ชญาน์ทัต วงศ์มณี

ชญาน์ทัต วงศ์มณี

คุณท้อฟฟี่ “ชญาน์ทัต วงศ์มณี” ชายหนุ่มหน้าตี๋มาดเนี๊ยบผู้รักการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ เขามีอาชีพเป็น Communications Director ให้กับบริษัทโอกิลวี่ พับลิก รีเลชั่นส์ (Ogilvy Public Relations) ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณาชั้นนำที่ผลิตงานสร้างสรรค์ออกมามากมาย 

ความน่าสนใจของการทำงานในวงการนี้คือ การใช้ไอเดียต่อยอดความคิดไปเรื่อยๆ ไม่จำเจอยู่ในคอนเซ็ปต์เดิมๆ เขาทำหน้าที่ดูแลภาพลักษณ์ขององค์กร ลูกค้า และโปรดักส์ต่างๆ ชีวิตการทำงานของเขาจึงต้องคลุกคลี และปรับสภาพตัวเองให้เข้ากับแบรนด์สินค้านั้นๆ อยู่ตลอดเวลา 

“ความท้าทายของงานโฆษณาคือ ทุกอย่างมันมาจากอากาศ จากสิ่งที่เราคิดมันจะถูกใส่เข้าไปในคอมพิวเตอร์ แล้ววันหนึ่งเราทุกคนก็ทำให้มันเกิดขึ้นได้จริง มันเลยเป็นความสนุกตรงที่ว่าสิ่งที่ได้คิดหรือสร้างไอเดียใหม่ๆ ที่มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสามารถทำให้มันออกมาเป็นรูปร่างได้

“ผมเคยทำงานให้ลูกค้าแบรนด์หนึ่ง ซึ่งตอนนั้นเราได้ไอเดียมาว่าอยากทำสิ่งนี้ให้เป็นสถิติโลก คือต้องลงกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด โดยจะทำภาพเขียน 3 มิติที่ยาวที่สุดในโลก จากนั้นเรานำไปเสนอไอเดียกับลูกค้า พอเขาตอบตกลง
เราก็มานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรให้มันเกิดขึ้นได้จริง ก็ต้องได้รับความร่วมมือกับหลายฝ่าย เช่นศิลปินวาดภาพ 3 มิติ การติดต่อเจ้าหน้าที่กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ซึ่งมันเป็นงานใหญ่มาก พองานสำเร็จก็ทำให้แบรนด์นั้นมีภาพลักษณ์
ที่เป็นระดับโลกขึ้นมาทันที

“งานที่ผมทำจึงต้องติดต่อประสานงานกับคนเยอะมาก แต่อาชีพนี้มันสร้างมาเพื่อให้เราแก้ไขปัญหา ที่บริษัทจะสอนว่า คนที่เป็น Account Executives แบบผม ต้องมีคุณสมบัติ 3 อย่าง คือเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ต้องทำให้ทุกคนที่ร่วมงานกับเรามีพลัง ทำอย่างไรที่ให้พวกเขาฝ่าฟันอุปสรรคนี้ไปและมีความสุข อย่างที่สองต้องเป็นนักดับเพลิงเพราะมีปัญหาเยอะมาก อย่างที่สามคือเป็นนักจิตวิทยา เราต้องดูว่าทำอยางไรที่อ่านใจลูกค้าได้ เช่นเขาพูดแบบนี้แปลว่าอะไร หรือไม่สบายใจอยู่ 

“คนที่จะมาทำงานนี้จึงต้องมีความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ และมีไอเดียที่ต้องตอบโจทย์ลูกค้า ในขณะเดียวกันถ้ามุ่งตอบโจทย์ลูกค้าอย่างเดียวโดยไม่มีความคิดสร้างสรรค์งานจะไม่เวิร์ค เพราะฉะนั้นทั้งสองอย่างนี้ต้องทำให้เป็นมาสเตอร์พีซทั้งคู่” 

นอกจากเรื่องของงานประจำที่คุณท้อฟฟี่ได้ทำอยู่ อีกด้านหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขาคือ การเป็นนักเขียนโดยมีนามปากกาว่า “ท้อฟฟี่ แบรดชอว์” มีหนังสือออกมาหลายเล่ม เช่น จงเติมคันในช่องว่าง, ไซเบอร์ราคะ และที่กำลังวางแผงอยู่ในขณะนี้คือ มนุษย์สุดมโน

“หนังสือมนุษย์สุดมโน จะพูดถึงคนรอบตัวของเรามีทั้งเรื่องใกล้ตัวและไกลตัว ที่มีคอนเซ็ปต์อยู่ที่ว่าในหนึ่งวันเราต้องเจอคนมากมาย หรือทั้งชีวิตเราต้องเจอคนเยอะมาก แต่ละคนต้องมาพร้อมกับเรื่องราวบางอย่างที่ได้ปฏิสัมพันธ์กัน แล้วเราได้เรียนรู้อะไรจากเขาบ้าง เนื้อเรื่องอาจไม่ใช่มาจากการคุยกัน แต่มาจากการสังเกตโดยที่เขาไม่รู้เรื่องเลยก็มี

“สไตล์ของผมจะมีอารมณ์ขันที่ไม่ได้ตลกแบบฮา แต่เป็นแนวเสียดสี แต่ว่าทุกเรื่องจะมีการเสียดสีสังคมมากแค่ไหน ตอนจบมันต้องมีอะไรที่จะไปต่อยอดตรงนั้นได้ ซึ่งหลักการเขียนของผมอาจจะเข้ากับยุคสมัยหน่อย สมองผมจะมีไอเดียเยอะสุดคือตอนที่ออกกำลังกาย อย่างตอนที่ปั่นจักรยานในฟิตเนส ทุกวันพอผมไปเจอเรื่องอะไรมาก็จะใช้โทรศัพท์มือถือนี่แหละโน้ตเอาไว้ 

“มนุษย์สุดมโนเล่มนี้ถ้าใครอ่านแล้วจะได้ความสนุก หลังจากนั้นจะได้แรงบันดาลใจ ข้อคิดอะไรกลับไป โดยที่เราไม่ได้สอน แต่เป็นสิ่งที่เขาได้ตั้งคำถามกับตัวเอง สิ่งที่เห็นได้ชัดคือมนุษย์เรามีความหลากหลายแตกต่าง แต่มนุษย์ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้ และเข้าใจกันมากขึ้น การเข้าใจคนอื่นมันทำให้เราเข้าใจตัวเองได้ด้วย 

Know Him? 

•    คุณ ท้อฟฟี่ จบปริญญาตรีคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

•    งานอดิเรกของเขาคือ ออกกำลังกายในฟิตเนส และอ่านหนังสือ

The Creativity สมองและสองมือ