ราณี แคมเปน
นักแสดงสาวที่กำลังมาแรงเพราะผลงานที่โดดเด่น รวมไปถึงการวางตัวที่ดี ดังเช่นในเรื่องของความกตัญญู เพราะจะเห็นสาวเบลล่า ราณี แคมเปน คอยดูแลคุณแม่อย่างดีมาตลอด รวมทั้งเป็นคนรุ่นใหม่ที่เชื่อในเรื่องของการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
“ความดีสำหรับเบล คือการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น และทำด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ค่ะ ภายนอกอาจจะเห็นว่าเบลเป็นลูกครึ่ง แต่เบลเป็นคนเชื่อในเรื่องธรรมะมาก เชื่อในเรื่องของการทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว และเป็นคนที่กลัวในเรื่องของการทำความผิด ดังนั้นหลักในการใช้ชีวิตของเบลคือ ถ้าเรามีความดียึดเอาไว้ ความดีจะชนะทุกสิ่ง เวลาที่เผลอทำไม่ดี ก็จะมีความดีคอยดึงสติกลับมาค่ะ
“เรื่องราวที่ประทับใจของเบลเป็นเรื่องที่เล็กมากเลยนะคะ แต่ถึงวันนี้ก็ยังจำได้ดีและรู้สึกดีทุกครั้งเป็นเรื่องตอนเด็ก ๆ ที่เบลนั่งรถเมล์ไปเรียนหนังสือ และนั่งติดกับคุณป้าท่านนึง แล้วคุณป้าเขาไม่สบายไอหนักมาก บังเอิญว่าเบลมีลูกอมอยู่ในกระเป๋าเลยให้คุณป้าไป เขาก็ดีใจมาก คุณป้าคงไม่คิดว่าจะได้น้ำใจจากคนอื่นบนรถเมล์ค่ะ ก็เป็นเรื่องราวเล็ก ๆ ที่ประทับใจถึงทุกวันนี้ บุคคลที่เบลยกย่องคือคุณพ่อของเบลเองค่ะ เมื่อก่อนท่านเป็นนักธุรกิจทำงานอยู่ต่างประเทศ ก็เคยย้ายไปอยู่อังกฤษช่วงหนึ่งแต่พอครอบครัวตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทย ก็มีเบลที่นี่ และท่านก็มาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษค่ะท่านสอนให้กับเด็กหลายคนมาก แม้คนที่ไม่ได้เรียนตามคอร์สหรือเด็กที่ไม่มีเงิน ท่านก็สอนให้ฟรี แล้วบอกทุกคนว่าใครอยากเรียนก็สามารถมาเรียนได้ เป็นสิ่งที่เบลเห็นมาตลอดเพราะท่านสอนที่บ้านแล้วเบลก็ประทับใจที่ท่านเป็นคนจิตใจดีค่ะ
“เบลรู้จักพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวง รัชกาลที่ 9 จากหนังสือที่คุณพ่อคุณแม่ซื้อให้ค่ะ ชื่อหนังสือ ‘บ้านของฉัน วังจิตรลดา’ ซึ่งเป็นวังของในหลวงแต่พอเปิดไปเราจะเห็นแต่แปลงนา แปลงเกษตร มีทดลองเลี้ยงโคนม คือท่านใช้บ้านของท่านเป็นที่ทดลองเพื่อพัฒนาให้คนในประเทศมีอาชีพที่ยั่งยืน ต่อชีวิตของพวกเขาไปได้ มันไม่ใช่แค่ว่าพื้นที่ตรงไหนเดือดร้อนแล้วท่านเอาเงินทุนไปให้ แต่ท่านสร้างอาชีพและในขณะเดียวกันก็เป็นนักทดลอง ใช้บ้านของตัวเองทดลองเพื่อปวงชนชาวไทยด้วย
“คำกล่าวที่ว่า ‘ทำชั่วแล้วได้ดีมีถมไป’ เบลว่าไม่จริงค่ะ บางคนที่เขาทำไม่ดี เราอาจคิดว่าเขาดูมีความสุข ในใจเขาอาจร้อนรุ่มก็ได้ แต่คนที่ทำความดี เขาก็จะดีใจและมีความสุขกับสิ่งที่ทำ เบลยังเชื่ออีกค่ะว่าคนที่ทำไม่ดี สักวันหนึ่งก็จะได้รับผลกรรม แต่หากว่าเราทำดีแล้วกลายเป็นข้อครหาของคนรอบข้าง ก็ต้องทำใจค่ะ เราไม่สามารถควบคุมความคิดของทุกคนได้ คนที่คิดแบบนั้นแสดงว่าเขามีอคติ เราแค่มั่นใจในสิ่งที่ทำและทำต่อไป เบลว่าบางครั้งไม่ต้องไปฟัง เพราะมันบั่นทอนและไม่ได้ประโยชน์ ฉะนั้นทำใจและมองข้ามค่ะ “ความดีที่ทำได้ง่าย ๆ ในทุกวัน เบลอยากให้ทำดีกับคุณพ่อคุณแม่ค่ะ เพราะท่านเปรียบเสมือนพระในบ้านและเป็นคนใกล้ตัวเราที่สุด พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวง รัชกาลที่ 9 เป็นแบบอย่างให้กับเบลในเรื่องของความกตัญญู เพราะไม่ว่าท่านจะทำงานหนักหรือเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน แต่เมื่อใดที่สมเด็จย่าต้องเข้าโรงพยาบาล ท่านก็จะดูแลข้าง ๆ ไม่ห่าง เป็นภาพที่เบลเห็นแล้วทำให้คิดว่า ในหลวงท่านมีลูก ๆ ให้ดูแลทั้งประเทศ และทรงงานหนัก แต่ท่านไม่เคยละเลยพระในบ้านเลย ดูแลสมเด็จย่าดีมาก ทำให้เบลเองที่ไม่ว่าจะถ่ายละครหรือทำงานหนักขนาดไหน ก็ต้องหาเวลาดูแลคุณพ่อคุณแม่ตลอดค่ะ”