โต้ง บิ๊ก และหนุ่ม สามเกลอเพื่อนรักตั้งแต่วัยเรียน จนถึงวันนี้ทั้งสามคนก็เกือบจะเข้าหลักสี่แล้วแต่พวกเขาก็ยังไม่ทิ้งนิสัยหยอกล้อ ทั้งเล่นและแกล้งกันแรงๆ จนบางครั้ง ใครพบเห็นถึงกลับไม่อยากเชื่อว่าพวกเขาเป็นเพื่อนรักกัน

วันนี้ก็เช่นกัน พวกเขาตั้งวงร่ำสุรากันตามปกติ สนทนากันอย่างสนุกสนาน แต่ทุกครั้งต้องมีใครสักคนถูกแกล้ง ไม่เช่นนั้นการพบปะสังสรรค์ในครั้งนั้นก็จะไม่ครบอรรถรสของความสมบูรณ์ ซึ่งครั้งนี้ไม่ได้จบลงแค่ความสนุกสนานอย่างเช่นเคย แต่กลับสร้างความวุ่นวายให้พวกเขาไม่ใช่น้อย

โต้ง : นี่ก็ดึกมากแล้วกลับกันเถอะ ไอ้หนุ่มมันก็เมามากแล้ว

บิ๊ก : ก็ดีเหมือนกัน งั้นเอ็งขับรถไปส่งไอ้หนุ่มมันก่อนแล้วค่อยไปส่งข้าทีหลัง

เมื่อโต้งกับบิ๊กพาหนุ่มไปส่งที่บ้านกันเรียบร้อยก็พูดคุยกันว่าวันนี้ยังไม่มีใครตกเป็นเหยื่อให้แกล้งกันเลย ทันใดนั้นบิ๊กก็เหลือบไปเห็นรถป้ายแดงของหนุ่มที่จอดไว้หน้าที่พักของเขา

บิ๊ก : นึกออกแล้ว เดี๋ยวข้าจะขับรถไอ้หนุ่มกลับบ้านก็แล้วกัน เอ็งไม่ต้องไปส่งข้าแล้ว พอมันตื่นขึ้นมาต้องตกใจ และหารถคันใหม่หูตาแหกแน่ๆ เดี๋ยวพอมันโทรมาหาค่อยเอารถไปคืนมัน 

ทั้งสองหัวเราะกันอย่างชอบอกชอบใจ คิดว่าในที่สุดก็ถึงคิวของหนุ่มเพื่อนรักของพวกเขาจนได้ ระหว่างที่บิ๊กขับรถกลับบ้านก็พบกับด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และถูกโบกรถให้จอด

เจ้าหน้าที่ตำรวจ : เราได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าคุณขโมยรถมาจากหน้าบ้านของเพื่อนบ้านเขาที่จอดอยู่ติดกัน

บิ๊ก : เขาคงเข้าใจผิดแล้วล่ะครับ รถคันนี้เป็นของเพื่อนผมครับ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ : อย่างนั้นคุณต้องติดต่อเพื่อนคุณและให้เขานำคู่มือแสดงความเป็นเจ้าของรถมาแสดงด้วยนะครับ

บิ๊กพยายามติดต่อหนุ่มเท่าใดก็ไม่เป็นผลเพราะ เขาเมาหลับไม่รู้เรื่อง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ : ถ้าคุณไม่สามารถติดต่อเจ้าของที่คุณอ้างว่าเป็นเพื่อนคุณได้ ผมคงต้องควบคุมตัวคุณไว้ก่อนในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนนะครับ

Q : เอาล่ะครับ เมื่อเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ บิ๊กจะมีความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาหรือไม่

A : จากข้อเท็จจริงปรากฏว่า การที่บิ๊กเอารถของหนุ่มซึ่งเป็นทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยตั้งใจว่าแค่อยากแกล้งเพื่อนของเขาเท่านั้น มิได้มีเจตนาเอาไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่นแต่อย่างใด และเป็นการเอาไปชั่วคราวไม่เป็นการตัดกรรมสิทธิ์

การกระทำของบิ๊กจึงไม่เป็นการ เอาทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยทุจริต บิ๊กจึงไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์ ดังนั้นบิ๊กไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (1) 

การกระทำใดๆ ก็ตามหากไม่รู้จักกาลเทศะและพอสมควรแก่เหตุแล้ว อาจก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อผู้อื่นและตนเองได้อยู่เสมอ 

ประมวลกฎหมายอาญา    

มาตรา 334 ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวม อยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกพันบาท

มาตรา 335 ผู้ใดลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สองพันบาท ถึงหนึ่งหมื่นบาท