สำหรับเรื่องของฟุตบอลสิ่งที่น่าจะเป็นพระเอกในช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นฟุตบอลรายการยุโรปถ้วยใหญ่อย่าง “ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก” ในรอบแบ่งกลุ่มที่กำลังแข่งกันอยู่แบบอาทิตย์เว้นอาทิตย์ซึ่งคงไม่ต้องสาธยายให้มากความ เพราะคนดูฟุตบอลรู้อยู่แล้วว่าเป็นยังไงโดยเฉพาะแฟนทีมใหญ่ของแต่ละลีกดังทั้งหลาย
ทีมที่มีโอกาสเป็นแชมป์ฟุตบอลรายการนี้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นทีมจากลีกท็อปๆ ของยุโรปอย่าง ลาลีกา สเปนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ บุนเดสลีกา เยอรมัน ในขณะที่ทีมจาก กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี เป็นม้ามืดรวมถึงปารีส แซง แชร์แมง จากฝรั่งเศส (ที่ไม่บอกว่าจาก ลีกเอิง เพราะดูว่ามีปารีสทีมเดียวที่ศักยภาพพร้อมในการลุ้นแชมป์) ในรอบแบ่งกลุ่มหรือรอบ 32 ทีมสุดท้าย มีทีมจากแดนกระทิงดุมากที่สุดถึง 5 ทีม คือ บาร์เซโลน่า,เรอัล มาดริด, แอตฯ มาดริด, เซบีญ่า และ บาเลนเซีย ทีมจากเมืองผู้ดี 4 ทีมคือ แมนฯ ยูไนเต็ด, แมนฯ ซิตี้,อาร์เซน่อล และ เชลซี ทีมจากเมืองเบียร์ 4 ทีมคือ บาเยิร์น มิวนิค, โวลฟ์บวร์ก, เลเวอร์คูเซ่น และ มึนเช่นกลัดบัคทีมจากแดนมักกะโรนีแค่ 2 ทีมคือ ยูเวนตุส กับ โรม่า
ที่ตลกร้ายคือสนามที่ใช้แข่งในรอบชิงชนะเลิศฤดูกาลนี้อยู่ที่อิตาลี สนาม “จูเซ็ปเป้ เมียร์ซ่า” หรืออีกชื่อ ซาน ซีโร่ของสองทีมจากเมืองมิลาน อินเตอร์ มิลาน กับ เอซี มิลานแต่ทั้งคู่ดันไม่ได้เล่นฟุตบอลรายการนี้ในปีนี้ ทำให้ยังไงก็ไม่มีทีมที่ได้เล่นในบ้านตัวเองรอบชิงอย่างแน่นอน
รอบ 32 ทีมสุดท้ายแข่งแบบเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีมเล่นแบบเหย้าเยือนซึ่งดูเหมือนไม่ยากสำหรับบรรดาบิ๊กทีมของยุโรป แต่ก็ประมาทไม่ได้เพราะในอดีตมีหลายบิ๊กทีมเอาชื่อมาทิ้งไว้มากมายในรอบนี้เหมือนกัน
เริ่มจากกลุ่มเอ ประกอบไปด้วย ปารีส แซง แชร์แมง,เรอัล มาดริด, ชัคตาร์ โดเนตต์ และ มัลโม่ ต้องบอกว่าทั้งชัคตาร์กับมัลโม่ ซวยมากๆ ที่ดันมาอยู่กับสองเศรษฐีใหญ่ที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ดูแล้วปารีสกับมาดริดจูงมือเข้ารอบแน่นอน
กลุ่มบี ประกอบไปด้วย พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น, แมนฯยูไนเต็ด, ซีเอสเคเอ มอสโค และ โวลฟ์บวร์ก ดูแล้วลูกทีมของจอมปรัชญา หลุยส์ ฟาน ฮาล น่าจะเข้ารอบแน่และที่เหลือโอกาสพอๆ กันเลย กลุ่มซี ประกอบไปด้วยเบนฟิก้า, แอตฯ มาดริด, กาลาตาซาราย และ อัสตราน่าซึ่งขุนพลตราหมีโชคดีที่ไม่เจอทีมใหญ่ด้วยกันและน่าจะเข้ารอบไปได้ ส่วน เบนฟิก้า ที่เสียนักเตะไปหลายตัวกับ กาลาตาซาราย ก็คงต้องแย่งตั๋วอีกใบ และ อัสตราน่าบ๊ายบาย
กลุ่มดี ประกอบไปด้วย รองแชมป์เก่า ยูเวนตุส,แมนฯ ซิตี้, เซบีญ่า และ มึนเช่นกลัดบัค จะเรียกว่านี่เป็นกรุ๊ปออฟเดตก็ว่าได้เพราะแต่ละทีมศักยภาพไม่ห่างกันมากดูแล้วเรือใบสีฟ้าจากเกาะอังกฤษคงเอาตัวรอดได้ และยูเว่กับเซบีญ่าต้องแย่งกัน
กลุ่มอี ประกอบไปด้วย บาร์เซโลน่า, เลเวอร์คูเซ่น,โรม่า และ บาเต้ บอริชอฟ กลุ่มนี้แชมป์คงไม่พ้นพลพรรคนักเตะต่างดาวที่ดีกว่าใครเพื่อน ขณะที่นายห้างขายยากับหมาป่ากรุงโรมต้องแย่งตั๋วเข้ารอบอีกใบ และบาเต้มาประกอบรายการ
กลุ่มเอฟ ประกอบไปด้วยสองคู่ซี้ที่มาเจอกันในฟุตบอลรายการนี้ 5 จาก 6 ปีหลัง อาร์เซน่อล กับ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งจะเข้ารอบทั้งคู่ ปล่อยให้ โอลิมเปียกอส กับ ดินาโม ซาเกร็บแย่งตั๋วไปเล่นฟุตบอล “ยูโรป้าลีก” ในฐานะอันดับ 3 ของกลุ่ม
กลุ่มจี ประกอบไปด้วย เชลซี, ปอร์โต้, ดินาโม เคียฟและ มัคคาบี้ ไฮฟา ซึ่งลูกทีมของ โจเซ่ มูรินโญ่ ห้ามตกรอบดังนั้นอีกสามทีมที่เหลือคงต้องแย่งตั๋วเข้ารอบอีกใบอย่างสนุกสนานแน่นอน
สุดท้ายกลุ่มเอช ประกอบไปด้วย เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก,บาเลนเซีย, ลียง และ เกงค์ ดูแล้วเจ้าค้างคาวแห่งสเปนมีภาษีดีกว่าเพื่อนแต่ก็ไม่แน่เพราะทีมที่เหลือไม่เป็นรองมาก ทั้งทีมจากรัสเซียหรือฝรั่งเศส ทำให้กลุ่มนี้เดายากแต่ถ้าให้เลือก ขอเลือกค้างคาวกับเซนิต
ใครเป็นแฟนทีมไหน คงต้องจัดเวลาให้ดีเพราะฟุตบอลแข่งกลางดึกบ้านเรา แต่ถ้าจะให้นอนยาวแล้วตื่นมาดูผลคงเป็นอะไรที่ไม่สนุกกับฟุตบอลถ้วยที่ได้ขึ้นชื่อว่า มีทุกรสชาติและ “เสน่ห์ในตัวเอง” กับสีสันของคืนกลางสัปดาห์ครับ