ผมทำงานอยู่ในย่านทองหล่อครับ ทุกวันผมจะได้ยลรถสปอร์ตสุดหรูจำนวนมากอย่างชินตา เพราะมีขับกันให้เห็นเยอะเสียเหลือเกิน ทั้งหลากชนิดหลายยี่ห้อรถแบรนด์ดัง ผมมองรถเหล่านั้นไปด้วยความอิจฉาและความชื่นชม อิจฉาที่อยากได้อยากมีกับเขาบ้าง และชื่นชมที่ได้เห็นรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์เหล่านี้วิ่งให้เห็นตัวเป็นๆ ในเมืองไทย แม้ว่าถนนหนทางจะไม่อำนวยสักเท่าไหร่

และหนึ่งในรถซูเปอร์คาร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย ย่อมหนีไม่พ้นซูเปอร์คาร์ที่มีนามว่า Lamborghini รถสปอร์ตสัญชาติอิตาลี ด้วยสไตล์การออกแบบที่ดุดัน เครื่องยนต์ที่มาพร้อมแรงบิดและแรงม้าจำนวนมหาศาล และเสียงเบิ้ลเครื่องที่กระหึ่มเป็นเอกลักษณ์ แม้ว่าอาจจะมีให้พบเห็นในเมืองไทยไม่บ่อย แต่จากการบอกเล่าปากต่อปาก และการพูดคุยกันของคอคนรักรถ ต่างยกให้ Lamborghini คือที่สุดแห่งความนิยมในไทย 

ประวัติความเป็นมาตั้งแต่ก่อตั้งค่ายรถ Lamborghini นั้น ไม่ธรรมดาครับเพราะต้นกำเนิดของรถแบรนด์ดังกล่าวนั้นมาจากความคับแค้นคับอกคับใจของนาย Ferruccio Lamborghini ที่มีต่อ Enzo Ferrari เจ้าของแบรนด์คู่แข่งชื่อดังอย่าง Ferrari นั่นเอง  

โดยตัวนาย Ferruccio Lamborghini นั้นเกิดในครอบครัวชาวนา แต่เขามีความสนใจในเรื่องของเครื่องยนต์มาตั้งแต่ยังเด็ก โดยเขาได้ทดลองพยายามดัดแปลงเครื่องยนต์อย่างง่ายๆ ให้กับรถไถ หรือรถกระบะที่ใช้อยู่ในไร่สวนของเขามาตั้งแต่เด็ก ซึ่งคุณพ่อของ Ferruccio ได้เห็นความสามารถนี้ของลูกชาย และคิดว่ามันคงดีกว่าที่จะให้ความสามารถของลูกชายมาจมอยู่ที่ไร่นาของเขา คุณพ่อจึงได้ตัดสินใจส่งเสีย Ferruccio เรียนจนจบสาขาวิศวกรรมศาสตร์ อุตสาหกรรมจักรกล

ซึ่งหลังจากที่ Ferruccio เรียนจบได้ไม่นาน ก็ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นเขาได้เข้าไปรับใช้ชาติเป็นทหาร ทำงานให้กับฐานทัพอากาศของประเทศอิตาลี และหลังจากสิ้นสุดของสภาวะสงคราม เขาได้กลับมายังบ้านเกิด  และเริ่มต้นเปิดอู่ ซ่อมแซมรถแทรกเตอร์ของอิตาลี จนพัฒนาต่อเป็นจนก่อตั้งเป็นโรงงานแทรกเตอร์ ที่มีชื่อว่า Lamborghini Trattori S.p.A. ที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ กลายเป็นบริษัทผลิตรถแทร็กเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลีนั่นเอง 

สถานะทางการเงินของ Ferruccio เริ่มดีขึ้นจนเข้าขั้นเศรษฐี เขามีทุกอย่างในชีวิตที่เขาเคยขาด และเขาก็ยังไม่ละทิ้งความชอบในเครื่องยนต์ความเร็วของรถยนต์ในวัยเด็ก เขาเริ่มสะสมรถยนต์สปอร์ตแบรนด์ต่างๆ ที่มีต้นกำเนิดในช่วง ค.ศ.1950 - 1960 มาเพื่อเติมเต็มความต้องการในชีวิตของเขา 

ไม่ว่าจะเป็น Alfa Romeo, Maserati, Jaguar, Aston Martin, Corvette รวมไปถึงรถแบรนด์ Ferrari อีกด้วยวันหนึ่งในปี 1963 เขาได้ขับรถ Ferrari 250GT ซึ่งถือว่าโดดเด่นเป็นที่สุดในสมัยนั้น เขารู้สึกว่ารถ Ferrari มีปัญหาในช่วงครัช ทำให้ควบคุมตัวรถได้ยาก Ferruccio จึงได้ขับรถไปเข้าศูนย์และได้พบกับ Enzo Ferrari โดยตัว Ferruccio ได้อธิบายถึงความคับข้องใจ และปัญหาการควบคุมรถ Ferrariให้ Enzo ฟัง แต่กลับถูก Enzo ตอกกลับมาอย่างจังว่า“นายมันเป็นแค่คนทำรถไถโง่ๆ นายคงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสปอร์ตเลยใช่ไหมล่ะ” 

