ครอบครัวของผมนั้น เป็นอีกครอบครัวหนึ่งที่นิยมและชื่นชอบในกีฬากอล์ฟ โดยเฉพาะคุณพ่อผมนั้นจะโปรดปรานเป็นพิเศษ เลยมีผลให้ลูก ๆ ทุกคนต้องหัดกอล์ฟเพื่อที่จะตีเป็นเพื่อนคุณพ่อได้ และกลายเป็นคนที่ชอบกีฬากอล์ฟไปในตัว

ผมเป็นคนหนึ่งที่ตีกอล์ฟและดูกอล์ฟมาตั้งแต่เด็ก จำความได้ประมาณตั้งแต่ 7-8 ขวบ โดยในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ นิค ฟัลโด้ เป็นโปรกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลก มีคู่ต่อสู้ที่ขับเคี่ยวกันเป็นทั้งเพื่อนรักและคู่ปรับอย่าง เจ้า “ฉลามขาว” เกรก นอร์แมน ผมดูมาเรื่อยจนถึงช่วงยุคเปลี่ยนผ่านมาเป็น “พญาเสือ” ไทเกอร์ วู้ด มีคู่ปรับอย่าง เดวิด ดูวัล, ฟิล มิคเคลสัน, เซอร์จิโอ การ์เซีย, ลี เว้สวู้ด หรือ คอลิน มอนต์โกเมอรีย์ จนมาเป็น รอลี่ แมคอิลรอย ในปัจจุบัน 

ผมติดตามดูการขับเคี่ยวของเหล่ายอดฝีมือกอล์ฟเหล่านี้มานาน แต่ผมรู้สึกได้ว่ามีสิ่งหนึ่งที่ผมตกหล่นไปเพราะผมเกิดไม่ทันยุคของสุดยอดนักกอล์ฟท่านนี้ แต่ผมกลับได้ยินชื่อนักกอล์ฟท่านนี้มาตลอด ไม่ว่าจะฟังบรรยายจากต่างชาติ หรือจากผู้บรรยายไทย ก็มักจะมีการกล่าวอ้างถึงนักกอล์ฟท่านนี้มาโดยตลอด 

เขาเป็นชายที่เป็นเจ้าของสถิติหลากหลายอย่าง เป็นชายที่ชนะรายการ PGA มากที่สุดคนหนึ่งของโลก และเป็นเจ้าของตำแหน่งนักกอล์ฟที่ชนะรายการ Major หลักสี่รายการ มากครั้งที่สุดในโลก ชายคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่ “แจ็ค นิคลอส” 

แจ็ค นิคลอส มีชื่อเต็มว่า “แจ็ค วิลเลี่ยม นิคลอส” เกิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม 1940 เจ้าของฉายาในวงการว่า “หมีทองคำ” อดีตนักกอล์ฟมืออาชีพชื่อกระฉ่อนโลกชาวอเมริกัน ผู้ที่ได้รับการยกย่องจากทั่วทั้งโลกว่าเป็นสุดยอดนักกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ด้วยผลงานการคว้ารางวัลเมเจอร์หลักถึง 18 รายการ โดยแบ่งเป็น 

รายการ The Masters: 1963, 1965, 1966, 1972, 1975, 1986
รายการ U.S. Open: 1962, 1967, 1972, 1980
รายการ British Open: 1966, 1970, 1978
รายการ PGA Championship: 1963, 1971, 1973, 1975, 1980

นอกจากนี้ใน 4 รายการหลักดังกล่าว แจ็ค ยังจบสกอร์ ในลำดับที่ 2 ถึง 19 ครั้ง และลำดับที่ 3 ถึง 9 ครั้ง ในระยะเวลา 25 ปีที่เขาลงเล่นทำการแข่งขัน การที่นักกอล์ฟคนหนึ่งจะชนะในรายการเมเจอร์สักครั้งในชีวิตนั้นเป็นเรื่องยากมากครับ เพราะด้วยความยากของสนาม และนักกอล์ฟมากฝีมือที่ทยอยกันเข้ามาแข่งขันกันในรายการนี้ 

นักกอล์ฟนอกจากจะต้องแข่งกับนักกอล์ฟท่านอื่นและแข่งกับสนามแล้ว ยังต้องแข่งกับตัวเองอีกด้วย ทั้งในเรื่องของความคงเส้นคงวา การวางแผน และการกำกับสติในการแข่งขัน สำหรับแจ็คที่สามารถชนะได้ถึง 18 ครั้งนั้นนับว่าเป็นโปรกอล์ฟมากฝีมือที่มีฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวาเป็นอย่างมาก ทีเดียว 

เรื่องราวของ แจ็ค นิคลอส นั้น นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสีสันของวงการกอล์ฟที่น่าติดตาม โดยในสมัยก่อนที่แจ็คจะเข้ามาในวงการสมัยนั้น อาร์โนล พาล์เมอร์ เป็นยอดนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลก ในปี 1958-1959 แจ็คชนะเลิศ ในรายการ US Amateur Championship สองปีซ้อน ซึ่งเป็นรายการสำหรับมือสมัครเล่น แต่การได้แชมป์สองปีซ้อน ทำให้แจ็คที่ยังเป็นมือสมัครเล่นในสมัยนั้น ตัดสินใจลงแข่งขันในรายการ U.S. Open ในปี 1959 (มือสมัครเล่นสามารถลงแข่งขันได้ แต่จะไม่ได้เงินรางวัล) ซึ่งในรายการนั้นเอง แจ็คสร้างความประหลาดใจด้วยการจบเป็นอันดับที่สอง รองแชมป์ โดยมีแต้มตามหลัง อาร์โนล พาล์เมอร์ เพียง 2 สโตรคเท่านั้น 

