ราชวงศ์ชิงของจีนล่มสลายลงในปี 1912 เป็นการปิดฉากยุคสมัยที่กษัตริย์ครองอำนาจซึ่งสืบต่อกันมายาวนานหลายพันปีเข้าสู่สังคมประชาธิปไตยในระบอบสาธารณรัฐโดยการนำของ ดร.ซุนยัตเซน

สำนักพิมพ์ซางอู้อิ้นซูก่วน 商務印書館 เปิดดำเนินการเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 1987 เป็นโรงพิมพ์สมัยใหม่ที่เป็นทั้งสำนักพิมพ์และรับจ้างพิมพ์สิ่งพิมพ์ทั่วไปในนครซ่างไห่ปี 1987 สังคมจีนได้ก้าวสู่เทคโนโลยีการพิมพ์แบบใหม่มาช่วงหนึ่งแล้ว หนังสือเล่มและหนังสือพิมพ์แบบใหม่มีการพิมพ์ขายในวงกว้าง นอกจากจะพิมพ์หนังสือของตัวเองออกจำหน่ายแล้ว โรงพิมพ์ยังต้องรับงานพิมพ์จากบุคคลทั่วไปด้วย 

งานหนึ่งที่เป็นแหล่งรายรับสำคัญของโรงพิมพ์ซางอู้อิ้นซูก่วนคือการรับจ้างพิมพ์ปฏิทินและโฆษณา เนื่องจากช่วงเวลานั้นเป็นยุคแรกๆ ที่ระบบการพิมพ์แบบใหม่เข้ามาสู่ประเทศจีน งานบางด้านที่เกี่ยวข้องกับสิ่งพิมพ์จึงเป็นงานที่ทางโรงพิมพ์ต้องทำพ่วงด้วย การหางานเข้าป้อนโรงพิมพ์เป็นเรื่องสำคัญที่โรงพิมพ์ยุคนั้นไม่อาจเลี่ยง โรงพิมพ์ซางอู้อิ้นซูก่วนว่าจ้างพนักงานจำนวนหนึ่งเพื่อหาลูกค้าเข้าโรงพิมพ์ ในจำนวนพนักงานเหล่านี้ มีคนๆ หนึ่งซึ่งต่อมาจะกลายเป็นบุคคลสำคัญในแวดวงปฏิทินสาวงามของเซี่ยงไฮ้ เขาคือหังจื้ออิง 杭穉英 

หังจื้ออิง 杭穉英 (1900 - 1947) เป็นพนักงานมือดีที่หางานเข้าโรงพิมพ์ซางอู้อิ้นซูก่วนได้มาก เขาได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเนื่องจากเขาสามารถเขียนภาพร่างตามความคิดที่ลูกค้าอยากได้ให้เห็นแล้วกลับไปทำงานออกแบบลงรายละเอียดจนสำเร็จเป็นชิ้นงาน บรรดาลูกค้าจึงชอบติดต่องานกับเขา การที่เขาเป็นที่ไว้วางใจของลูกค้าจำนวนมาก ทำให้เขามองเห็นช่องทางใหม่ในการทำมาหากิน 

ในปี 1926 หังจื้ออิงจึงออกจากการเป็นพนักงานประจำของโรงพิมพ์มาเป็นคนรับงานอิสระ การออกมาตั้งสำนักงานรับงานออกแบบโฆษณาของหังจื้ออิง ถือได้ว่าเป็นการเปิดศักราชใหม่ของธุรกิจโฆษณาในประเทศจีน อาจกล่าวได้ว่าสำนักงานของหังจื้ออิงคือโปรดักชั่นเฮ้าส์อย่างเป็นทางการแห่งแรกในประวัติศาสตร์โฆษณาสมัยใหม่ของจีน

ก่อนหน้ายุคของหังจื้ออิง แวดวงโฆษณาที่เซี่ยงไฮ้ได้ก้าวสู่ความเป็นสมัยใหม่แล้ว เดิมภาพวาดโฆษณาอย่างที่นำมาพิมพ์เป็นปฏิทินสืบขนบจากภาพปีใหม่ 年畫 แบบเดิมมักเป็นภาพเกี่ยวกับตำนานวรรณคดี อาจเป็นนางฟ้า ตัวละคร
ในงิ้ว หรือเรื่องราวแปดเซียน วิธีการวาดยังเป็นแบบเดิม เมื่อฝรั่งเข้ามาค้าขายในเมืองเซี่ยงไฮ้ ตอนแรกใช้ภาพโฆษณาที่วาดแบบฝรั่ง แต่ไม่ได้รับความนิยม สินค้าไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายในวงกว้าง บริษัทบุหรี่เป็นกลุ่มแรกๆ ที่เริ่มใช้ภาพสาวงามเป็นของแจกของแถม จนทำให้ปฏิทินสาวงามของซ่างไห่แพร่หลายออกไปในวงกว้าง 

จิตรกรสำคัญในแวดวงปฏิทินสาวงามเซี่ยงไฮ้ที่เรื่องราวถูกเล่าขานราวตำนานมีอยู่ 3 คน คือ เจิ้งม่านถวอ 鄭曼陀(1881 - 1961), หังจื้ออิง 杭穉英 (1900 - 1947) และ เซี่ยจือกวัง 謝之光 (1900 - 1976)

