เมื่อลมหนาวเริ่มพัดผ่าน…เป็นสัญญาณบอกว่าให้เตรียมแพคกระเป๋าเดินทางขึ้นดอย ไต่ภูเขา ถึงเวลาไปเที่ยวสูดลมหนาว ว่าแล้วก็ต้องเตรียมจดลิสต์สถานที่สุดคูลในหน้าหนาวไว้ เพื่อเป็นตัวเลือกจะได้วางแผนการเดินทางหาที่พักได้แบบสบายๆ การเตรียมพร้อมเป็นเรื่องที่ดีครับ และถ้าพร้อมแล้วเราขอแนะนำ 10 สถานที่สุดเจ๋ง ที่จะทำให้หน้าหนาวปีนี้ของคุณมีความสุขข้ามปีกันเลยทีเดียว

1.ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดพิษณุโลก เป็นป่าฝนที่สวยงามและธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีอากาศเย็นตลอดปี การเดินทางขึ้นดอยค่อนข้างลำบาก แต่เมื่อขึ้นไปถึงแล้วจะพบดอกไม้ป่าพันธุ์ต่างๆ จุดเด่นที่น่าสนใจที่มักจะดึงดูดใจของนักท่องเที่ยว คือน้ำตกภูสอยดาว เป็นน้ำตก 5 ชั้น และการผจญภัยขึ้นสู่ลานสนสามใบอันสวยงาม ซึ่งเป็นพื้นที่โล่งกว้างเหมาะสำหรับการกางเต็นท์นอนดูดาว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โทร.0-5543-6001 ถึง 2

2.ดอยเสมอดาว จ.น่าน
ดอยเสมอดาวมีพื้นที่เป็นลานกว้างตามสันเขา เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาดูดาว และดูพระอาทิตย์ขึ้น - ตก รวมทั้งสามารถชมทะเลหมอกได้แบบเอื้อมมือสัมผัส สมกับฉายาที่ว่า ดาวเสมอดอย ที่ดอยเสมอดาว ได้อย่างน่าประทับใจ สถานท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง คือผาหัวสิงห์ เป็นหน้าผาที่มีรูปร่างคล้ายสิงโตนอนหมอบ หันหน้าไปทางทัศตะวันออก สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ 360 องศา มีเส้นทางเดินสำรวจธรรมชาติ ให้ผู้รักการผจญภัยได้เพลินเพลินไปกับความงามของธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน โทร.0-5470-1106

3.ยอดเขาโมโกจู จ.นครสวรรค์ – กำแพงเพชร
ขุนเขาแห่งความหนาวเย็น ด้วยความสูง 1,964 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 27 กิโลเมตร ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม เพราะทางเดินขึ้นเขามีความลาดชันไม่ต่ำกว่า 60 องศา ใช้เวลาในการเดินทางไปกลับ 4 - 5 วัน และต้องพักแรมในป่าตามจุดที่กำหนด ควรศึกษาสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ และติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางจากอุทยานฯ ซึ่งเปิดให้เดินขึ้นยอดเขาโมโกจูในเดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ของทุกปี อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ โทร.0-5576-6436

4.ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์
เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ ซึ่งมีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขาป่าไม้เมืองหนาวและน้ำตก มีอากาศบริสุทธิ์ เย็นสบายตลอดปี จุดเด่นอยู่ที่การชมวิวได้ 360 องศา โอบล้อมด้วยไอหมอกที่ลอยอยู่รอบตัว มองเห็นดาวทั่วฟ้า และชาวบ้านที่ปลูกกะหล่ำปลีละลานตาเต็มภูเขา จะเบ่งบานสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน ของทุกปี ทำให้ไม่มีต้นไม้มาบดบังทัศนียภาพ จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยช่วงเช้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆและทะเลหมอกตัดกับยอดเขาเพชรบูรณ์ ถือเป็นอีกแห่งที่มีทะเลหมอกใกล้จุดกางเต็นท์เอามากๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.0-5681-0737

5.ภูลังกา จ.พะเยา
เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งเดียวของจังหวัดพะเยา บนยอดภูมีพื้นที่แคบจุได้ไม่เกิน 10 คน เป็นสันเขาแคบๆ ด้านตะวันตกเป็นป่าดงดิบ เขาด้านทิศตะวันออกเป็นหน้าผาสูงชันมีหญ้าปกคลุมและลมพัดแรง เมื่อขึ้นไปบนยอดดอยสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้าได้อย่างสวยงาม มีต้นไม้ขนาดใหญ่ ดอกไม้ป่า และพันธุ์ไม้หายากจำนวนมาก วนอุทยานภูลังกา โทร.08-1883-0307

