ถูกหรือผิด

ถูกหรือผิด

รถก็ติด อากาศก็ร้อน ยิ่งรวมกับบรรยากาศรอบข้างที่ไม่เป็นใจอาจส่งผลให้การตัดสินใจทำอะไรสักอย่างร้อนตามไปด้วย ยิ่งอยู่ในช่วงเวลาเร่งรีบ ก็อาจทำให้ตัดสินใจกระทำอะไรผิด ๆ ลงไป เหมือนอย่างกรณีของ โป้ง นักจัดรายการวิทยุชื่อดัง

โป้ง เข้าวงการวิทยุมาตั้งแต่เรียนจบ เขามีจุดเด่นคือน้ำเสียงที่ฟังแล้วรื่นหู รวมไปถึงหน้าตาที่หล่อเหลา ทำให้มีสาว ๆ หลายคนล้อมหน้าล้อมหลังอยู่เป็นประจำแต่หน้าตาดี บุคลิกเด่น ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลยสักทีเดียว เพราะมีอารมณ์ร้อน เขามักจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่เป็นประจำ ไม่เว้นแม้แต่กระทั่งบนท้องถนนเมื่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถยนต์

เรื่องราวคงไม่ใหญ่โตเอิกเกริกหากวันนี้ Social Media ในยุคที่สื่อบนโลกออนไลน์สามารถรายงานสด ๆ ได้วินาทีต่อวินาที ยิ่งมือถือแทบทุกเครื่องมีคุณสมบัติสามารถถ่ายภาพได้ ทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว ก็ยิ่งทำให้เรื่องราวต่าง ๆ เดินทางเร็วพอ ๆกับแสงเลยก็ว่าได้

วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่รถติดมาก จะด้วยเพราะฝนใกล้ตก หรือทุกคนพร้อมใจกันออกมาเดินทางนอกบ้านก็ไม่อาจทราบเหตุผลได้ ทำให้โป้งที่ต้องไปถึงที่นัดหมายในอีกไม่กี่นาที ต้องหงุดหงิดกับสภาพการจราจรอย่างยิ่ง และสถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก เมื่อเพื่อนร่วมถนนยกไฟเลี้ยวเพื่อขอทางเบียดเข้ามาในช่องทางของเขา แถมยังเปิดกระจกออกมาชักสีหน้าใส่และส่ายหน้า เมื่อเขาไม่ให้ทางทำให้เขาเกิดอารมณ์ไม่พอใจและตัดสินใจเดินลงจากรถไปพร้อมกับพูดว่า “มึงส่ายหน้าทำไม”

เก้ง เจ้าของรถที่เบียดเข้ามา : นี่คุณ ผมขอแทรกเข้าไปหน่อยเดียว ทำไมคุณต้องมากั๊กกันด้วย ไม่มีน้ำใจเลยว่ะ

โป้ง    :    กูไม่ให้แล้วจะทำไม

เก้ง    :    ก็ไม่ทำไมหรอก ขับรถบนท้องถนนก็ต้องรู้จักมีน้ำใจบ้าง

เถียงกันไปสักพักยิ่งทำให้อารมณ์ของโป้งพลุ่งพล่านเขาตัดสินใจเดินกลับไปที่รถและเข้าเกียร์ถอยหลังแล้วขับไปที่รถยนต์ของเก้งทันที จากนั้นเขายังไม่ยอมเข้าเกียร์เดินหน้าแต่กลับถอยหลังมาชนซ้ำอีกครั้งทำให้รถยนต์ของเก้งเสียหายจนไม่สามารถขับได้ แต่เมื่อมีคนเข้ามาสอบถามเขากลับตอบตรงกันข้ามกับการกระทำ

โป้ง : เขาขับรถเบียดเข้ามา ผมก็ไม่ให้เข้า แล้วเขาก็ลงจากรถมาเพื่อจะทำร้ายผม ดีที่มีพลเมืองดีช่วยผมไว้ ไม่อย่างนั้นผมแย่แน่ ๆ พอผมจะออกรถ เขาก็ขับรถมาชนท้ายผมอีก เจอคนแบบนี้ในสังคม แย่จริง ๆ ครับแต่ในปัจจุบันนอกจากกล้องวงจรปิดที่มีอยู่บนท้องถนนเป็นจำนวนมากแล้ว ยังมีกล้องติดหน้ารถของบุคคลอื่นอีกทำให้เห็นภาพที่ปรากฏออกมาอย่างชัดเจนว่าเป็นโป้งที่เป็นผู้กระทำต่อเก้งให้เกิดความเสียหาย  เจ้าพนักงานตำรวจจึงแจ้งข้อหา และดำเนินคดี

Q    :    เอาละครับ จากกรณีที่เกิดขึ้น โป้งจะต้องรับผิดต่อเก้งอย่างไรบ้าง
A    :    จากข้อเท็จจริงดังกล่าว การกระทำของโป้งไม่ใช่เป็นการประมาท ทำให้ทรัพย์สินของเก้งเสียหายแต่อย่างใด ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก 

แต่การกระทำของโป้งเป็นการเจตนาโดยเล็งเห็นว่าเมื่อตนเองขับรถชนรถของเก้งสามารถทำให้ทรัพย์สินของเขาเสียหายได้ ด้วยเหตุดังกล่าว โป้งจึงมีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358

ส่วนหลังเกิดเหตุโป้งยังใส่ความเก้งต่อบุคคลที่สามอีกว่า เก้งจะเข้าทำร้ายและเป็นฝ่ายชนท้ายรถของตนเอง ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้เก้งเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง โป้งยังมีความผิดฐานหมิ่นประมาทอีกหนึ่งกระทง ตามประมาลกฏหมายอาญามาตรา 326

ในสังคมที่ต้องการผู้ที่มีความละอาย มีวินัย และเคารพกฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่กลับกันถ้าคนส่วนใหญ่มองเห็นการละเมิดกฎหมายเป็นเรื่องธรรมดา และไม่ละอายต่อการกระทำผิด สังคมก็จะพบแต่ความวุ่นวายสับสนและในที่สุดอาจจะเกิดความสูญเสียทั้งทรัพย์สินหรือแม้กระทั่งชีวิตและร่างกายก็ได้ 

ประมวลกฎหมายอาญา


มาตรา 326 ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะ ทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือ ปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 358 ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น หรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

WORD OF WISDOM

กฎหมายก็เหมือนดาบสองคมซึ่งสามารถทำร้ายทั้งคนดี และคนร้ายได้เช่นกันถ้าผู้รักษากฎหมายไม่มีจิตใจเที่ยงธรรม นิติธัช

 

สำคัญที่เจตนา