ๆ ส่วน ในการทำความดี ทำอะไรก็ได้จริง ๆ นะคะ จะช่วยเหลือคน สัตว์ หรือการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ธรรมชาติป่าเขา ลำเนาไพร ได้หมดเลย

“The Voice เสียงจากเราของเก๋เป็นเพียงกระบอกเสียงแรก เป็นด่านแรกเท่านั้น ความภูมิใจของเก๋คือเห็นเขามีชีวิตที่ดีขึ้น หรือเห็นน้อง ๆ หนู ๆ หรือเยาวชนทุกคนพูดว่าอย่าทำร้ายสัตว์นะ เกิดการรับรู้ในสังคมและใน Social Media สร้างความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ในสังคมไทย ซึ่งกลายเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่และเป็นกระบอกเสียงต่อ ๆ กันไป

“เลข 9 อยู่ในหัวใจของพวกเราทุกคน นั่นก็คือพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดในโลกนี้แล้วที่จะดูแลใส่ใจทุกข์สุขประชาชน แม้กระทั่งสรรพสัตว์ต่าง ๆ ท่านยังใส่ใจโคกระบือที่สวนจิตรลดา ทรงตรัสว่าถ้าไม่ได้ใช้งานเค้าแล้วก็ดูแลเค้าให้ดี เก๋ได้ยินเจ้าหน้าที่หลายคนเล่าสู่กันฟัง เก๋ปฏิญาณกับตนเองว่าอยากทำความดีให้ได้เสี้ยวหนึ่งของพระองค์ เท่านั้นก็เป็นอันสุขใจ

“เพราะฉะนั้นถามว่าใครที่เป็นแบบอย่างของการให้อย่างไม่มีสิ้นสุด ให้โดยไม่หวังผลตอบแทนจนเห็นคนที่เรามอบให้ เขาได้มีรอยยิ้ม มีความเป็นอยู่ในชีวิตที่ดีขึ้น ก็คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ของเราค่ะ เก๋ตอบได้เลยว่าประทับใจพระจริยวัตรของท่าน ทุกสิ่งทุกอย่างการกระทำของท่าน บ่งบอกถึงการเป็นผู้ให้ การเป็นหัวหน้าครอบครัว ผู้นำของประเทศ การเป็นประมุขของพวกเรา พระองค์ทรงเป็นตัวอย่างที่ดีของการปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหัวหน้าครอบครัว การเป็นคุณพ่อที่ดี การเป็นลูกชายที่ดีของสมเด็จย่า การเป็นคู่ชีวิตที่ดีของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถของเรา ท่านทรงเป็นตัวอย่างที่ดีในทุก ๆ ด้านอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเสียสละ การให้ หรือแม้กระทั่งการเป็นตัวอย่างที่ดีในการอบรมสั่งสอน ท่านมีทุกอย่างที่ดีที่เราจะกราบไหว้ต่อจากพระพุทธเจ้าค่ะ

“กว่า 70 ปีเต็มที่เรารู้ว่าท่านทำงานหนัก แม้จะไม่รู้ว่าท่านทำงานหนักมากขนาดนี้ ในหนึ่งปีลองดูบริษัทพวกเราปีหนึ่งมีสักกี่โครงการ แต่ในหลวงของเราท่านมีโครงการใหม่ ๆ ที่จะช่วยเหลือพัฒนาสิ่งแวดล้อม ช่วยเหลือคนยากไร้ พัฒนาถิ่นทุรกันดาร ปีหนึ่งมากกว่า 1,000 โครงการ เก๋คิดว่าเก๋คงเล่าความดีของท่านไม่หมด เก๋คิดว่าน้อง ๆสามารถนำท่านไปเป็นตัวอย่างที่ดีมาก ๆ เก๋เชื่อว่ามีน้อยคนมากที่จะเป็นวีรบุรุษ อย่างในหลวง รัชกาลที่ 9 ของพวกเรา”

รอยทำแห่งความดี