EDITOR’S PAGE
ได้ซึมซับสัมผัสบรรยากาศของความหนาวเย็นอย่างเต็มที่ของกรุงเทพฯ ที่หลายคนรวมถึงผมด้วยโหยหาเพราะสาเหตุอันเกิดจากสภาพอากาศแปรปรวนแต่ก็ยินดีต้อนรับครับ ถึงแม้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านภูมิอากาศบางท่านจะให้ความเห็นว่าสิ่งที่หลายท่านคิดว่าเป็นความผิดปกติในวันนี้ก็คือ ความปกติในช่วงเวลาเมื่อ 30-40 ปีก่อนก็ตาม
ผมว่าในวันนี้ นอกจากสภาพอากาศที่ดูผิดปกติ สังคมปัจจุบันก็สะท้อนได้ถึงอะไรบางอย่างอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เพราะการแสวงหาความเชื่อมากกว่าสัจธรรมแห่งความจริงที่พระพุทธองค์ทรงได้โปรดแสดงธรรมสั่งสอนมนุษย์โลกมากว่า 2,500 ปีแล้ว กลับถูกบิดเบือนและพยายามปลูกฝังความเชื่อเพื่อแผ่ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น หากความเชื่อเหล่านั้นสามารถหยั่งรากลึกจนทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาแล้วก็น่าเป็นห่วง
ความผันผวนผกผันที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทำให้ผมคิดถึงเพลง Dust In The Wind ของ Kansas เพราะฝุ่นละอองที่ล่องลอยอยู่ในอากาศหากมีจำนวนมากก็ทำให้มองเห็นภาพที่ปรากฏได้ไม่ชัดหรือมองไม่เห็นเลยก็ได้ เปรียบได้ดั่งจิตใจของมนุษย์หากวันใดขาดสติซึ่งเป็นผู้อารักขาคุ้มครองจิตใจ ให้ประพฤติตามครรลองครองธรรมแล้วสังคมก็คงเข้าสู่สภาวะความป่วยอย่างแน่นอน แต่ผมก็ยังมีความเชื่ออยู่เสมอว่าแม้ช่วงเวลาของผงฝุ่นละอองธุลีที่ล่องลอย อาจจะทำให้เรามองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ไม่ชัด แต่นั่นก็คือผงฝุ่นที่ล่องลอยอยู่ในอากาศและต้องจางหายไปในที่สุด เมื่อสติกลับมาทุกคนก็จะได้เห็นแสงสว่างแห่งความเจิดจรัสที่ไม่ได้เห็นเพียงแค่ตา แต่รับรู้ได้ด้วยใจครับ
ชโลทร ศิวารัตน์
บรรณาธิการบริหาร