ด้วยประโยคเพียงแค่นั้น ก็ได้สร้างความคับข้องหมองใจให้กับ Ferruccio เป็นอย่างมาก เขาจึงได้มีแนวความคิดที่จะทำรถซูเปอร์คาร์ที่ดีกว่า เจ๋งกว่า Ferrari ให้ได้ เพื่อลบคำสบประมาทดังกล่าว เขาได้ระดมทีมวิศวกรเครื่องกล และทีมนักออกแบบรถที่เก่งที่สุดที่สามารถตามตัวมาได้ในขณะนั้นทั้งในประเทศอิตาลี และจากเยอรมัน มาสร้างจุดเริ่มต้นรถซูเปอร์คาร์ของเขา 

จากนั้นเพียง  4 เดือน รถยนต์แบรนด์ Lamborghiniก็ได้เปิดตัวสู่สาธารณะชนครั้งแรกในงาน Turin Auto Show กับรุ่น Lamborghini 350GTV และได้ติดตราเป็นรูปกระทิงดุซึ่งได้ต้นแบบมาจากรูปปั้นกระทิงทองแดงในกรุงมาดริด ประเทศสเปน ผนวกกับที่ Ferruccio นั้นเกิดราศีพฤษภด้วย ซึ่งเมื่อ Ferrari เป็นม้าผยอง Lamborghiniก็เป็นกระทิงดุประกาศสงครามกันอย่างโต้งๆ ไปเลย 

ในวันที่เปิดตัวนั้นรถคันดังกล่าวยังเป็นแค่ Model ขับเคลื่อนไม่ได้ เพราะ Ferruccio ยังคงหาเครื่องยนต์ที่เหมาะสมกับรถคันดังกล่าวไม่ได้ จึงวางอิฐไว้ในห้องเครื่องแทนและหลังจากนั้นไม่นาน Ferruccio ก็ได้ทำการหาเครื่องยนต์มาใส่ให้เจ้า Lamborghini 350GTV จนได้ และจากจุดเริ่มต้นนี้ก็ได้ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล บริษัท Lamboghini  ค่อยๆ ยกเลิกการผลิตรถไถสำหรับเกษตรกรรมออกไปทีละน้อยๆ และหันมาผลิตรถซูเปอร์คาร์อย่างเต็มตัว แต่ยังคงส่วนซ่อมบำรุงรถไถเอาไว้ให้กับเกษตรกรในประเทศอิตาลีที่จะมาซ่อมรถไถ 

ซึ่งการผลิตรถซูเปอร์คาร์ของ Lamborghini ก็ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นตัวแทนรถที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเร็ว ความแรง ความดุ เป็นคู่แข่งคู่ขนานชนิดที่เรียกว่าหนามแทงอกรถ Ferrari มาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน โดยรถLamborghini ไม่มีการทำสีเป็นสีแดง แต่ถ้าหากว่าต้องการสั่งทำชิ้นส่วนให้รถ Lamborghini มีสีแดง ท่านต้องจ่ายเงินเพิ่มครับ เพราะสีแดงเป็นสีสัญลักษณ์ของคู่อริสำคัญอย่าง Ferrari นั่นเอง 

โดยในปัจจุบันนั้น บริษัท Lanborghini ได้ถูกขายให้กับ Audi ซึ่งเป็นบริษัทในเครือโฟล์กสวาเกน (Volkswagen)แต่ทุกอย่างยังคงถือปณิธานของ Ferruccio เอาไว้มาโดยตลอดกาลไม่เปลี่ยนแปลงแม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปแล้วโดยเฉพาะเรื่องของการแข่งขัน Lamborghini มีวัตถุประสงค์ที่จะไม่เข้าร่วมรายการต่างๆ ตามปณิธานที่ว่า 

“I wish to build GT cars without defects - quite normal, conventional but perfect - not a technical bomb.” 

“ผมปรารถนาจะสร้างรถ GT ที่ไร้ข้อบกพร่อง  –  ดูธรรมดาได้มาตรฐาน แต่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่มีแต่เทคโนโลยี” 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการตัดสินใจจะเข้าสู่วงการแข่งขันหรือไม่อาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับปณิธานเพียงอย่างเดียว แต่อาจจะขึ้นอยู่กับทีมนักบริหารด้วย ในอนาคตเราอาจจะได้เห็น Lamborghini ลงแข่งขันรายการใหญ่ๆ รวมไปถึงอาจจะได้เห็นรถสูตร 1 ทีม Lamborghini ปะทะกันอย่างจริงจังกับทีม Ferrari ก็อาจเป็นได้ 

The Lamborghini กระทิงดุแห่งความแค้น