กว่าทศวรรษมาแล้วที่ Toyota Hilux Vigo โลดแล่นอยู่บนท้องถนนเมืองไทย และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าจนครองยอดขายเป็นอันดับที่ 1 มาโดยตลอด จนถึงปัจจุบัน Hilux REVOรถกระบะน้องใหม่ล่าสุดจากพี่ใหญ่ในวงการอย่างโตโยต้า จะสร้างมาตรฐานใหม่บนท้องถนนเมืองไทยได้มากน้อยแค่ไหน มาดูกันครับ

รูปร่างหน้าตาภายนอก ครึ่งคันในด้านหน้า ไม่เหมือนรถกระบะเอาเสียเลย ลดความดุดันของความเป็นกระบะลงไปเยอะ จนบางท่านบอกว่าเป็นรถเก๋งยกสูงเลยก็มี ซึ่งจุดนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์พอสมควร มากพอที่จะทำให้เก้าอี้ของทีมออกแบบสั่นคลอนกันเลยทีเดียว และในด้านหน้าที่เปลี่ยนเสียจนจำหน้าตาเก่าไม่ได้ แต่ในด้านท้ายรถนั้นกลับไม่ได้เปลี่ยนอะไรเท่าไหร่นัก จนถ้ามองผิวเผิน อาจจะคิดว่า “วีโก้” ตัวเก่าวิ่งผ่านไปก็เป็นได้ ส่วนภายในนั้น อันนี้ขอชมเป็นการส่วนตัว เพราะออกแบบมาได้หรูหรา สวยงามมาก อุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็ให้มาครบถ้วน เรียกได้ว่ารถเก๋งมีอะไร “รีโว่” ก็มีแบบนั้น

Hilux REVO มีเครื่องยนต์ดีเซลใหม่มาให้เลือก 2 ขนาดด้วยกันนั่นก็คือขนาด 2.4 ลิตร และ 2.8 ลิตร ซึ่งจะมาแทนเครื่องยนต์เก่าในขนาด 2.5 ลิตร และ 3.0 ลิตรตามลำดับ ซึ่งทางโตโยต้าเคลมว่าเครื่องยนต์ใหม่ทั้งสองบล็อกจะประหยัดน้ำมันกว่าของเก่าประมาณ 10% ส่วนแรงม้า-แรงบิด นั้นดีกว่าเดิม ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจของเครื่องยนต์นั้นมีหลายจุดด้วยกัน ทั้งการเพิ่มแรงดันน้ำมันให้สูงขึ้น เพิ่มรูของหัวฉีดมากขึ้น พร้อมทั้งปรับปรุงระบบเทอร์โบแปรผัน และ EGR วาล์วเป็นต้น ซึ่งที่กล่าวมานี้ เป็นปัจจัยที่ทำให้เครื่องยนต์มีกำลังที่มากขึ้น โดยใช้ขนาดของเครื่องยนต์ที่เล็กลง ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นด้วย

ด้านระบบส่งกำลัง โตโยต้าเลือกใช้ทั้งเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เพื่อรองรับแรงบิดมหาศาลของเครื่องยนต์ พร้อมถ่ายทอดกำลังลงสู่ล้อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเกียร์อัตโนมัติปรับจูนระบบควบคุมอิเลกทรอนิกส์ใหม่ เพื่อให้ตอบสนองต่อคันเร่งได้ดีขึ้น ในขณะที่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ออกแบบจานกดคลัทช์ใหม่ ช่วยลดแรงเหยียบคลัทช์ลงได้มาก นอกจากนี้ยังมีระบบ iMT (intelligentManual Transmission) เป็นระบบที่ช่วยรักษารอบของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับเกียร์ เพื่อให้อัตราเร่งที่ต่อเนื่อง

การทดลองขับในครั้งนี้ ใช้เส้นทางในหลายหลายรูปแบบครับ ทั้งในสนามแข่ง สนามออฟโรด หรือแม้แต่บนถนนจริง เห็นได้ชัดเลยว่า Hilux REVO ได้รับการพัฒนาช่วงล่างขึ้นมาอย่างมาก ผิดหูผิดตาจาก ไฮลักซ์ วีโก้ ด้วยการปรับโครงสร้างตั้งแต่แชสซี ระบบกันกระเทือน หรือแม้แต่จุดยึดต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดการควบคุมรถที่ง่าย มั่นใจ และแม่นยำในทุกการเข้าโค้ง ถึงแม้จะมีอาการของการโยนตัวอยู่บ้างในรุ่นยกสูง แต่ก็ยังสามารถควบคุมได้ แต่ในบ้างช่วงที่ถนนขรุขระนั้น ช่วงล่างแสดงอาการออกมาให้รู้สึกถึงความเป็นหลุมเป็นบ่อของพื้นถนนในบ้างเราอยู่บ้าง แค่ก็ยังน้อยและรับได้มากกว่า ไฮลักซ์ วีโก้ แต่น้ำหนักของพวงมาลัยอาจจะหนักไปสักนิดสำหรับท่านผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก

ในส่วนของสมรรถนะเองนี่ก็หายห่วงครับ เพราะขนาดเครื่องที่เล็กลงอย่าเครื่อง 2.4 ลิตรก็ไม่ได้น้อยหน้าใครในตลาดแล้วยิ่งประกบเข้ากับเกียร์ธรรมดาชุดนี้ด้วยแล้ว จัดจ้านพอดูเลยครับ แต่ถ้าเป็นเกียร์ออโต้ก็ลดความจัดจ้านลงมาหน่อย แต่ยังคงอัตราเร่งที่ลื่นไหลและต่อเนื่องได้เป็นอย่างดีครับ ส่วนถ้าเป็นเครื่องยนต์ 2.8 ลิตรเกียร์ออโต้นั้น แรกเริ่มเดิมทีคิดว่าน่าจะเกรี้ยวกราด แต่พอเอาเข้าจริงกลับไม่แสดงอาการเฉกเช่นรถแรงให้ได้เห็น ลื่นไหล และไปได้อย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ย่านความเร็ว ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเพราะเกียร์ออโต้ก็เป็นได้ครับ

Toyota Hilux REVO มีให้เลือกถึง 3 ตัวถัง 33 รุ่นย่อยด้วยกัน โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 569,000–1,139,000 บาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรถในเชิงพาณิชย์เป็นหลัก ซึ่งนั้นก็เป็นจุดประสงค์ของรถยนต์ประเภทนี้อยู่แล้ว แต่หากใครจะซื้อเอาไว้ใช้เป็นรถส่วนตัวก็ไม่ว่ากัน แต่หาจะซื้อตัวท็อปสุดเป็นรถประจำครอบครัวนั้น ลองหันไปมองรถ SUV หรือ PPV ดูบ้างก็ได้นะครับ ราคาใกล้เคียงกัน และรถจะตรงกับวัตถุประสงค์ของผู้ใช้เสียมากว่า

Tip & Trick ระวังหน่อย เวลาลอกฟิล์ม

การลอกฟิล์มที่กระจกบานอื่น ๆ ก็คงไม่มีปัญหา แต่ให้ระวังมากที่สุดก็คือกระจกบานหลัง เพราะที่กระจกจะมีทั้งไล่ฝา หรือในบางรุ่นจะมีเสาสัญญาณวิทยุติดอยู่ด้วย หากขาดขึ้นมา และอยากแก้ไขให้เหมือนเดิม อันนี้ต้องเปลี่ยนกระจกยกบานกันเลยนะครับ