รวิศ หาญอุตสาหะ
หลังจากที่ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเก่าแก่อย่าง “ผงหอมศรีจันทร์” มีการรีแบรนด์ ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สะท้อนออกมาจากยอดขายที่มากกว่าเดิมหลายเท่าตัว การจะปรับโฉมแบรนด์สินค้าให้คนยอมรับไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยวิสัยทัศน์ความสามารถของคุณรวิศ หาญอุตสาหะกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่สามของบริษัท ก็ทำให้แบรนด์ผงหอมศรีจันทร์ ยกระดับออกมาเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศได้อย่างภาคภูมิ
“บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด ในสมัยก่อนเมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบันอัตตราการเติบโตต่างกันเกือบ 20 เท่า ในช่วงเวลาไม่กี่ปีเราเติบโตเยอะมาก จึงไม่ใช่เรื่องง่ายต้องใช้ความพยายามในการทำงาน ต่อสู้กับปัญหาหลายอย่างเพราะถ้าทำตามแบบเดิมที่ทำ ๆ กันมาเราคงไม่มาอยู่ตรงจุดนี้ได้
“ในอดีตเครื่องสำอางไทยมักถูกตีราคาที่ค่อนข้างต่ำ ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าถ้าต้องจ่ายในราคาแพง สู้ไปซื้อของที่มาจากเมืองนอกจะดีกว่าข้อนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่เราจะต้องก้าวข้ามไปให้ได้ และต้องยอมรับว่าเมื่อก่อนคนเห็นแบรนด์ของเราจะไม่มีความเชื่อมั่นเพราะ เราขายของในราคาที่ต่ำเพียง 10–20 บาท ซึ่งการที่จะก้าวข้ามมาขายของในราคาหลายร้อยบาทได้ เราต้องมีในสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ กระบวนการหลายอย่างที่จะไปให้ถึงตรงนี้เราต้องทำเยอะมาก”
ธุรกิจเครื่องสำอางมีส่วนแบ่งการตลาดที่ค่อนข้างสูง ทำให้มีคนหน้าใหม่สนใจเข้ามาสู่ธุรกิจนี้ค่อนข้างมาก เพราะเริ่มต้นทำได้ไม่ยาก แต่การจะทำเครื่องสำอางคุณภาพดี และพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าอยู่ในตลาดได้นานนั้นมีน้อย เพราะต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างในการทำธุรกิจ ทำให้คนเข้ามาทำแล้วประสบความสำเร็จมีไม่มากนัก
“การจะยืนระยะในวงการเครื่องสำอางให้ได้ อันดับแรกต้องทำของให้ดีจริงซึ่งมันต้องใช้เวลาและใช้ทุนค่อนข้างเยอะ ต้องใช้ความไม่ยอมแพ้ของคนทำด้วยอย่างเราบอกว่าจะเอาคุณภาพ 100% แต่ลงมือทำจริงมันได้แค่ 90% ทำมานานครึ่งปี บางคนรอไม่ไหวก็ยอมออกสินค้ามาก่อน ถ้าคนไหนไม่ยอมแพ้สินค้าจะดีกว่าคู่แข่งนิดหนึ่ง แต่นิดหนึ่งตรงนี้แหละสำคัญ เพราะว่าผู้บริโภคสมัยนี้เขาแยกแยะออกแล้วบอกต่อ ในธุรกิจเครื่องสำอางเราจึงเห็นคนที่เข้ามาใหม่แล้วออกไปตลอดเวลา คนที่ยืนอยู่ในตลาดจริง ๆ มีน้อย
