ครูสลา คุณวุฒิ

ครูสลา คุณวุฒิ

นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ ครูสลา คุณวุฒิ นักแต่งเพลงชื่อดัง (แนวลูกทุ่ง) เราจะได้ยิน เพลงที่ครูสลาแต่งออกมาผ่านนักร้องซึ่งมีเพลงดังออกมามากมายอาทิเช่น ยาใจคนจน, ปริญญาใจ, ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้, กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง ฯลฯ เพลงเหล่านี้เองออกมาจากจินตนาการและประสบการณ์ ที่หล่อหลอมจากชีวิตของครูสลาที่เดินตามเส้นทางผู้เจริญด้านสติและถูกต้องมาโดยตลอด 

“ถ้าพูดถึงเรื่องของความดี ในความหมายของผมคือการดูแลตัวเองให้แข็งแรงพอที่จะให้ตัวเองและคนรอบข้างมีความสุข ในขณะเดียวกันอยากจะแบ่งปันเพื่อหยิบยื่นให้โอกาสคนที่ด้อยกว่า การได้ปฏิบัติแบบนี้รู้สึกว่าเป็นแนวทางแห่งความดีที่ดูแลตัวเองไม่ให้เป็นปัญหาของส่วนรวมในขณะเดียวกันก็ช่วยเหลือแบ่งปันสังคมตามกำลังของตัวเอง

“สมัยก่อนตอนที่รับราชการครู ผมกลับมาคิดดูแล้วประทับใจในการเป็นครูสลา คือทำให้คนอื่นมีรอยยิ้มที่ได้อยู่กับเด็กๆ บางครั้งเราได้อยู่กับเด็กเล็กในห้องหนึ่งที่มีนักเรียนเพียง 6-7 คน แต่ทุกครั้งที่ได้อยู่กับพวกเขาโดยเฉพาะช่วงพักกลางวันยังเป็นภาพในความจำเสมอ ก็คือได้นั่งกินข้าวใต้ร่มไม้กับเด็ก ผมเห็นเด็กเตรียมข้าวมากินแบบที่ไม่รู้จะอยู่ในเมนูไหน แต่มันก็มาจากครอบครัวของพวกเขามันเหมือนเป็นรอยจำดีที่ให้กับเด็ก ๆ ที่ผมได้อยู่เคียงข้าง นี่คือเรื่องเล็ก ๆ ที่เป็นความสุขและเป็นความดีอย่างหนึ่ง

“ในขณะเดียวกันอาจเรียกได้ว่าในวันที่เรามีขีดความสามารถหรือมีศักยภาพมากขึ้น เราก็ยังเอาวิธีการเดิมกลับไปหาเด็ก ๆ ที่เขาโหยหาโอกาส ผมก็ได้จัดตั้ง กองทุน ‘ศิลปินครูบ้านป่า สลา คุณวุฒิ (กคส.)’ ขึ้น ก็มีเพื่อนพ้องครูบาอาจารย์ เราก็ได้กลับไปตามโรงเรียนต่าง ๆ ที่มีการติดต่อไปออกค่ายวรรณกรรม ‘จุดประกายความใฝ่ฝัน เพาะเมล็ดพันธุ์วรรณกรรม’ ตรงนี้เองเราได้มีโอกาสไปสู่จุดที่ตัวเองได้ก้าวข้ามมา อย่างน้อยที่สุดเราได้ไปสร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเขาได้สร้างรอยจำที่แข็งแรงให้กับเด็ก ๆ ครับ

“แม้ว่าเราจะทำโครงการต่าง ๆ ออกมา แต่ผมไม่ได้เฝ้ามองในมิติที่ว่าจะทำดีแล้วไม่ได้ดีหรือทำชั่วได้ดี แต่อยากให้ทุกคนเชื่อในความดี เพราะความดีบางครั้งอาจจะยังไม่เห็นในทันที อย่างเช่นเราทำงานหนักอยากมีรายได้สูง ซึ่งบางครั้งมันอาจไม่ได้อย่างนั้น แต่ทุกครั้งที่ทำดีแล้วได้กลับคืนมาก็คือเราได้ความสบายใจได้ความสุข ผมจึงเชื่อในความดีอยู่แล้วไม่ว่าจะทำดีหรือไม่ก็ตาม ถ้าหากมีคำว่าสร้างภาพขึ้นมาเกี่ยวข้องมันเหนื่อย ก็อยากให้มาจากใจจากความบริสุทธิ์ ในการทำความดี มากกว่า

“ตัวผมเองอาจจะเรียกว่าได้รับพลัง ได้รับแนวทางในการดำเนินชีวิตจากต้นแบบที่ดีอย่างพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ผมมองว่าเราควรยึดมั่นความดีแล้วทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์ เพราะฉะนั้นทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจะด้วยจากคนอื่นหรือเราตั้งใจเองก็แล้วแต่ ควรยึดมั่นให้ทุกอย่างอยู่ในกรอบที่เรียกว่าความดีแล้วทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์เป็นเบื้องต้น ถ้าทุกครั้งที่เราทำหน้าที่ตรงนี้เราจะรู้สึกว่าเราได้เดินตามรอยเท้าของพระองค์ท่าน

“ที่ผ่านมาพระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงทำมีมากมาย แต่ที่ผมประทับใจคือท่านทำสิ่งเหล่านั้นเพื่อคนอื่น ผมมองว่าถ้าเรามีความแข็งแรงพอก็อยากจะเจริญรอยตามแบบนั้นเราอยากจะคิดเพื่อคนอื่นได้ทำเพื่อคนอื่นตามเรี่ยวแรงของตัวเอง ผมขอเรียกว่าสิ่งนี้แรงบันดาลใจสำคัญ ที่พระองค์ได้บอกกับเราโดยอ้อม ๆ คือการทำเพื่อคนอื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน “กลับมาย้อนมองตัวเราเองกับสิ่งที่พระองค์ได้ทรงทำเอาไว้เพื่อพวกเรา วิธีที่ง่ายที่สุดในการทำความดี ผมแนะนำให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดแค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ”

รอยทำแห่งความดี