ชื่อของแจ็คเริ่มเป็นที่จับตามอง แต่หลังจากนั้นในปี 1962 เพียงปีแรกที่แจ็คได้เทิร์นโปรเป็นนักกอล์ฟอาชีพ เขาสามารถครองแชมป์ U.S. Open ได้ภายในปีนั้นเลย ตามด้วยแชมป์ Master, USPGA ในปีถัดมา 1963 และสุดท้ายชนะรายการ British Open ปี 1966, 1970, 1978 ทำให้กลายเป็นนักกอล์ฟระดับโลกอีกคนที่ชนะรายการใหญ่ครบทั้ง 4 รายการ ต่อจาก Gary Player, Ben Hogan และ Gene Sarazen และเป็นผู้เขี่ย อาร์โนล พาล์เมอร์ ออกจากตำแหน่ง และขึ้นเป็นนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกแทน 

มีนักกอล์ฟหลายท่านที่เป็นนักล่าเงินรางวัล มักจะตะลุยแข่งตามรายการต่าง ๆ ไปเรื่อย โดยไม่มีการวางแผน เพียงแค่ติดอันดับเงินรางวัลก็มากอยู่พอเลี้ยงตัวเองได้ แต่แจ็คไม่ใช่นักกอล์ฟทั่วไป แจ็คเป็นนักวางแผนชั้นยอด เขาจะเลือกลงแข่งในรายการสำคัญ ๆ เท่านั้น เพื่อทิ้งระยะให้ร่างกายได้มีการพักฟื้น เพราะเขาเชื่อว่าการตะลุยแข่งเหมือนนักกอล์ฟทั่วไปนั้นไม่มีประโยชน์ ไม่ได้รับชัยชนะ ร่างกายก็ล้า ดังนั้นการวางแผนลงแข่งขัน บวกเข้ากับร่างกายที่ได้รับการดูแลพักฟื้น จึงได้ทำให้แจ็คสามารถชนะรายการ PGA มากถึง 73 รายการ รองจาก ไทเกอร์ วู้ด (79) และ แซม สนี้ด (82) 

จากการวางแผนดังกล่าว ยังทำให้แจ็คเป็นเจ้าของสถิติ นักกอล์ฟที่มีอายุมากที่สุดในโลก ที่สามารถคว้าแชมป์ Major รายการหลักได้อีกด้วย โดยเขาสามารถคว้าแชมป์ รายการ The Masters ในปี 1986 ด้วยอายุ 46 ปี และนับเป็นรายการเมเจอร์ที่ 18 ที่เขาสามารถคว้าชัยมาครองได้ 

แจ็คนอกจากจะเป็นนักกอล์ฟแล้ว ยังเป็นนักออกแบบสนามกอล์ฟมากฝีมือ ในประเทศไทยก็มีหลากหลายสนามที่ได้รับการออกแบบโดยแจ็ค นิคลอส เช่นกัน 

ซึ่งเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงทราบกันดีในช่วงก่อนหน้านี้หลายคนมองว่าจะมีนักกอล์ฟคนใดบ้างที่จะสามารถมาลบล้างสถิติของ แจ็ค นิคลอส ได้ ทุกคนมองไปที่นักกอล์ฟอย่าง ไทเกอร์ วู้ด แต่ในช่วงปีดังกล่าวเกิดปัญหาหลายอย่างทำให้ไทเกอร์ถอนตัวจากรายการการแข่งขันออกไป ทำให้สถิติแชมป์เมเจอร์ของไทเกอร์หยุดอยู่ที่ 14 รายการ 

อย่างไรก็ตาม แจ็ค นิคลอส ก็ยังคงให้กำลังใจ และยังเชื่อว่าไทเกอร์เอง จะคืนฟอร์มและเป็นคนที่สามารถมาล้มสถิติของเขาได้ ซึ่งนี่แหละครับน้ำใจและความใจกว้างของยอดนักกีฬาที่หาได้ยาก 

และเมื่อไม่นานมานี้ แจ็ค นิคลอส ยอดนักกอล์ฟระดับตำนานวัย 75 ปี เจ้าของสถิติแชมป์เมเจอร์สูงสุด 18 รายการ ได้เข้ารับเหรียญ คองเกรสชันนอล โกลด์ ซึ่งเป็นเหรียญเชิดชูเกียรติชั้นสูงสุด ที่มอบให้กับพลเมืองสหรัฐ ในฐานะที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติมายาวนาน และประพฤติตัวเป็นแบบอย่างทั้งในและนอกสนาม ซึ่งเชื่อว่าไม่มีใครที่ไหนเหมาะสมเท่ากับเขาผู้นี้อีกแล้ว “แจ็ค นิคลอส”