นิสสัน ประเทศไทย จัดกิจกรรมทดสอบรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด All New Nissan X-Trail กับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ จากเจ็นเนอเรชั่นก่อนหน้านี้ ที่ทั้งเหลี่ยม ทั้งบึกบึน สู่ความโค้งมน ที่หรูหรา และมีเสน่ห์ อีกทั้งยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 ขนาดให้เลือกด้วยกัน ทั้งเครื่องยนต์ใหม่ 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรจากลูกพี่ลูกน้องอย่าง “เทียน่า” ในเส้นทาง กรุงเทพฯ-เขาใหญ่
โดยรูปลักษณ์ภายนอก ด้านหน้าโฉบเฉี่ยวด้วยชุดโคมไฟรูปทรงเหลี่ยมแปลกตา พร้อมไฟเดย์ไทม์ รันนิ่งไลต์ ซึ่งประกอบด้วยชุดไฟแอลอีดีเต็มระบบ ทั้งไฟต่ำไฟสูงและไฟหรี่ ตัดกับเส้นสายบนตัวรถที่โค้งมน ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่น นุ่มนวล หรูหรา มากกว่าความเป็นสปอร์ต ความรู้สึกนี้ส่งผ่านไปถึงด้านข้าง และยาวไปถึงด้านหลัง ตัดอารมณ์ด้วยชุดไฟท้ายรูปทรงเหลี่ยมได้อย่างลงตัว
ภายในเรียบหรู ตั้งแต่การออกแบบ ไปจนถึงการเลือกใช้วัสดุ และโทนสีภายใน จนสื่อมวลชนหลายท่านบอกว่ามันแก่ไปหน่อย แต่ผมว่าเป็นแค่วัยรุ่นตอนปลายเท่านั้น เพราะนอกเหนือจากบรรยากาศภายในห้องโดยสารแล้ว New X-Trail ยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่แม้แต่คู่แข่งก็ยังไม่มี
เช่น สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านสมาร์ตโฟน รองรับทั้งระบบแอนดรอยด์และ iOS เมื่อลงทะเบียนตัวรถผ่านเว็บไซต์ของนิสสัน ซึ่งสามารถใช้แอพพลิเคชั่นยอดนิยมอย่าง Facebook และ Google Search ผ่านทางหน้าจอสัมผัสที่คอนโซลกลางได้ หรือแม้แต่การติดตั้งกล้องถึงสี่ตัวในทุกทิศทาง เพื่อจำลองภาพเสมือนจริงในแบบ Bird Eye View เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในขณะถอยจอด หรือแม้แต่อยู่ในที่แคบๆ ก็ตาม
ส่วนพื้นที่โดยสารนั้นเป็นแบบ 5+2 ที่นั่ง เบาะคู่หน้านั่งสบายไม่อึดอัด บุบด้วยวัสดุอย่างดี ไม่แพ้รถยุโรปเลย ส่วนแถวกลางนั้นสามารถเลื่อนไปข้างหน้าหรือข้างหลังได้ เพิ่มพื้นที่ช่วงขาได้เป็นอย่างดี เบาะแถวสามออกแบบให้พับราบลงไปกับพื้นรถได้เลย เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกได้มากขึ้นนั่นเอง
เครื่องยนต์มีมาให้เลือกสองขนาดด้วยกันคือ 2.0 และ2.5 ลิตร โดยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เป็นเครื่องยนต์เบนซินบล็อกใหม่ เบนซิน 4 สูบ ไดเร็กต์อินเจกชั่นที่ฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ พร้อมระบบวาล์วแปรผัน ทั้งไอดีและ
ไอเสีย ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT เวอร์ชั่น 3 ที่ปรับอัตราทดให้กว้างขึ้นอีก 17% ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นอีก 14%
ส่วนเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตรนั้น ให้กำลังสูงสุดที่ 171 แรงม้า ซึ่งยกมาจากนิสสัน เทียน่า และได้รับการปรับจูนใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับตัวถังใหม่
ขาไป ไป 2.0 ขากลับ กลับ 2.5 ลิตร ความแตกต่างที่เห็นได้ชัด ก็คงไม่พ้นเรื่องอัตราเร่ง ในทางต่างจังหวัด เครื่องยนต์ 2.5 ลิตรทำได้ดีกว่าในเรื่องการเร่งแซง ที่พอเหยียบคันเร่งลงไปแรงบิดมาเลยไม่ต้องรอ ส่วน 2.0 นั้น ต้องรอสักหน่อยถึงจะไปได้ แต่ก็ไม่ได้ช้าอะไรนักหากไม่ได้ไปแข่งกับใครที่ไหน ความแตกต่างอีกข้อคงเป็นเรื่องเสียงของเครื่องยนต์ในขณะเร่งความเร็วอยู่นั้น สัมผัสได้เลยว่า เครื่องยนต์ 2.0 เสียงเครื่องดังกว่าตัว 2.5 ลิตรพอสมควร อาจเป็นเพราะต้องใช้รอบที่เยอะกว่าจริงที่ให้เสียงเครื่องยนต์ดังกว่านั่นเอง
ช่วงล่างดี เข้าโค้งได้สบาย เพราะถึงแม้จะเป็นรถยกสูงแต่การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงนั้นจะไม่ใช่ปัญหาของ New X-Trail อีกต่อไป เพราะมีตัวช่วยดีๆ อย่าง ระบบควบคุมแชสซีเพื่อลดการโยนตัว ระบบช่วยรักษาเสถียรภาพของรถยามเข้าโค้งหรือระบบลดความเร็วยามเข้าโค้ง ซึ่งระบบดังกล่าวไม่ได้ช่วยในเรื่องเข้าโค้งเพียงอย่างเดียว ยังช่วยในเรื่องการโยนไปโยนมาของตัวถังรถ ในขณะผ่านผิวทางที่เป็นหลุมเป็นบ่อได้ดีอีกด้วย ลดอาการเมารถของผู้โดยสารได้อีกทางหนึ่งด้วย
All New Nissan X-Trail มีค่าตัวเริ่มต้นที่ 1,172,000 บาท ไปจนถึง 1,551,000 บาท โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 ขนาด และมีระบบขับเครื่องให้เลือกอีกไม่ว่าจะ 2WD หรือ 4WD ซึ่งแบ่งเป็น 4 รุ่นย่อยด้วยกัน หากใช้ในเมืองเป็นหลัก 2.0 ลิตรก็เหลือๆ แล้ว แต่หากต้องการความสนุกในการขับขี่ที่มากขึ้นแล้วละก็ เครื่องยนต์ 2.5 ลิตรคือคำตอบสุดท้ายครับ
Trick & Tip สัญญาณจากเพื่อนร่วมทางห้ามปล่อยผ่าน
ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณแบบไหน หากมองแล้วว่าเขาส่งให้เรา เราก็อย่านิ่งดูดาย หรือปล่อยผ่านไป ให้สำรวจรถตัวเอง ว่าผิดปกติในส่วนไหนรึเปล่า เช่นการลืมปิดฝากระโปรง เป็นต้น จำไว้ว่าอย่าปล่อยผ่านนะครับ