6.ขุนช่างเคี่ยน จ.เชียงใหม่
ตั้งอยู่ในเส้นทางเดียวกับพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ และบ้านม้งดอยปุย เป็นจุดชมดอกพญาเสือโคร่งที่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่และอุดมสมบูรณ์มากที่สุด เพราะตลอดทางในช่วงฤดูหนาว เดือนธันวาคม - มกราคม เต็มถนนสองข้างทางของหุบเขา จะมองเห็นสีชมพูสดของดอกซากุระเมืองไทยแซมด้วยสีขาวของดอกท้อบานสะพรั่งเต็มไปหมด สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูง ขุนช่างเคี่ยน โทร.0-5394-4053

7.ภูป่าเปาะ จ.เลย 
นิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ฟูจิเมืองเลย” จุดชมวิวของภูป่าเปาะนั้น จะมีทั้งหมด 4 จุด ส่วนจุดยอดบนสุดสามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศาคือสามารถมองภูเขาได้รอบทิศทาง ซึ่งเป็นความน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากจุดบนสุดนี้สามารถชมพระอาทิตย์ได้ทั้งขึ้นและตกในจุดๆ เดียว คือ ไม่ว่าไปเช้าหรือเย็นก็ได้ชมบรรยากาศที่น่าประทับใจเช่นกัน ททท. สำนักงานเลย โทร.0-4281-2812

8.ดอยผ้าห่มปก จ.เชียงใหม่ 
ดอยผ้าห่มปก อยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก เป็นดอยที่สูงอันดับ 2 ของประเทศไทย บนยอดดอยมีทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่หนาวเย็นในฤดูหนาว อาจจะพบแม่คะนิ้งบนปลายยอดหญ้าในบางครั้ง สถานที่เที่ยวไฮไลท์ของที่นี่คือ ม่อนกิ่วลม ซึ่งเป็นบริเวณลานกางเต็นท์ใกล้เชิงดอยมากที่สุด สามารถมองเห็นดาวพราวเต็มฟ้าในตอนค่ำ และทะเลหมอกในยามเช้าได้ นอกจากนี้สภาพป่าเป็นป่าต้นน้ำ ป่าดิบเขา ซึ่งมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สมดุลและหลากหลายทางชีวภาพ ดังนั้นจะพบพันธุ์พืช สัตว์ป่าหายากนานาชนิด อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก โทร.0-5345-3517 ถึง 8

9.ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน
ดอยแม่อูคอ เป็นทุ่งดอกบัวตองที่มีพื้นที่ครอบคลุมประมาณ 1 พันไร่ดอกบัวตองที่นี่บานพร้อมๆ กันในช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม จะเหลืองอร่ามปกคลุมทั่วทั้งหุบเขา สวยงามมากทีเดียว สามารถเที่ยวแบบไปเช้า - เย็นกลับ หรือกางเต็นท์ค้างแรมบนยอดดอย ถ้าโชคดีอาจได้ชมการแสดงดนตรีพื้นบ้านของชนเผ่าท้องถิ่นที่มาสร้างบรรยากาศให้สนุกสนานเป็นพิเศษ ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร.0-5361-2982 ถึง 3

10.เขาช้างเผือก จ.กาญจนบุรี
เป็นชื่อของยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ มีความสูงประมาณ 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม น่าตื่นตา ทำให้นักเดินป่าทั่วไทยทั้งหน้าใหม่ หน้าเก่าปรารถนาจะได้มาพิชิตสักครั้งหนึ่งในชีวิต เส้นทางเดินไปสู่ยอดเขาช้างเผือก เป็นป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้า มีจุดเด่นของการเดินทางอยู่ที่ “สันคมมีด” สันเขาที่สวยงาม และน่าหวาดเสียวไปพร้อมกัน เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขา จะสามารถมองเห็นวิวได้รอบทิศทาง 360 องศา เปิดให้ท่องเที่ยวตั้งแต่ เดือนตุลาคม - กุมภาพันธ์ แห่งชาติทองผาภูมิ โทร.0-3453-2114