เจิ้งม่านถวอ ถือเป็นผู้บุกเบิกเทคนิคการวาดภาพสาวงามในปฏิทิน  อันเป็นต้นธารของสไตล์สาวงามในปฏิทินเซี่ยงไฮ้ เขาใช้พื้นฐานการวาดแบบจีนผสมกับเทคนิคเฉพาะตัวที่เขาค้นพบสร้างความนวลเนียนของผิวเนื้อได้อย่างงดงามผลงานของเจิ้งม่านถวอเป็นที่ต้องการของผู้ว่าจ้าง แต่เนื่องจากผลงานแต่ละชิ้นต้องใช้เวลาในการสร้างสรรค์นาน จึงทำให้เขารับงานได้จำกัดเท่าที่กำลังของตนคนเดียวจะรับไหว คือรับงานได้เพียงปีละประมาณ 20 รูป มีคิวงานล้นไปล่วงหน้า 3 - 4 ปี

หังจื้ออิง 杭穉英 (1900 - 1947) ซึ่งเป็นจิตรกรและเป็นคนหางานเข้าโรงพิมพ์ซางอู้อิ้นซูก่วนมาก่อน นิยมชมชอบผลงานแบบเจิ้งม่านถวอ เขาไปเยี่ยมเยียนเจิ้งม่านถวอทุกสัปดาห์เพื่อหวังว่าจะได้เรียนรู้เทคนิคการวาดภาพแบบนั้นได้บ้าง แต่เจิ้งม่านถวอถือว่านี่เป็นความลับในการทำมาหากินจึงมิได้ชี้แนะสั่งสอนแต่ประการใด ครั้งหนึ่งหังจื้ออิงไปเยี่ยมคารวะเจิ้งม่านถวอเหมือนปกติที่เคยไป ด้วยจิตที่มุ่งมั่นอยากได้เทคนิควิธีการในการวาดภาพแบบนั้น หังจื้ออิงเป็นจิตรกรที่มีพื้นฐานทางศิลปะดีจึงพยายามสังเกตเครื่องมือเครื่องใช้ของเจิ้งม่านถวอ คราวนี้เขาบังเอิญเห็นผงถ่านสีสำหรับเขียนรูปชนิดหนึ่งจึงแอบจดจำไว้ เมื่อกลับไปแล้วเขาหาผงถ่านสีแบบนั้นมาทดลองบ้าง ปรากฏว่าสิ่งที่เขาคาดไว้นั้นถูกต้อง เจิ้งม่านถวอใช้สีชนิดนั้นเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างงานภาพวาดสาวงามของเขานั่นเอง 

เมื่อหังจื้ออิงสร้างสรรค์ภาพสาวงามด้วยเทคนิคการเขียนภาพแบบของเจิ้งม่านถวอได้สำเร็จ เขานำผลงานของตนกลับไปขอคำชี้แนะจากเจิ้งม่านถวอ เมื่อเจิ้งม่านถวอรับรูปนั้นมาดูแล้วนิ่งอึ้งไป เขาเอารูปนั้นเข้าไปพิจารณาในห้องส่วนตัวอยู่นาน เมื่อกลับออกมาเขาเอ่ยกับหังจื้ออิงว่าเขียนภาพได้สวยงามดี หังจื้ออิงค้นพบวิธีการเขียนรูปสาวงามแบบใหม่จากแนวของเจิ้งม่านถวอ แต่เขาไปไกลกว่าเจิ้งม่านถวอตรงการใช้สีได้สดใสกว่ามาก หังจื้ออิงเป็นคนหัวสมัยใหม่ เขาติดตามดูหนังฝรั่งจากฮอลลีวูด ในช่วงเวลานั้นวอลต์ ดิสนีย์ได้สร้างหนังการ์ตูนสีสดใสออกมากแล้ว หังจื้ออิงตื่นเต้นกับสีอันสดใสในหนังการ์ตูนของวอลต์ ดิสนีย์เป็นอย่างยิ่ง เขารับเอาอิทธิพลการใช้สีสดใสใส่ลงไปในภาพวาดสาวงามบนปฏิทินของเขาด้วย 

การปรากฏผลงานแบบใหม่ของหังจื้ออิง เป็นเสมือนคลื่นลูกหลังที่ซัดสาดคลื่นลูกเดิมอย่างเจิ้งม่านถวอซึ่งมีลักษณะเคร่งขรึม ราบเรียบ และการต้องรอคอยผลงานด้วยเวลายาวนานก็มีส่วนให้ผู้ว่าจ้างหันไปหาหังจื้ออิงอันมีส่วนเร่งให้งานของเขาคลายความนิยมลง นอกจากการเขียนสีได้สวยใสนวลเนียนแล้ว หังจื้ออิงยังใช้ความคิดทันสมัยของตนใส่เข้าไปในผลงาน เขาเป็นศิลปินที่กล้าลงทุนใช้อุปกรณ์ที่ดี กระดาษวาดรูปของเขาเป็นกระดาษสีน้ำนำเข้าเกรดสูงจากนอร์เวย์ 

เนื่องจากหังจื้ออิงมีคนว่าจ้างให้วาดภาพเยอะมาก ในปี 1925 เขาจึงหาคนมาร่วมงานโดยเปิดเป็นสตูดิโออย่างเป็นทางการขึ้นในเซี่ยงไฮ้ ถือเป็นโปรดักชั่นเฮ้าส์แห่งแรกของวงการโฆษณาจีน การทำงานของสตูดิโอหังจื้ออิงเป็นระบบแบ่งงานกันทำแบ่งผลประโยชน์ตามผลงาน ทีมงานของเขามีราว 40 คน สามารถวาดภาพขนาดใหญ่ได้ปีละราว 80 ภาพ ผลงานของหังจื้ออิงโดดเด่นและเป็นที่นิยมทั้งผู้ว่าจ้างและลูกค้าทั่วไป ปฏิทินรูปสาวงามยุคเซี่ยงไฮัที่เราคุ้นตานั้นหลายรูปเป็นผลงานของหังจื้ออิง