“อันดับที่สองต้องมีการตุ้นผู้บริโภคตลอดเวลา มีการออกสินค้าใหม่ ๆ บ้าง หรือไม่ก็มีแคมเปญเพื่อให้ผู้บริโภคนึกถึงเราอยู่ตลอดเวลา อย่างน้อยมันก็มีอะไรใหม่มาให้ลอง อย่างที่สามเราต้องมั่นใจว่าสินค้าเราดีจนที่คู่แข่งเลียนแบบได้ยาก เช่นการคัดใช้วัตถุดิบที่ดี เครื่องสำอางศรีจันทร์ใช้วัตถุดิบที่ค่อนข้างแพงมาก มีน้อยรายที่ลงทุนใช้ของคุณภาพขนาดเรา คือมันต้องหาจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองให้เจอ เราต้องเข้าใจว่าเราจะไปขายใคร เครื่องสำอางทุกยี่ห้อไม่สามารถขายทุกคนได้ เราต้องรู้จักลูกค้าของเราแล้วรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ให้เหนียวแน่น พอมีลูกค้ากลุ่มนี้ก็จะมีคนซื้อตลอดไม่ได้หายไปไหน
“กลยุทธ์ของเราปีหนึ่งจะออกสินค้าไม่กี่ตัว แต่ว่าเราจะเลือกสิ่งที่เราทำแล้วให้สินค้าดีจริง ๆ คืออยู่ได้เป็น 10 ปี ไม่ใช่ออกมาแล้วอยู่แค่ไม่กี่ปี เพราะฉะนั้นวิธีการพัฒนาสินค้าหรือการออกแบบ ถ้าไม่ดีที่สุดเราจะไม่เอาออกมา มันใช้เวลานานมากกว่าจะพัฒนาสินค้าแต่ละตัวให้มีคุณภาพมากที่สุด
“ปัจจุบันเรากำลังปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ให้มันอินเตอร์ขึ้นไปอีก เราก็หวังว่าแบรนด์เราจะเป็นผู้เล่นในระดับเอเชีย สำหรับคนต่างชาติถ้ามาเมืองไทยต้องนึกถึงแบรนด์ของเรา โดยในปีนี้เราจะมีการรีแบรนด์อีกครั้งหนึ่งและมีการออกโปรดักส์ใหม่ เปลี่ยนภาพลักษณ์ให้ดูเป็นอินเตอร์มากขึ้น
“สำหรับคนที่อยากทำธุรกิจยุคนี้เป็นยุคที่ดีที่สุดที่คนจะเริ่มต้นทำกิจการของตัวเอง เพราะว่าเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ มันมีเยอะมากโดยเฉพาะเทคโนโลยีอย่างโซเชียลมีเดีย ซึ่งสมัยก่อนต้องใช้เงินมหาศาลในการทำ แต่ปัญหาคือเพราะความง่ายของการทำธุรกิจมันจึงมีคนทำเยอะ พอคู่แข่งเยอะก็ทำให้หาความแตกต่างได้ยาก ข้อสำคัญมันไม่ใช่การเริ่มต้นแต่มันคือการอยู่ได้ให้มีกำไร ตรงนี้เป็นเรื่องยาก ซึ่งเรื่องพวกนี้มันต้องมาจากความตั้งใจจริง คนส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จที่ผมเห็นคือคนที่เอาจริงมาก ๆ คือสู้ตาย เรื่องของทุนมันเป็นเรื่องที่สำคัญก็จริงแต่น้อยกว่าเมื่อก่อน เพราะถ้าคุณมีไอเดียและเก่งจริง ๆ เดี๋ยวจะมีคนเอาเงินมาให้เองเพราะโลกมันเปิดมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญคุณต้องมีความตั้งใจจริงในการทำสิ่งนั้น ตรงนี้แหละมันเป็นคุณสมบัติที่จะทำให้คนประสบความสำเร็จ”
Did you know?
• จบการศึกษาปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
• ปริญญาโท Vanderbilt University, Nashville TN วิชาเอก Finance Career Highlights
• นอกจากนี้เขายังเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจให้กับองค์กรต่าง ๆ และเป็นนักเขียน โดยมีหนังสือ Marketing Everything ! / คิดจะไปดวงจันทร์ อย่าหยุดแค่ปากซอย และ มาร์เก็ตติ้งลิงกลับหัว